อัมรินทร์ฟาร์ม กุ้งก้ามแดง บ้านไผ่

อัมรินทร์ฟาร์ม กุ้งก้ามแดง บ้านไผ่ จำหน่ายและเพาะพันธุ์กุ้งก้ามแดงหร?

ใครสนใจ กุ้งทักได้นะครับ ราคาถูกๆ  เปิด ขาย 30คู่พอครับ 2.5นิ้ว สนใจทักแชทจ้าาาหรือ 0942571822.
28/04/2017

ใครสนใจ กุ้งทักได้นะครับ ราคาถูกๆ เปิด ขาย 30คู่พอครับ 2.5นิ้ว สนใจทักแชทจ้าาา
หรือ 0942571822.

ส่งกุ้งเรียบร้อยครับ  3". 2คู่
16/02/2017

ส่งกุ้งเรียบร้อยครับ 3". 2คู่

2"-2.4". มี30ตัวคละเพศ ตัว50บาทครับสนใจ 0942571822
25/11/2016

2"-2.4". มี30ตัวคละเพศ ตัว50บาทครับสนใจ 0942571822

18/10/2016

กุ้งหมดนะค่าบบบบ ขอภัยลูกค้าที่โทรมานะครับ

13/10/2016

เชื่อว่าหลายๆคนอยากให้เดสทรัคเตอร์ของตัวเองเป็นสีขาว แต่จะทำอย่างไรนั้น ตามนี้นะคับ..

เลี้ยงกุ้งเดสทรัคเตอร์ สีขาวอย่างไร ให้ได้สีขาวเหมือนเดิม สำหรับเรื่องนี้นั้น สูตรไม่ยากว่า ต้องให้อาหารพวกโปรตีน เช่น พวกเต้าหู้ขาว , อาหารกุ้งโปรตีนสูงๆ และ พยายามอย่าให้เขาได้โดนแสงมากนัก ก็ถือว่าเป็น เรื่องที่ลำบากพอดูนะครับ คงต้องควบคุมเรื่องอาหาร และ เรื่องของแสงธรรมขาติด้วยส่วนหนึ่งอย่างไรก็ตาม แสงแดดตามธรรมชาติ เป็นตัวฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในน้ำได้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงกุ้งเดสทรัคเตอร์สีขาว ให้คงความขาวอยู่ได้นั้น ก็คงต้องใช้ความพยายามในการดูแลมากเป็นพิเศษหน่อยล่ะนะครับ และ ถ้าหาซื้อตัวที่มีสีขาวอยู่แล้ว จนถึงตอนโต ก็จะมีโอกาศได้กุ้งที่มีสีขาว โดยไม่เปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นครับ เพราะในตลาด บางทีก็จะมีบางเจ้าที่เลี้ยงลูกกุ้งในที่มืดๆ จนลูกกุ้งเป็นสีขาว แต่พอเอามาเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป กุ้งก็จะกลับมาเป็นสีตามกรรมพันธุ์ของตนเองอีกที ก็มีมากมายครับ

รีบๆโตก่อนหนาวนะเด็กนี้คือพ่อแม่พันธุ์.   รุ่นต่อไป1"145 ตัว
10/10/2016

รีบๆโตก่อนหนาวนะเด็กนี้คือพ่อแม่พันธุ์. รุ่นต่อไป
1"145 ตัว

08/10/2016

กุ้งใครที่เป็นโรคสนิมทำงัยดี ?

สำหรับกุ้งใครที่เป็นโรคสนิมก็ลองใช้ดูครับ หาซื้อได้ที่ร้านขายต้นไม้ทั่วไป บอกเขาว่าเอา EM ที่ขยายแล้ว (เพราะมันจะมีที่ยังไม่ขยายอยู่ จุลินทรีย์จะไม่แช็งแรงเท่าEMที่ขยายแล้ว) ปกติเขาจะใช้กับต้นไม้กัน แต่อย่าตกใจนะครับ มันใช้กับกุ้งได้...

วิธีการใช้ : ตู้ขนาด 36 นิ้ว ใช้ประมาณครึ่งฝา(ฝาแบบฝาขวดแป็ปซี่ลิตรอะครับ) ขนาด 20 นิ้วก็ 2/5 ของฝาอะครับ 64 นิ้วก็ 1 ฝาเลยครับ

ผล : ที่ผมใช้มาแทบจะหายขาดเลยจากที่ลามเป็นทั้งกล้าม พอใช้มาหลังลอกคราบยันบัดนี้ไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลยครับ และสามารถใช้รวมกับกุ้งที่ไม่ได้เป็นโรคสนิมได้ครับ

หาได้จาก : ร้านขายยาต้นไม้ทั้วไปครับ

รายละเอียด : EM ย่อมาจาก Effective Microorganisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิงะ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้ศึกษาแนวคิดเรื่อง " ดินมีชีวิต" ของท่านโมกิจิ โอกะดะ (พ.ศ.2425-2498) บิดาเกษตรธรรมชาติของโลกจากนั้น ดร.ฮิงะ เริ่มค้นคว้าทดลองตั้งแต่ปี พ.ศ 2510 และค้นพบ EM เมื่อ พ.ศ. 2526 ท่านอุทิศทุ่มเททำการวิจัยผลว่ากลุ่มจุลินทรีย์นี้ใช้ได้ผลจริง หลังจากนั้นศาสนาจารย์วาคุกามิ ได้นำมาเผยแพร่ในประเทศไทย โดยท่านเป็นประธานมูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา หรือ คิวเซ (คิวเซ แปลว่า ช่วยเหลือโลก) ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

จากการค้นคว้าพบความจริงเกี่ยวกับจุลินทรีย์ว่ามี 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณภาพ มีประมาณ 10 %
2. กลุ่มทำลาย เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ ทำให้เกิดโรค มีประมาณ 10 %
3. กลุ่มเป็นกลาง มีประมาณ 80 % จุลินทรีย์กลุ่มนี้หากกลุ่มใด มีจำนวนมากกว่ากลุ่มนี้จะสนับสนุนหรือร่วมด้วย

ดังนั้น การเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณภาพลงในดิน ก็เพื่อให้กลุ่มสร้างสรรค์มีจำนวนมากกว่า ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้กลับมีพลังขึ้นมาอีกหลังจากที่ถูกทำลายด้วยสารเคมีจนดินตายไป

จุลินทรีย์มี 2 ประเภท
1. ประเภทต้องการอากาศ (Aerobic Bacteria)
2. ประเภทไม่ต้องการอากาศ (Anaerobic Bacteria)

จุลินทรีย์ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และสามารถอยู่ร่วมกันได้
จากการค้นคว้าดังกล่าว ได้มีการนำเอาจุลินทรีย์ที่ได้รับการคัดและเลือกสรรอย่างดีจากธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อพืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อม มารวมกัน 5 กลุ่ม (Families) 10 จีนัส (Genues) 80 ชนิด (Spicies) ได้แก่

กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกเชื้อราที่มีเส้นใย (Filamentous fungi) ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการย่อยสลาย สามารถทำงานได้ดีในสภาพที่มีออกซิเจน มีคุณสมบัติต้านทานความร้อนได้ดี ปกติใช้เป็นหัวเชื้อผลิตเหล้า ผลิตปุ๋ยหมัก ฯลฯ

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกสังเคราะห์แสง (Photosynthetic microorganisms) ทำหน้าที่สังเคราะห์สารอินทรีย์ให้แก่ดิน เช่น ไนโตรเจน (N2) กรดอะมิโน (Amino acids) น้ำตาล (Sugar) วิตามิน (Vitamins) ออร์โมน (Hormones) และอื่นๆ เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ดิน

กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก (Zynogumic or Fermented microorganisms) ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ดินต้านทานโรค (Diseases resistant) ฯลฯ เข้าสู่วงจรการย่อยสลายได้ดี ช่วยลดการ พังทลายของดิน ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชบางชนิด ของพืชและสัตว์ สามารถบำบัดมลพิษในน้ำเสียที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษต่างๆ ได้

กลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกตรึงไนโตรเจน (Nitrogen fixing microorganisms) มีทั้งพวกที่เป็นสาหร่าย (Algae) และพวกแบคทีเรีย (Bacteria) ทำหน้าที่ตรึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศเพื่อให้ดินผลิตสารที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต เช่น โปรตีน (Protein) กรดอินทรีย์ (Organic acids) กรดไขมัน (Fatty acids) แป้ง (Starch or Carbohydrates) ฮอร์โมน(Hormones) วิตามิน (Vitamins) ฯลฯ

กลุ่มที่ 5 เป็นกลุ่มจุลินทรีย์พวกสร้างกรดแลคติก (Lactic acids) มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อรา และแบคทีเรียที่เป็นโทษ ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศหายใจ ทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพดินเน่าเปื่อย หรือดินก่อโรคให้เป็นดินที่ต้านทานโรค ช่วยลดจำนวนจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคพืชที่มีจำนวนนับแสน หรือให้หมดไป นอกจากนี้ยังช่วยย่อยสลายเปลือกเมล็ดพันธุ์พืช ช่วยให้เมล็ดงอกได้ดีและแข็งแรงกว่าปกติอีกด้วย

ลักษณะทั่วไปของ EM

EM เป็นจุลินทรีย์ กลุ่มสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มที่มีประโยชน์ หรือ เรียกว่ากลุ่มธรรมะ ดังนั้น เวลาจะใช้ EM ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอว่า EM เป็น สิ่งมีชีวิต EM มีลักษณะดังนี้

ต้องการที่อยู่ ที่เหมาะสม ไม่ร้อนเกินไป หรือเย็นเกินไป อยู่ในอุณหภูมิปกติ
ต้องการอาหารจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาล รำข้าว โปรตีน และสารประกอบอื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
เป็นจุลินทรีย์จากธรรมชาติ ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีและ ยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้
เป็นตัวเอื้อประโยชน์แก่พืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
EM จะทำงานในที่มืดได้ดี ดังนั้นควรใช้ช่วงเย็นของวัน
เป็นตัวทำลายความสกปรกทั้งหลาย

การดูแลเก็บรักษา

หัวเชื้อ EM สามารถเก็บได้นานประมาณ 1 ปี โดยปิดฝา ให้สนิท
อย่าทิ้ง EM ไว้กลางแดด และ อย่าเก็บไว้ในตู้เย็น เก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิปกติ ทุกครั้งที่แบ่งไปใช้ต้องรีบปิดฝาให้สนิท เพื่อไม่ให้เชื้อโรค หรือจุลินทรีย์ในอากาศที่เป็นโทษ เข้าไปปะปน
การนำ EM ไปขยายต่อ ควรใช้ภาชนะที่สะอาด และใช้ให้หมดในระยะเวลาที่เหมาะสม

ข้อสังเกตพิเศษ

หาก EM เปลี่ยนเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็นเน่า ถือว่า EM ตาย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อีก ให้นำ EM ที่เสียผสมน้ำรดกำจัดหญ้าและวัชชพืชที่ไม่ต้องการได้
กรณีเก็บไว้นานๆ จะมีฝ้าขาวเหนือผิวน้ำ แสดงว่า EM พักตัว เมื่อเขย่าภาชนะ ฝ้าสีขาวจะสลายตัว กลับไปอยู่ในน้ำเหมือนเดิมนำไปใช้ได้
เมื่อนำไปขยายเชื้อในน้ำและกากน้ำตาล จะมีกลิ่นหอมและ เป็นฟองขาวๆ ภายใน 2-3 วัน ถ้าไม่มีฟอง น้ำนิ่งสนิทแสดงว่าการหมักขยายเชื้อยังไม่ได้ผล

งอกบ่ออีกแล้วครับท่าน รองรับลูกกุ้ง
04/10/2016

งอกบ่ออีกแล้วครับท่าน รองรับลูกกุ้ง

เปิดขาย4"+1คู่ครับ  650  สวยๆสนใจinboxครับ
02/10/2016

เปิดขาย4"+1คู่ครับ 650 สวยๆสนใจinboxครับ

เดือนนี้ปิดการขายครับเดือนหน้าค่อยเปิดครับ กำลังขุนครับขอบคุณครับ  ปรึกษา 0942571822
01/10/2016

เดือนนี้ปิดการขายครับเดือนหน้าค่อยเปิดครับ กำลังขุนครับขอบคุณครับ ปรึกษา 0942571822

29/09/2016



วิธีเช็คกุ้งไข่สำหรับมือใหม่

มือใหม่มักชอบเข้าใจกันผิดๆ ว่ากุ้งตัวเมียติดน้ำเชื้อต้องจับแยก หรือกุ้งขับไข่แล้วต้องรีบจับแยก นั้นคือผิดมหันต์

วิธีเช็คเบื้องต้น
ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น หรือไม้ตะเกียบแหย่ไปที่ตัวกุ้งที่ห่อหาง หากกุ้งหนีแบบไม่เปิดหางไม่ดีดตัวแรงกุ้งตัวนั้นอาจจะกำลังไข่ แต่หากกุ้งหนีแบบดีดตัวเปิดหางกุ้งอาจจะไม่ได้ไข่ครับ

วิธีเช็คแบบละเอียด
ให้นำแก้วใสลงไปในนำ้แล้วต้อนกุ้งเข้าแก้วแบบเบาๆแล้วดูที่ท้องกุ้ง

หากเราพบว่ากุ้งไข่พยายามอย่าไปรบกวน หากกุ้งไข่ใน 2 อาทิตย์แรกจะมีอัตราเสี่ยงมาก หากไปย้ายที่หรือรบกวน ให้ปล่อยทิ้งไว้ก่อนแล้ว ค่อยย้ายหลังจาก 2-3 อาทิตย์ หรือ 20-25 วัน โดยนำน้ำเก่ามาด้วย จะเริ่มเห็นตากับหนวดลูกกุ้งแล้วโอกาสสลัดไข่จะน้อยลง

ข้อแนะนำ
1.ไม่ควรจับกุ้งไข่ด้วยมือเปล่าหรือสวิงช้อนขึ้นมา
2.ไม่ควรแยกเร็วจนเกินไป
3.ไม่ควรไปรบกวนแม่ไข่บ่อยๆ
4.ควรเอาน้ำเดิมใส่ให้แม่กุ้งตอนแยกไข่
5.ให้อาหารวันล่ะครั้งและจำนวนไม่มาก

29/09/2016


มือใหม่อ่านเลย การเลี้ยงกุ้งเครฟิช (Crayfish)ง่ายนิดเดียว แค่เข้าใจหลักการเลี้ยงเท่านั้น..อ่านแล้วจะเลี้ยงรอดคับ!!

กุ้งเครฟิชคืออะไร?
กุ้งเครฟิช หมายถึงกุ้งมังกรหรือล็อบเตอร์น้ำจืด (Freshwater lobster) เป็นคนละชนิดกับกุ้งมังกรหรือ ล็อบเตอร์น้ำเค็ม

เครฟิช จะมีเปลือกหนาเป็นชุดเกราะคลุมส่วนหัว-อกและลำตัว ส่วนขา มี 2 ประเภทคือขาเดินและขาว่ายน้ำ สำหรับขาเดินจะมี 5 คู่ด้วยกัน ขาเดินคู่แรกสุดเป็นก้ามที่แข็งแรงใหญ่ไว้ป้องกันตัวและต่อสู้ ส่วนขาว่ายน้ำนั้นจะเป็นแผ่นแบนๆ

ถิ่นที่อยู่ในธรรมชาติ
กุ้งเครฟิช มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเซียตะวันออก และออสเตรเลีย ปัจจุบันมีการค้นพบมากกว่า500 ชนิดแล้ว โดยมากกว่าครึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ในธรรมชาติกุ้งเครฟิชจะอาศัยอยู่ตามโขดหินหรือใต้ขอนไม้อยู่ในทั้งลำธาร หนองน้ำ และทะเลสาป

กุ้งเครฟิชในโลก แบ่งออกเป็นหลายตระกูล ( Genus) แต่ในที่นี้เราจะขอจำแนกกลุ่มของเครฟิชที่มีในบ้านเราออกเป็น 3 สาย เพื่อจะได้เข้าใจง่าย ดังนี้
สายที่ 1 คือ Procambarus บ้านเรานิยมเรียกกุ้งสาย พี ที่ฟาร์มเรียก กุ้งก้ามหนาม แม่ค้าเรียกกุ้งสี ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาและยุโรป

สายที่ 2 คือ Cherax บ้านเรานิยมเรียกกุ้งสาย ซี หรือกุ้งก้ามเรียบ ที่ฟาร์มเรียก กุ้งป่า เพราะส่วนมากจับมาและมีถิ่นกำเนิดในโซน ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกินี และอินโดนีเซีย

สายที่ 3 คือ Cambarellus บ้านเราเรียกกุ้งเครแคระ เพราะมีขนาดเล็ก 3-4 ซม.

หลักการเลี้ยงกุ้งเครฟิช
กุ้งเครฟิชมีหลักการเลี้ยงที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือดัดแปลงมาจากอุปนิสัยและการอยู่อาศัยของมันเองคือ

1.โดยธรรมชาติ กุ้งทุกชนิดชอบออกหากินในเวลาคืน ไม่ชอบแสง ดังนั้นกลางวันอาจจะนอนหรือหลบทั้งวัน จึงต้องการที่หลบซ่อนและปิดบังจุดที่กุ้งจะปีนหลบหนีได้ ยกเว้นกุ้งที่ได้รับการเพาะเลี้ยงในบ้านเราจะคุ้นเคยกับการเลี้ยงและฝึกอาหาร
2.มีก้ามเป็นอาวุธไว้ต่อสู้ป้องกันตัวเอง กุ้งตัวผู้จะมีขนาดของก้ามที่ใหญ่โตสง่างาม สีสรรสวยงามและแข็งแรงกว่ากุ้งตัวเมีย
3. กุ้งอ่อนแอที่สุดเวลาลอกคราบ มักจะถูกรุมทำร้ายหรือจับกิน ดังนั้นอาหารต้องพอเพียง ตู้ต้องกว้างเพียงพอและมีที่หลบซ่อนที่ปลอดภัย

4.กุ้งแยกกันกินแยกกันอยู่หรืออาจจับคู่ในระยะสั้นๆ จึงไม่ควรเลี้ยงปนกันหลายตัวในที่แคบๆ ส่วนมากจะกุ้งจะไม่จำว่าเป็นคู่ของมัน ถ้าหิวหรือลอกคราบอาจทำร้ายกันได้เสมอ

ตู้เลี้ยงและอ่างเลี้ยงกุ้ง
1.เราสามารถเลี้ยงกุ้งเครฟิช ในภาชนะใดๆก็ได้ ที่มีการถ่ายเทน้ำที่ดี ไม่ร้อนเกินไป อุณหภูมิน้ำ ประมาณ 23 -28 องศา อาจจะเป็นครึ่งบกครึ่งน้ำก็ได้ น้ำครึ่งตู้ น้ำเต็มตู้ก็ได้ หากจะเลี้ยงหลายๆตัวแต่ต้องกว้างขวางเพียงพอ กุ้งใหญ่ขนาด 3-4 นิ้ว 1 ตัว ใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 ฟุต

2.ถ้าจะเลี้ยงหลายตัวควรเลือกเลี้ยงกุ้ง สายเดียวกัน ไซซ์ไล่เลียกัน เพื่อให้มันสามารถปกป้องตัวเองได้ มิเช่นนั้นกุ้งตัวเล็ก มักจะถูกรังแกและมีโอกาสที่จะถูกจับกิน

3.ที่หลบซ่อนใช้ขอนไม้ กระถางดินเผา กระถางต้นไม้แตกๆ อุปกรณ์ที่เจาะเป็นโพรง หรือท่อพีวีซีตัด เป็นท่อนๆให้กุ้งหลบอาศัยในเวลากลางวัน กุ้งใหญ่

4.ปิดฝาหรือจุดที่กุ้งจะปีนหนีได้

ล็อบเตอร์ฟาร์ม ( Lobster Farm ) ศูนย์รวมกุ้งสวยงามน้ำจืด ,กุ้งเครฟิช หรือ กุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด

วัสดุปูรองพื้น
การเลี้ยงกุ้งเครฟิช ในตู้ เพื่อความสวยงามควรปูหินกรวดเล็ก รองพื้นตู้ ซึ่งมีมีประโยขน์ต่อกุ้งหลายประการคือ

1.ทำให้กุ้ง ไม่ตื่นตกใจ และมีสรรสวยงามมากขึ้น กุ้งสามารถปรับตัวตามสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าเน้นหินสีดำหรือน้ำตาล จะทำให้กุ้งมีสีเข้มขึ้น

2.กุ้งป่า ส่วนมากจะขุด กรวดหิน เป็นที่หลบซ่อน

3.หินกรวดช่วยดูดซับตะกอนและเศษอาหาร ทำให้น้ำในตู้ใสอยู่เสมอ

การให้อากาศและระบบกรองน้ำ
ถ้าเราเลี้ยงกุ้งแค่ตัวเดียว และมีพื้นที่กว้างและดูแลน้ำได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องให้อากาศก็ได้

แต่ในระบบตู้เลี้ยง ซึ่งเน้นความสวยงาม และเลี้ยงกุ้งหลายตัว หรือ กั้นตู้ การให้อากาศยังจำเป้นอยู่มาก แต่กุ้งใช้อากาศน้อยกว่าปลา สามารถใช้หัวทรายจุ่มลงในน้ำ 3-4 นิ้ว กันฟุ้ง หรือใช้กรองในตู้ กรองแขวน กรองกล่องได้ ยกเว้นกรองแผ่นพื้นจะโดนกุ้งขุด และกรองฟองน้ำอาจโดนกุ้งแทะเล่น

น้ำ
อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยง Crayfish คือช่วง 23-28 องศาเซลเซียล ค่า PH ที่เหมาะสมคือประมาณ PH7.5 - 8.5 ที่มีความกระด้างสูง ผู้เลี้ยงสามารถใส่เกลือลงไปในตู้ได้เล็กน้อย เกลือยังช่วยเสริมแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการลอกคราบและสร้างเปลือกใหม่ด้วย สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำ ผู้เลี้ยงควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำ สัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 30 -50 % ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงและการให้อาหาร แต่ควรปรับอุณหภูมิน้ำให้ดี

อาหารการกิน
กุ้งเครฟิช กินอาหารได้แทบทุกชนิด นิสัยของกุ้งจะกินอาหารได้ทั้งวัน แต่ในธรรมชาติมันจะกินอาหารประเภทพืชผัก รากไม้ ใบไม้ ผลไม้เป็นหลัก ในที่ เลี้ยงผู้เลี้ยงสามารถให้ ข้าวโพด มันฝรั่ง ถั่วลันเตา ฟักทอง แอปเปิ้ลได้ พรรณไม้น้ำที่ใช้ตกแต่งตู้อาจโดนรื้อทึ้งเป็นอาหารได้ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อ ไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อกุ้งทะเลหรือกุ้งฝอยหั่นชิ้นเล็กๆได้ ถ้าให้ง่ายยิ่งไปกว่านั้นอาหารเม็ดสำเร็จรูปชนิดจมสูตรต่างๆ

การเลี้ยงรวมกับปลาสวยงาม
ถึงแม้ว่าในธรรมชาตินั้น Crayfish จะเก็บเศษซากพืชซากสัตว์กินเป็นอาหารหลัก แต่ในที่เลี้ยงสถานที่ที่มีอาหารอย่างจำกัดนั้น มันจะจับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กินเป็นอาหาร โดยเฉพาะกุ้งขนาด 1.5 2.5 นิ้ว มักจะชอบไล่จับปลากิน ส่วนกุ้งขนาดใหญ่ นิสัยนักล่ามันจะลดลง หากต้องการเลี้ยงปลากับกุ้งด้วยกันให้ยึดหลักดังนี้

1.ขนาดตู้ ต้องกว้างเพียงพออย่างน้อย 24 นิ้ว น้ำลึกอย่างน้อย 1 ฟุต

2.เลือกชนิดปลาขนาดเล็กที่ว่ายน้ำเร็ว หรือหากินกลางน้ำ ปลาที่ว่ายน้ำช้า ปลาที่มีครีบยาวๆ ปลาที่มีนิสัยนอนพื้นตู้ ไม่ควรเลี้ยงเด็ดขาด

3.ปลาเทศบาล ที่เลี้ยงได้เช่น ปลาซัคเกอร์ น้ำผึ้ง ปลาจิ้งจก

วิธีการเลือกซื้อ Crayfish
1.เลือกกุ้งที่มีอวัยวะสำคัญต่างๆครบสมบูรณ์คือ ดวงตาและก้ามครบ2 ข้าง ขาเดินครบทั้ง4 คู่

2.มีเปลือกลำตัวแข็ง ไม่อยู่ในช่วงระยะลอกคราบ ซึ่งร่างกายอ่อนแอ

3.เลือกกุ้งที่แข็งแรง มีอาการตอบสนองป้องกันตัวเมื่อถูกรบกวน เช่น การยกก้ามคู่ป้องกันตัวเอง หลบหนีด้วยการดีดลำตัวอย่างว่องไวหรือ พยายามปีนป่ายหนีเมื่อนำมาใส่ภาชนะ

4.เลือกซื้อกุ้งคุณภาพจากร้านและฟาร์มที่ท่านไว้ใจ และสังเกตจากสภาพน้ำและภาชนะที่วางขาย

5.กรณีที่เป็นกุ้งนำเข้าจากต่างประเทศ ควรได้รับการปรับสภาพ พักและเปลี่ยนถ่ายน้ำแล้วอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป ( หายาก )

29/09/2016


มือใหม่ควรศึกษากับ 8 ข้ออันตรายในการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงและเครฟิช

1.กุ้งอายุมาก (หมดอายุไข)
2.ดูแลเรื่องน้ำไม่ดี ไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำ..ของเสียมาก
3.ลอกคราบไม่ผ่าน สะสมอาหารไม่เพียงพอ
ลอกคราบไม่ผ่านเพราะก่อนลอกคราบเปลี่ยนถ่ายน้ำก่อน ลอกคราบไม่ผ่านเพราะเป็นสนิม ลอกคราบผ่านแต่ก็ตายเพราะหมดแรง ไม่มีอ๊อคซิเจน
อันนี้แยกไม่ทัน ลอกคราบผ่าน..เพื่อนช่วยกันเอาไปกิน
4.ใส่อาหารมากเกินไป น้ำเสีย กุ้งน็อค..แล้วก็ตาย
โดยเฉพาะลูกกุ้ง ใส่อาหารมากเกินไป น้ำเสียเร็ว
5.ด้วยความซ่า ปีนออกนอกตู้ แห้งตาย
6.เลี้ยงกุ้งตัวเล็กรวมกับตัวใหญ่ โดนตัวใหญ่กิน
7. กุ้งลอกคราบแยกใส่กล่องแยกไม่ปิดฝา กุ้งแข็งแรงแล้วปีนออกจากกล่องแยกลงไปในตู้ โดยเพื่อนๆช่วยกันกิน อร่อยเหาะ!
และ
8.โดนยาฆ่าแมลง ยาฉีดยุง ยาฉีดปลวก โลชั่นทามือทาแขน เส้นผมที่มียาย้อมผม เส้นผมที่มีเจลแต่งผม ยาทาเล็บ มือเปื่อนน้ำมัน หรือจับอะไรมาแล้วไปโดยน้ำในตู้กุ้ง ก่อนเลี้ยงกุ้งควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง กุ้งถ้าโดนสารเคมีไม่ตายก็ไม่โต
ผู้เพาะเลี้ยงกุ้งโดนกันมามากแล้ว...คับ

ฝากเตือน..ผู้ที่เริ่มเลี้ยงและจะเริ่มต้นเลี้ยงกุ้งเครฟิชด้วยคับ....

เห็นแบบนี้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ  3"+
27/09/2016

เห็นแบบนี้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ 3"+

อัตตรา การให้หนอนแดงกับลูกกุ้ง ไซต์ 2เซนติเมตร  ถึง1.5นิ้ว  2ก้อนต่อ40ตัวครับ  นี้ตัวผมทำเองลองนำไปใช่ได้ครับ
26/09/2016

อัตตรา การให้หนอนแดงกับลูกกุ้ง ไซต์ 2เซนติเมตร ถึง1.5นิ้ว 2ก้อนต่อ40ตัวครับ นี้ตัวผมทำเองลองนำไปใช่ได้ครับ

21/09/2016

เอาเกร็ดความรู้มาฝากครับ
มือใหม่ต้องอ่าน
ปัญหาที่พบในการเลี้ยงกุ้งก้ามแดง

กุ้งก้ามแดงที่เลี้ยงนั้นอาจเป็นโรคได้ และโรคที่พบเห็นได้บ่อยๆ ก็คือโรคสนิม ลักษณะโรคจะมีผงสีน้ำตาลหรือสีทองเกาะอยู่ตามตัวกุ้งดูคล้ายสนิม โรคนี้เกิดจากเชื้อโปรโตซัวชนิดหนึ่งซื้อต้องอาศัยเกาะติดกับสัตว์น้ำ ในฐานะปรสิต และเชื้อชนิดนี้ก็จะดูดสารอาหารจากตัวกุ้งได้ ทำให้เกิดบาดแผล ติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราแทรกซ้อนได้ นับเป็นสาเหตุการตามที่สำคัญสาเหตุหนึ่งของสัตว์น้ำเลยทีเดียว โรคสนิมเกิดได้ทั้งในกุ้งและในปลา อาการคือกุ้งหรือปลาที่เป็นโรคจะซึม ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ไม่กินอาหาร

นอกจากโรคสนิมแล้ว ยังมีโรคในกลุ่มของวิบริโอซีส ที่เป็นอันตรายต่อกุ้งก้ามแดงได้ อาการของกุ้งที่ติดเชื้อวิบริโอซิสคือตามขาของกุ้งจะมีรอยไหม้สีดำ จากการที่กุ้งพยายามสร้างเม็ดสี มีการอักเสบบริเวณตับ ตับฝ่อ กินอาหารน้อยลงและตายได้
การป้องกันโรค ทำได้โดยควบคุมอาหารที่ให้ในปริมาณที่เหมาะสม ดูแลคุณภาพน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ วิธีรักษาเบื้องต้นทำได้โดยการถ่ายน้ำ เร่งให้กุ้งลอกคราบ และถ้าลอกคราบแล้วก็รีบตักคราบทิ้งโดยทันที เมื่อลอกคราบได้แล้วก็จะหายเป็นปกติ กุ้งทั่วไปที่มีสุขภาพดี มีคุณภาพน้ำเหมาะสม จะลอกคราบเดือนละ 1 – 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดและวัยของกุ้ง ซึ่งถึงแม้ว่ากุ้งจะไม่ค่อยเป็นโรค แต่ถ้าเป็นแล้วจะรุนแรง มีอัตราการตายสูงและสูญเสียเร็วมาก

โรคหางพอง
โรคหางพอง สาเหตุเกิดจากน้ำเลี้ยงกุ้งที่สกปรก วิธีรักษาคือ ตัดหางกุ้งบริเวณที่พองออก แล้วนำตัวกุ้งไปแช่น้ำเกลือนาน 10-15 นาที เมื่อกุ้งลอกคราบก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

กุ้งกินกันเอง
กุ้งก้ามแดงมีนิสัยดุและก้าวร้าว หากเลี้ยงรวมกันหลายตัวย่อมเกิดการทำร้ายกันขึ้นได้ จึงควรมีที่หลบให้กุ้งอย่างเพียงพอ ปัญหานี้เกิดบ่อยในเวลาที่กุ้งตัวใดตัวหนึ่งลอกคราบ เป็นช่วงที่กุ้งอ่อนแอมากที่สุด และหากไม่มีที่หลบก็จะโดนกุ้งตัวอื่นๆ ในบ่อกินได้

(เราสามารถสังเกตได้ถ้าสงสัยว่ามีกุ้งที่โดนกินไป ดูจากเม็ดแคลเซียมสีขาวๆที่ตกอยู่ในบ่อ ปกติแล้วกุ้งก้ามแดงจะมีเม็ดแคลเซียมอยู่ที่หัว 1 ตัว จะมี 2 เม็ด ทำให้เราประมาณได้ว่ากุ้งกินกันเองไปกี่ตัวแล้ว

กุ้งปีนหนีจากบ่อ
กุ้งก้ามแดงเป็นกุ้งที่ไม่ว่ายน้ำ จะเดินอยู่เฉพาะพื้นบ่อหรือพื้นตู้เท่านั้น แต่ถ้าขอบบ่อไม่สูงพอและไม่มีที่กั้น กุ้งก็จะสามารถปีนหนีขึ้นมาได้ และส่วนใหญ่ถ้าไม่หายไปเลยก็จะพบว่าแห้งตายอยู่ใกล้ๆ บ่อหรือตู้นั่นเอง ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการปิดฝาตู้เลี้ยง เช็คตามขอบอย่าให้กุ้งมีที่ปีนออกจากบ่อ และหาตาข่ายล้อมรอบบ่อไม่ให้กุ้งเล็ดรอดออกไปได้

กุ้งน็อคน้ำ (ปัญหาขั้นพื้นฐานยอดฮิต)
สําหรับผู้ที่เลี้ยงกุ้งกลางแจ้ง ปัญหานี้จะเกิดขึ้นบ่อยมากในช่วงฤดูฝน เพราะน้ำฝนลงไปในบ่อกุ้งปริมาณมาก เพราะสภาพน้ำในบ่อและน้ำฝนไม่เหมือนกัน หากกุ้งปรับสภาพไม่ทันก็เกิดภาวะน็อคน้ำและตายไปในที่สุด

ถ้าในบ่อมีปั๊มลม ก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้ด้วยการเปิดปั๊มลมแรงๆ ในบ่อ เพื่อให้ของเสียที่มากับน้ําฝนแตกตัวออกไป แล้วโมเลกุลของน้ําไปจับกับอ๊อกซิเจนแทน และสำหรับบ่อกลางแจ้งไม่ว่าจะมีปั๊มหรือไม่นั้น ก็ควรมีผ้ายาง หรือ ผ้าใบพลาสติกบังไว้บ้าง

แม่กุ้งสลัดไข่ทิ้ง
มีสาเหตุหลายอย่าง ทั้งจากแม่พันธุ์ที่ยังอายุน้อยไป น้ำเลี้ยงไม่สะอาด บริเวณที่เลี้ยงมีสิ่งรบกวนมากเกินไปจนแม่กุ้งเกิดความเครียด เมื่อพบว่าแม่พันธุ์กุ้งมีไข่แล้ว ก็ควรจับแยกไว้เลี้ยงเดี่ยวในภาชนะอีกใบ เพื่อไม่ให้ถูกกุ้งตัวอื่นๆ รบกวน และไม่ควรเปลี่ยนน้ำ เพราะหากอุณหภูมิเปลี่ยนกะทันหันแม่กุ้งอาจสลัดไข่ทิ้ง มีปั๊มลมให้ ให้อาหารตามปกติ (อย่ามากเกิน ระวังน้ำเสียเร็ว) และผู้เลี้ยงก็ควรปล่อยแม่พันธุ์ไว้สงบๆ ไม่ไปรบกวนมาก

กุ้งลอกคราบไม่ผ่าน
สาเหตุของการลอกคราบไม่ผ่านนั้น อาจเป็นเพราะอุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงมากและเร็วเกินไป กุ้งถูกรบกวนระหว่างกระบวนการลอกคราบ หรืออาจเกิดจากตัวกุ้งสะสมสารอาหารไม่เพียงพอก็ได้ ป้องกันได้ด้วยการดูแลเรื่องอาหารของกุ้งให้เหมาะสม และเมื่อพบว่ากุ้งจะลอกคราบ ก็ไม่ควรเข้าไปรบกวน

19/09/2016


การเจริญเติบโตของกุ้งก้ามแดง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ใน The Change Project of RCIC

1. "กุ้งหัวคอก" โตเร็ว กินเก่ง ตัวใหญ่กว่าเพื่อนๆ ในรุ่น หรือคอกเดียวกัน และพวกนี้มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก หรือเรียกง่ายว่า (ยีนเด่น) เหมาะแก่การนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์คุณภาพ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสมบูรณ์ที่สุดครับ

2. "กุ้งเจริญเติบโตตามปกติ" จะใช้ระยะเวลาเจริญเติบโตตามเกณฑ์ เจริญเติบโตตามกำหนดของช่วงอายุ และรวมไปถึงความสมบูรณ์ด้วยครับ

3. "กุ้งหางคอก" เป็นกุ้งที่ไม่ค่อยเจริญเติบโต โตช้า กินน้อย และไม่ค่อยสมบูรณ์ หรือพูดง่ายว่า (ยีนด้อย) แต่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ แต่จะใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าพวกที่สมบูรณ์ และพวกที่เจริญเติบโตตามปกติมากกว่าหลายเท่าตัว บางตัวก็ไม่เจริญเติบโต และแคระแกร็นไปเลยก็มีครับ

*ทีนี้เราจะสามารถนึกภาพออกได้ว่า เราควรใช้กุ้งส่วนไหนเพื่อทำพันธุ์ และเราใช้กุ้งส่วนไหนเป็นกุ้งเนื้อเพื่อบริโภค หรืออย่างประเภทกุ้ง "หัวคอก" ถ้าเราเหลือคัดจากการทำพันธุ์ กุ้งประเภทนี้จะสามารถเป็นกุ้งเนื้อเพื่อบริโภคได้ดีที่สุดเช่นกันครับ

*เกรดของกุ้งจะแบ่งออกเกณฑ์ และแบ่งออกตามการเจริญเติบโตของกุ้ง เราไม่สามารถนำกุ้งมาทำพันธุ์ หรือขยายพันธุ์ได้ทุกตัว สมมุตเรามีกุ้ง 1000ตัว จะสามารถคัด"กุ้งหัวคอก"ทำพันธุ์ได้แค่ 200-400ตัว เพียงเท่านั้น !

ในส่วนที่เหลือเราต้องตีเป็นกุ้งเนื้อเพื่อบริโภคเพียงเท่านั้น !

กุ้งที่คัดเกรดเป็นกุ้งเนื้อ เราสามารถนำมาทำเพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์ได้ไหม ?

ตอบ : ได้ครับ แต่ความสมบูรณ์ของลูกที่ออกมา จะไม่ค่อยดี และไม่สมบูรณ์เท่าควรจะเป็นอย่างกุ้งหัวคอก ทีมีความเด่นในเรื่องยีนต์ และพันธุกรรม ถ้าเรามีพ่อแม่พันธุ์ที่ดี ถูกคัดสรรค์มาอย่างมีประสิทธิภาพ ลูกที่ออกมาก็จะดี และเด่นตามพันธุกรรมของพ่อ และแม่

อดีต : การเพาะลูกพันธุ์ เมื่อกุ้งเจริญเติบโต และสามารถแบ่งเพศได้ชัดเจน เราจะได้ เพศผู้ 40% เพศเมีย 60%

ปัจจุบัน : การเพาะลูกพันธุ์ เมื่อกุ้งเจริญเติบโตได้ขนาด 2-2.5นิ้ว และสามารถแบ่งเพศได้ชัดเจน เราจะได้ เพศผู้ 60% เพศเมีย 40%

*แสดงให้เห็นการพัฒนาสายพันธุ์เสื่อมถอยลงในปัจจุบัน ผลของการเลือกซื้อ ไม่เลือกสายพันธุ์ และไม่มีแหล่งที่มาของกุ้งชัดเจน ไปเอาตรงนู้นมาไขว้ตรงนี้ ไปเอาตรงนี้มาไขว้ตรงนั้น จนเกิดการมั่วเกิดขึ้น ไม่ต่างอะไรจากการใช้กุ้งพ่อผสมกับลูก ลูกผสมกับแม่ มีแต่ด้อยกับด้อยครับ

**ผลกระทบ และผลเสียของกุ้งรุ่นต่อไปจะไม่ตกอยู่ผู้ค้าอย่างแน่นอน จะไปตกอยู่ที่ผู้ซื้อ หรือผู้ที่นำไปเพาะเลี้ยง และต่อยอดครับ ผู้ที่ซื้อ และต้องการที่จะได้พ่อแม่พันธุ์ และลูกพันธุ์ที่มีคุณภาพ ควรเลือกซื้อกับฟาร์ม และผู้เพาะเลี้ยงที่ไว้ใจได้ มีจรรยาบรรณทางการค้า ไม่หลอกลวงผู้บริโภค และผู้ที่นำไปต่อยอด เพราะกุ้งทุกตัวหน้าตาเหมือนกันหมด เราไม่สามารถแยกแยะออกได้เลยว่า ภายในของกุ้งเป็นยังไง อายุเท่าไหร่ กุ้งเลี้ยงมากี่เดือน กี่ปี เป็นกุ้งแคระแกร็นรึป่าว ผู้ซื้อ และผู้เพาะเลี้ยง(มือใหม่) ควรตรวจสอบ ตรวจเช็คทุกครั้ง และศึกษาให้ดีก่อนซื้อ และรับน้องกุ้งกลับบ้าน เพื่อนำไปต่อยอดในเลี้ยงอนาคตครับ

ติดตามโครงการนี้เร็วๆนี้คับ กับอาจารย์นุของเรา คลาสสิค เครฟิช บางพระ

กุ้งก้ามแดงทำไมต้องควบคุม…“กุ้งก้ามแดงหรือกุ้งเครย์ฟิช เป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่นำมาเข้ามาจากออสเตรเลีย จากรายงานวิจัยของต...
17/09/2016

กุ้งก้ามแดงทำไมต้องควบคุม…

“กุ้งก้ามแดงหรือกุ้งเครย์ฟิช เป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่นำมาเข้ามาจากออสเตรเลีย จากรายงานวิจัยของต่างประเทศพบว่าเป็นสัตว์น้ำที่อาจทำลายสิ่งแวดล้อมได้ เช่น เลี้ยงในนาข้าวก็อาจจะกัดกินต้นข้าว แต่ทั้งนี้ในบ้านเราเองยังไม่ได้มีการทำรายงานวิจัยอย่างชัดเจนว่าจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมของเราหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านก็มีสัตว์น้ำหลายชนิดที่อาจจะเหมาะกับบ้านเรา เช่น ปลาช่อน ในขณะที่อเมริกาห้ามนำเข้าปลาช่อนไปเลี้ยงเพื่อขายหรือจำหน่าย เพราะเขามองว่าไปกินสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ”

จากเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวนี้ จึงมีการควบคุมไว้ก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่า “ห้ามเลี้ยง” ตรงประเด็นนี้ รองอธิบดีกรมประมงได้ย้ำหลายครั้ง และเมื่อสักระยะเวลาหนึ่งที่นักวิจัยของไทยได้ทำความชัดเจนให้เกิดขึ้นก็อาจจะมีการผ่อนผัน และเปิดเสรีให้เลี้ยงก็เป็นได้

สอบถามรายละอียดเพิ่มเติมได้ที่ไหนบ้าง?

สำนักงานประมงจังหวัด
สำนักงานประมงอำเภอ
กองกฎหมาย กรมประมง หรือเว็บไซต์กรมประมง
(กรณีต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายการเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆสามารถเข้าถึงได้ที่
http://www.fisheries.go.th/law/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=183

กองกฎหมาย (กกม) กรมประมง

16/09/2016


มือใหม่ต้องอ่าน ไม่อ่านพลาดแน่นอน...

บทสรุปของการเลี้ยงกุ้งและเครฟิช ให้รอด และซื้อหามาได้อย่างคุ้มค่า และที่สำคัญหลักการนี้คุณทำได้โอกาสรอดถึง 90% อีก 10% เป็นเรื่องของไฟฟ้าดับ!

กุ้งก้ามแดง และเครฟิชมีหลักการเลี้ยงที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือดัดแปลงมาจากอุปนิสัยและการอยู่อาศัยของมันเองคือ

1.โดยธรรมชาติ กุ้งทุกชนิดชอบออกหากินในเวลาคืน ไม่ชอบแสง ดังนั้นกลางวันอาจจะนอนหรือหลบทั้งวัน จึงต้องการที่หลบซ่อนและปิดบังจุดที่กุ้งจะปีนหลบหนีได้ ยกเว้นกุ้งที่ได้รับการเพาะเลี้ยงในบ้านเราจะคุ้นเคยกับการเลี้ยงและฝึก อาหาร
2.มีก้ามเป็นอาวุธไว้ต่อสู้ป้องกันตัวเอง กุ้งตัวผู้จะมีขนาดของก้ามที่ใหญ่โตสง่างาม สีสรรสวยงามและแข็งแรงกว่ากุ้งตัวเมีย
3. กุ้งอ่อนแอที่สุดเวลาลอกคราบ มักจะถูกรุมทำร้ายหรือจับกิน ดังนั้นอาหารต้องพอเพียง ตู้ต้องกว้างเพียงพอและมีที่หลบซ่อนที่ปลอดภัย
4.กุ้งแยกกันกินแยกกันอยู่หรืออาจจับคู่ในระยะสั้นๆ จึงไม่ควรเลี้ยงปนกันหลายตัวในที่แคบๆ ส่วนมากจะกุ้งจะไม่จำว่าเป็นคู่ของมัน ถ้าหิวหรือลอกคราบอาจทำร้ายกันได้เสมอ

ตู้เลี้ยงและอ่างเลี้ยงกุ้ง
1.เราสามารถเลี้ยงกุ้งเครฟิช ในภาชนะใดๆก็ได้ ที่มีการถ่ายเทน้ำที่ดี ไม่ร้อนเกินไป อุณหภูมิน้ำ ประมาณ 23 -28 องศา อาจจะเป็นครึ่งบกครึ่งน้ำก็ได้ น้ำครึ่งตู้ น้ำเต็มตู้ก็ได้ หากจะเลี้ยงหลายๆตัวแต่ต้องกว้างขวางเพียงพอ กุ้งใหญ่ขนาด 3-4 นิ้ว 1 ตัว ใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 ฟุต
2.ถ้าจะเลี้ยงหลายตัวควรเลือกเลี้ยงกุ้ง สายเดียวกัน ไซซ์ไล่เลียกัน เพื่อให้มันสามารถปกป้องตัวเองได้ มิเช่นนั้นกุ้งตัวเล็ก มักจะถูกรังแกและมีโอกาสที่จะถูกจับกิน
3.ที่หลบซ่อนใช้ขอนไม้ กระถางดินเผา กระถางต้นไม้แตกๆ อุปกรณ์ที่เจาะเป็นโพรง หรือท่อพีวีซีตัด เป็นท่อนๆให้กุ้งหลบอาศัยในเวลากลางวัน กุ้งใหญ่
4.ปิดฝาหรือจุดที่กุ้งจะปีนหนีได้

วัสดุปูรองพื้น
การเลี้ยงกุ้งเครฟิช ในตู้ เพื่อความสวยงามควรปูหินกรวดเล็ก รองพื้นตู้ ซึ่งมีมีประโยขน์ต่อกุ้งหลายประการคือ
1.ทำให้กุ้ง ไม่ตื่นตกใจ และมีสรรสวยงามมากขึ้น กุ้งสามารถปรับตัวตามสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าเน้นหินสีดำหรือน้ำตาล จะทำให้กุ้งมีสีเข้มขึ้น
2.กุ้งป่า ส่วนมากจะขุด กรวดหิน เป็นที่หลบซ่อน
3.หินกรวดช่วยดูดซับตะกอนและเศษอาหาร ทำให้น้ำในตู้ใสอยู่เสมอ

การให้อากาศและระบบกรองน้ำ
ถ้าเราเลี้ยงกุ้งแค่ตัวเดียว และมีพื้นที่กว้างและดูแลน้ำได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องให้อากาศก็ได้

แต่ในระบบตู้เลี้ยง ซึ่งเน้นความสวยงาม และเลี้ยงกุ้งหลายตัว หรือ กั้นตู้ การให้อากาศยังจำเป้นอยู่มาก แต่กุ้งใช้อากาศน้อยกว่าปลา สามารถใช้หัวทรายจุ่มลงในน้ำ 3-4 นิ้ว กันฟุ้ง หรือใช้กรองในตู้ กรองแขวน กรองกล่องได้ ยกเว้นกรองแผ่นพื้นจะโดนกุ้งขุด และกรองฟองน้ำอาจโดนกุ้งแทะเล่น

น้ำ
อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยง Crayfish คือช่วง 23-28 องศาเซลเซียล ค่า PH ที่เหมาะสมคือประมาณ PH7.5 - 8.5 ที่มีความกระด้างสูง ผู้เลี้ยงสามารถใส่เกลือลงไปในตู้ได้เล็กน้อย เกลือยังช่วยเสริมแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการลอกคราบและสร้างเปลือกใหม่ ด้วย สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำ ผู้เลี้ยงควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำ สัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 30 -50 %ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงและการให้อาหาร แต่ควรปรับอุณหภูมิน้ำให้ดี

อาหารการกิน
กุ้งเครฟิช กินอาหารได้แทบทุกชนิด นิสัยของกุ้งจะกินอาหารได้ทั้งวัน แต่ในธรรมชาติมันจะกินอาหารประเภทพืชผัก รากไม้ ใบไม้ ผลไม้เป็นหลัก ในที่ เลี้ยงผู้เลี้ยงสามารถให้ ข้าวโพด มันฝรั่ง ถั่วลันเตา ฟักทอง แอปเปิ้ลได้ พรรณไม้น้ำที่ใช้ตกแต่งตู้อาจโดนรื้อทึ้งเป็นอาหารได้ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อ ไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อกุ้งทะเลหรือกุ้งฝอยหั่นชิ้นเล็กๆได้ ถ้าให้ง่ายยิ่งไปกว่านั้นอาหารเม็ดสำเร็จรูปชนิดจมสูตรต่างๆ

การเลี้ยงรวมกับปลาสวยงาม
ถึงแม้ว่าในธรรมชาตินั้นกุ้งก้ามแดง และเครฟิช จะเก็บเศษซากพืชซากสัตว์กินเป็นอาหารหลัก แต่ในที่เลี้ยงสถานที่ที่มีอาหารอย่างจำกัดนั้น มันจะจับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กินเป็นอาหาร โดยเฉพาะกุ้งขนาด 1.5 – 2.5 นิ้ว มักจะชอบไล่จับปลากิน ส่วนกุ้งขนาดใหญ่ นิสัยนักล่ามันจะลดลง หากต้องการเลี้ยงปลากับกุ้งด้วยกันให้ยึดหลักดังนี้
1.ขนาดตู้ ต้องกว้างเพียงพออย่างน้อย 24 นิ้ว น้ำลึกอย่างน้อย 1 ฟุต
2.เลือกชนิดปลาขนาดเล็กที่ว่ายน้ำเร็ว หรือหากินกลางน้ำ ปลาที่ว่ายน้ำช้า ปลาที่มีครีบยาวๆ ปลาที่มีนิสัยนอนพื้นตู้ ไม่ควรเลี้ยงเด็ดขาด
3.ปลาเทศบาล ที่เลี้ยงได้เช่น ปลาซัคเกอร์ น้ำผึ้ง ปลาจิ้งจก

วิธีการเลือกซื้อกุ้งก้ามแดงและเครฟิช
1.เลือกกุ้งที่มีอวัยวะสำคัญต่างๆครบสมบูรณ์คือ ดวงตาและก้ามครบ2 ข้าง ขาเดินครบทั้ง 4 คู่
2.มีเปลือกลำตัวแข็ง ไม่อยู่ในช่วงระยะลอกคราบ ซึ่งร่างกายอ่อนแอ
3.เลือกกุ้งที่แข็งแรง มีอาการตอบสนองป้องกันตัวเมื่อถูกรบกวน เช่น การยกก้ามคู่ป้องกันตัวเอง หลบหนีด้วยการดีดลำตัวอย่างว่องไวหรือ พยายามปีนป่ายหนีเมื่อนำมาใส่ภาชนะ
4.เลือกซื้อกุ้งคุณภาพจากร้านและฟาร์มที่ท่านไว้ใจ และสังเกตจากสภาพน้ำและภาชนะที่วางขาย
5.กรณีที่เป็นกุ้งนำเข้าจากต่างประเทศ ควรได้รับการปรับสภาพ พักและเปลี่ยนถ่ายน้ำแล้วอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป ( หายาก )

16/09/2016

มีสมาชิกเข้าใหม่หาไม่เจอ "สูตรกุ้งร่าน"

แจกสูตร..กุ้งร่าน!

กุ้งขนาด 3.5 นิ้ว - 4.5 นิ้ว เป็นกุ้งแตกหนุ่มแตกสาว วัยมันส์ ท่องราตรี สูตรลับเฉพาะให้กุ้งร่าน และซัมกัน คือ..

1. บำรุงด้วยใส้เดือนสด ตัวจะใหญ่ จะอวบ จะยาวเป็นงูก็ไม่ใช่ปัญหา ขุนนาน 1 อาทิตย์ ให้สังเกตุว่าในบ่อนั้นกุ้งตัวไหน พร้อมผสมแล้วบ้าง ให้จับย้ายมาที่บ่อผสม สูตรนี้คือ ผู้ 1 เมีย 2 หรือ ผู้ 2 เมีย 3
2. บ่อผสมไม่ต้องสรรหาอะไรมาก มีดังนั้น
2.1. ท่อหลบ 1-2 อันพอ ตามจำนวนกุ้งที่ใส่บ่อผสม เช่น ท่อหลบ 1 อัน ต่อ ผู้ 1 เมีย 2 หรือ ท่อหลบ 2 อัน ต่อ ผู้ 2 เมีย 3
2.2. บรรยากาศในบ่อ สาหร่าย พืชน้ำใส่ไปแบบรกๆ เลยไม่ต้องกลัวน้ำเน่า
3.2. เช็คระบบอ๊อกลม หรือระบบน้ำวนให้ดี อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ จัดให้พอใจ แล้วไม่ต้องไปจัดแต่งอีก
3. บ่อเลี้ยงปิดทึบ เลี้ยงลืม ให้อาหารปรกติ แต่ห้ามเปิดส่อง แม้กระทั้งไฟฉายก็ไม่ควร อย่าให้แสงลงไปในบ่อได้เลย
4. ดูแลระดับน้ำ น้ำในบ่อควรอยู่ที่ความสูงจากพื้นบ่อ 20 ซม.

ทำสูตรนี้ 1 เดือนไม่ยุ่งไม่ส่อง ไม่สัมผัส ไม่ไข่ ไม่ปี้ ไม่ร่าน ให้มาทีบแอดมินได้เลย!!

โชดดี ขอให้ได้ไข่ฟูๆ นะจ๊ะ!!

16/09/2016

Revised Post

ถ่ายน้ำ หรือไม่ถ่ายดีระหว่างที่แม่กุ้งตั้งท้อง ?

ระหว่างแม่กุ้งอุ้มท้อง หรือมีไข่เพื่อรอพัฒนา และลงเดินไม่ควรถ่ายน้ำ หรือทำอะไรกับเค้ากลางคันโดยเด็ดขาด รอจนลูกลงเดินหมดท้องแล้ว เราก็แยกแม่ออก ย้ายไปพัก 1-2 สัปดาห์ เลี้ยง และให้อาหารตามปกติ แล้วถึงนำกลับมาผสมพันธุ์ใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้น พอลูกลงเดินได้ 7-10 วัน เราถึงจะขนย้าย และถ่ายน้ำได้ตามปกติครับ

"สรุป"คือ ไม่ควรถ่ายน้ำระหว่างแม่กุ้งอุ้มท้อง ให้รอจนลูกลงเดินหมด นับจากวันที่ลงเดินหมดท้อง นับตั้งแต่วันที่ลงเดินไปจนลูกกุ้งมีอายุได้ 7-10 วัน จึงจะสามารถเปลี่ยนน้ำ และถ่ายน้ำได้ตามปกติครับ

กรณีนี้พูดถึงระหว่างอุ้มท้องเพื่อรอลงเดิน ตอนที่เราแยกแม่ไข่ออกมาพักเพื่อรอลงเดินเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่การเปลี่ยนถ่ายน้ำระหว่างนี้โดยเด็ดขาด เรากวนตอนแยกออกจากบ่อผสมครั้งเดียวครับ

"การให้อาหารแม่กุ้งไข่"

แม่กุ้งระหว่างอุ้มท้อง หรือไข่ สำหรับช่วงนี้จะไม่ให้อาหารจนกว่าจะลงเดินหมด เพื่อป้องกันการลอกคราบ และขยายตัว พอแม่กุ้งลอกคราบปุ๊บ ไข่ที่แม่กุ้งอุ้มท้องก็จะหลุดติดออกมาพร้อมคราบ สุดท้ายก็กลายเป็นไข่เสียไปในที่สุด

ถ้าไข่หลุดพอเอามาเป่าช่วยชีวิตได้ ก็มีสิทธิ์พัฒนาเป็นตัว และเจริญเติบโตได้ครับ

สาเหตุที่ไม่ให้อาหารแม่กุ้ง ?

กุ้งสะสมอาหารเพียงพอและถึงจะผสมพันธุ์และขับไข่ครับ กุ้งจะกินอาหารน้อยลง หรือไม่กินเลยครับ บางตัวเค้าก็ยังกินอาหารปกติเหมือนไม่ได้ท้อง เค้ากินอาหารเข้ามากๆ เค้าก็ลอกคราบ และขยายขนาด ไข่ที่อุ้มท้องมาก็จะหลุดไปพร้อมคราบ และเป็นไข่เสียไปครับ

บางตัวที่ไม่ลอกคราบไข่ก็เหลือน้อย หรือสลัดหมดท้องครับ เพราะเวลาเค้าวิ่ง และกระโจน เข้ากินอาหารจนลืมไปว่าตัวเองอุ้มท้องไข่อยู่ เป็นสาเหตุทำให้ไข่หลุดจากท้องไปโดยไม่รู้ตัว และอีกสาเหตุนึง คือ ให้อาหารเยอะเกินไปอาหารเหลือ เกิดทำให้น้ำเริ่มเน่าเสีย และมีปัญหา ไข่ก็จะเป็นเชื้อรา และเสียไป

ระหว่างที่แม้กุ้งอุ้มท้อง เราจะไม่สามารถถ่ายน้ำได้ครับ ถ้าถ่ายน้ำเมื่อไหร่ อุณหภูมิ และค่าน้ำเปลี่ยน ก็จะทำกุ้งเครียด และสลัดไข่ในที่สุด

>>อย่ารบกวนเค้าเป็นดีที่สุด

ขุนกันต่อไป
15/09/2016

ขุนกันต่อไป

12/09/2016

ขออภัยในความไม่สะดวกนะครับพอดีอุปกรณ์เรามีปัญหา สอบถามได้ที่0942571822ครับ

11/09/2016

มีมือใหม่ถามกันมาเยอะเรื่องนี้ !

#การให้อาหารลูกกุ้งแรกเกิด

ส่วนใหญ่ลูกกุ้งจะกินอาหารประมาณ 7-10 วันนับจากลงจากท้องแม่ คนที่เลี้ยงกุ้งแรกเกิด ก็จะให้กินอาหารๆต่างจากที่ได้ข้อมูลมา เราก็เป็นเช่นหลายคนที่ให้อาหารต่างๆ โดยที่ไม่ทราบว่าจะทำให้น้ำเสีย การเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิด

การเตรียมน้ำในที่เลี้ยงอ่างดำ บ่อพลาสติกสี่เหลี่ยม
1.0x1.0 เมตรจะเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดได้ประมาณ 200 ตัว
1.0x1.5 เมตรจะเลี้ยงลูกกุ้งแรกเกิดได้ประมาณ 500 ตัว

#อาหารที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารสด
หนอนแดง กุ้งฝอยบี้ ไรแดงไข่ตุ๋น ไข่แดง ปลาทูบี้

ส่วนอาหารเม็ดจมต่างๆ ก็มีอาหารเม็ดที่เลี้ยงปลา
ซึ่งก็มีสารเร่งสีมากกว่าโปรตีน อาหารเม็ดจมที่เลี้ยงกุ้งขาว กุ้งกุลาดำ ก็จะมีโปรตีนพืชมากกว่าโปรตีนสัตว์ (อาหารเม็ดลอยเลี้ยงกุ้งก้ามแดงไม่ได้ อาหารปลาดุก อาหารกบ)

สาหร่ายหางกระรอก กุ้งกินได้แต่เป็นสารเร่งสี กุ้งกินแล้วอิ่มได้ อาหารที่กล่าวมาเป็นอาหารที่คนที่เลี้ยงจะหามาให้กุ้งกิน

#การเลี้ยงลูกกุ้ง จะไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำ เพราะกุ้งอาจจะลอกคราบไม่ผ่าน ดังนั้นอาหารที่ให้ลูกกุ้งกิน ต้องระวังเรื่องน้ำเสียด้วย การเปลี่ยนถ่ายน้ำ ลดน้ำ เพิ่มน้ำ ประมาณ 20-30 วัน

อีก1อาทิตย์เรามาดูกันว่า กุ้งๆทั้งหลายจะตั้มกันไหมเเล้วมีไข่กันไหม. ฮิฮิ.
10/09/2016

อีก1อาทิตย์เรามาดูกันว่า กุ้งๆทั้งหลายจะตั้มกันไหมเเล้วมีไข่กันไหม. ฮิฮิ.

06/09/2016

Love fish Thailand วิธีการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงตั้งแต่เกิดจนได้จำหน่าย วิธีการอนุบาลลูกกุ้ง อาหารอนุบาลลูกกุ้งให้โตเร็ว วิธีแยกเพศกุ้ง วิธีผสมพันธุ์กุ้งก้ามแดง ว...

05/09/2016

ทางเลือกในการทำการเกษตร เพื่อให้อยู่รอด อาจไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ หากแต่เพียง ทำเป็นและคิดให้เป็น ให้อยู่บนพื้นฐานของความพอดี... การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนั้นอย...

ที่อยู่

322
Ban Phai
40110

เบอร์โทรศัพท์

+66942571822

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อัมรินทร์ฟาร์ม กุ้งก้ามแดง บ้านไผ่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์



คุณอาจจะชอบ