26/02/2023
จริงที่สุดหะ หลายคนสักแต่อยากจะทำอย่างนู้นอย่างนี้ไม่ศึกษาข้อมูล
ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่แยกระหว่างคนเพาะกับบรีดเดอร์เรื่องนึงคือความรู้และประสบการณ์ คนที่ไม่แม้แต่จะศึกษาไม่ควรเรียกตัวเองว่าบรีดเดอร์
ฝากไว้ให้คิส😍
#ไม่เพาะเด็กอุปการะ
พักหลังมานี้เจอคนใช้คำว่า บรีดเดอร์ (Breeder) ได้แบบสิ้นเปลืองกันมากๆ เลยอยากจะพูดถึงเรื่องนี้กันสักหน่อย...
หลายคนอาจเข้าใจความหมายและมุมมองของคำว่า บรีดเดอร์แตกต่างกัน แต่เราจะขอพูดในมุมมองและความเข้าใจของเราเอง และประสบการณ์ส่วนตัวที่รู้จักกับบรีดเดอร์กับกลุ่มเพาะเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆ
คำว่า บรีดเดอร์ ไม่ได้หมายความว่าใครจะเป็นก็ได้ หรือแค่จะมีสัตว์ 1คู่แล้วสามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ก็จะเรียกตัวเองว่าบรีดเดอร์เลย อันนี้ก็ดูจะแปลกๆ และไม่ใช่การที่จะเพาะขยายพันธุ์ในเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียวด้วยเช่นกัน...
แต่คำว่าบรีดเดอร์นั้นจริงๆแล้วมีรายละเอียดอะไรที่เป็นรายละเอียดหยิบย่อยมากกว่านั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ คนที่วาดรูปได้ ร้องเพลงได้ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกเรียกว่าเป็นศิลปิน...
จากการที่ได้พบปะและพูดคุยกับคนที่เพาะเลี้ยงสัตว์ในหลากหลายวงการ หลักๆที่สังเกตเห็นได้เลยสำหรับบรีดเดอร์ที่มีเหมือนกันคือ มีเป้าหมายในการเพาะพันธุ์สัตว์ในชนิดนั้นๆ เช่นการทำสีหายาก หรือสร้างสรรค์สีใหม่ๆขึ้นมา และรวมไปถึงการปรับปรุงพัฒนาเรื่องโครงสร้างควบคู่ไปด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย ความรู้ ความเข้าใจ และเวลา ซึ่งมันต้องลงรายละเอียดทุกขั้นตอนของการเพาะพันธุ์ มีทั้งการลองผิด ลองถูกปะปนกันไปกว่าจะได้สิ่งที่ตั้งเป้าไว้ รวมไปถึงการเลี้ยง การดูแลในทุกขั้นตอนต่างๆ ทุกอย่างมีรายละเอียดให้เราสังเกตหมด ดังนั้นการที่จะมองว่าใครเป็นบรีดเดอร์จริงๆ ควรรู้จักกับสิ่งที่คนนั้นว่าเขากำลังทำอะไร ทำอย่างไร มีเป้าหมายอย่างไร ไม่ใช่รู้จักแค่ว่าเขาเพาะสัตว์เลี้ยงแล้วก็vายเลยเรียกคนๆนั้นว่าบรีดเดอร์
หลายคนที่เป็นบรีดเดอร์จริงๆ ก็เลยมักจะถูกเหมารวมไปกับเรื่องที่คนบางคนทำเสียๆหายไว้ ผมเลยมองว่ามันก็ดูไม่ค่อยจะแฟร์กับคนที่เขาทำอย่างจริงจัง ตั้งใจ และผลักดันวงการไปในทิศทางที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆไม่ใช่ทำให้ถดถอยลง...
เลยอยากเขียนไว้เพื่อเป็นอีกข้อมูลในการแยกคนเพาะสัตว์vายอย่างเดียว กับบรีดเดอร์นั้นมีรายละเอียดและความแตกต่างกันอย่างไร หรือใครมีมุมมองอื่นๆ สามารถคอมเม้นแนะนำเพิ่มเติมกันได้นะครับ 🥰🥰🥰🙏🏻🙏🏻🙏🏻🥰🥰🥰