12/04/2020
ความอ้วนของสุนัข เรื่องน่ารักที่มาพร้อมโรคร้าย❗❗
1. พันธุกรรม
บางสายพันธุ์มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนอยู่แล้ว เช่น ดัชชุน บูลด็อก เซนต์เบอร์นาร์ด เชาเชา ปั๊ก หากเราเลี้ยงพันธุ์เหล่านี้อยู่ ก็จะต้องใส่ใจเขาเป็นพิเศษ และคอยควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนจนเกินไป
2. ช่วงวัย
เมื่อน้องหมาอายุมากกว่า 5 ปี ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอ้วนมากถึง 30 - 40% เพราะอัตราการเผาพลาญอาหารทำงานได้น้อยลง โดยจะพบมากที่สุดคืออายุประมาณ 6 - 8 ปี จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง และคงที่ หลังจากอายุ 12 ปีไปแล้ว
3. เพศ
เพศเมียมีแนวโน้มที่จะมีโอกาสเป็นโรคอ้วนได้ง่ายกว่าเพศผู้ เพราะฮอร์โมนเพศที่แตกต่างกัน รวมทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต และกิจกรรมที่อาจต่างกันไปในแต่ละเพศด้วย
4. การทำหมัน
น้องหมาที่ทำหมันจะมีความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนสูงกว่าน้องหมาที่ยังไม่ได้ทำหมันถึง 2 เท่า เนื่องจากฮอร์โมนเพศลดลงก็จะทำให้ระบบเผาพลาญลดลงตามไปด้วย
5. โภชนาการ
ถ้าให้อาหารแต่ละมื้อมากเกินไป ก็ทำให้น้องหมาติดนิสัยกินเยอะ รวมทั้งการให้อาหารสำเร็จรูปแบบตั้งทิ้งไว้ หิวเมื่อไหร่ก็ทาน ทำให้น้องหมาได้รับอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะอ้วนตามมาได้ค่ะ
6. ขาดการออกกำลังกาย
เจ้าของไม่พาออกไปวิ่งหรือทำกิจกรรม จะทำให้น้องหมาขี้เกียจจนเคยตัว วัน ๆ เอาแต่นอน ไม่รู้ว่าน้องหมาหรือเจ้าของ ใครกันแน่ที่ขี้เกียจกว่ากัน อิอิ
7. โรคบางชนิด
ส่งผลให้น้องหมากลายเป็นโรคอ้วนได้ เช่น
Cushing's Syndrome : ร่างกายผลิตฮอร์โมน Cortisol ที่เกิดจากต่อมหมวกไตทำงานมากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับยาสเตียรอยด์ในรูปแบบต่าง ๆ จากการรักษาโรคบางโรค เช่น โรคผิวหนัง โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน หรือการได้รับสมุนไพรที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ๆ ทำให้น้องหมาเกิดโรคนี้ตามมาได้ค่ะ
Hypothyroidism : ภาวะต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาไม่เพียงพอ อาจเกิดจากการได้รับยาบางตัวเข้าไป แล้วไปส่งผลไปกดการสร้างฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาระงับชักบางชนิด ยาฆ่าเชื้อบางชนิด ฯลฯ จึงทำให้เกิดภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำได้ เป็นต้น
8. ยาบางชนิด
อาจทำน้องหมาเจริญอาหารมากขึ้น เช่น ยาระงับอาการชักบางตัว และมียากลุ่มสเตียรอยด์จะกระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันและน้ำตาลบริเวณหน้าท้อง อาจทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
2 วิธีเอาชนะโรคอ้วนให้อยู่หมัด
วิธีที่ 1 : แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่หลายมื้อ เราอาจแบ่งเป็นวันละ 2 - 4 มื้อ จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญอาหารได้ดีกว่าให้เพียงแค่มื้อเดียว อีกทั้งยังช่วยไม่ให้น้องหมาหิวมากเกินไปด้วยค่ะ และควรเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เส้นใยสูง หรืออาจจะให้อาหารสำเร็จรูปที่เป็นสูตรลดน้ำหนักโดยเฉพาะก็สะดวกดีค่ะ อีกอย่างที่ควรงด คือ เลิกให้ขนมพร่ำเพรื่อ หรืองดขนมขบเคี้ยวระหว่างวันไปเลยก็จะดีมาก และที่สำคัญ ไม่ควรให้อาหารที่มีแคลอรีสูง ๆ เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยการทอด เป็นต้น
วิธีที่ 2 : พาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะพาไปเดินเล่น พาไปวิ่ง หาของเล่นมาให้น้องหมา หรือเข้าคอร์สเรียนว่ายน้ำ ซึ่งการว่ายน้ำเป็นวิธีที่เวิร์คแบบสุด ๆ เพราะการว่ายน้ำนอกจากจะช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายแล้ว น้ำยังช่วยพยุงไม่ให้กล้ามเนื้อของน้องหมา ได้รับแรงกระแทกมากจนเกินไป และการที่น้องหมาได้ปลดปล่อยพลังงานออกมา จะช่วยพัฒนาทางด้านร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระดูก ข้อต่อ หัวใจ ปอด แถมยังช่วยเสริมสุขภาพจิตให้ดีขึ้นอีกด้วยจ้าาาา
ข้อมูลอ้างอิง :http://www.vet.cmu.ac.th/cmvj/document/journal/08%20Areerat.pdf
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.osdco.net/communities/pet-health/142/overweight-dogs-health-problems