MyPondMyKoi

MyPondMyKoi เพจนี้สร้างขึ้นมาเพื่อแบ่งปันและแ?

25/12/2022

ด้วยคุณภาพอาหารและเทคนิควิธีให้อาหารตามแนวทางของ MypondMykoi

👍 สนใจสอบถามข้อมูลเครื่องให้อาหารที่จะตอบโจทย์วิธีให้อาหารที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดได้ทางไลน์ num_skyman

04/12/2022

เจ้า "ญี่ปุ่น" กพ.ที่จะถึงก็จะเลี้ยงมาจะครบ 3 ปี อายุปลาก็ย่างเข้าปีที่ 6 😱

หนึ่งในความท้าทายของคนเลี้ยงปลาคราฟ คือ "เลี้ยงปลาตัวเดิมได้นานพอ"

13/10/2022

ปลาตัวนี้เป็นตัวที่ได้รับวิธีการให้อาหารแบบใหม่ตามแนวคิดของเราตั้งแต่เริ่มเลี้ยงที่บ่อนึ้เลย

อาจจะด้วยคุณภาพของตัวปลาเองที่เป็นปลาของ Sakai เป็นปลานิไซจากญี่ปุ่น ซึ่งนั่นคือผ่านการสกรีนมาในระดับนึง

แต่ก็ไม่ใช่ปลาที่ราคาสูงอะไรเพราะได้มาในราคา 2 บาทปลายๆ ด้วยความที่เป็นเพศผู้ด้วยมั้ง?

แต่ก็ชัดเจนว่า เป็นปลาตัวที่มีอัตราการเจริญเติบโตและมีโครงสร้างที่ดี ผิดจากที่เคยเลี้ยงโดยให้อาหารแบบเดิมๆอย่างมาก

ทิ้งท้ายไว้ให้คิดอีกอย่างว่า ...เลี้ยงปลาไม่ต้องเยอะแต่โชคดีที่มี Body ล่ำๆ ตั้งแต่ 60 cm ขึ้นไป มันน่ามองกว่า ปลาเยอะๆแต่ไม่ล่ำ มาก และไม่ค่อยมีปัญหา ค่าใช้จ่ายน้อย ไม่ต้องเปลี่ยนปลาบ่อยๆ

เลี้ยงไปถึงจุดนึงสำหรับผมเองพบว่า ปลาตัวละสองสามหมื่น ได้แบบนี้ถือว่าถูก‼️

แต่ปลาหลักพันหุ่นเป็นปลาช่อน ได้มาเลี้ยงฟรีก็ถือว่าแพง‼️

21/09/2022

ความจริง 2 ประการของปลากับอาหาร

🟢หากปลาคุณภาพเดียวกัน ตัวที่ทานอาหารได้เยอะ ได้เพียงพอกว่า ย่อมโตและล่ำกว่า

🟢ปลาไม่มีกระเพาะ การให้น้อยๆแต่บ่อยครั้งย่อมช่วยให้ปลาดูดซึมอาหารที่ทานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า

❤️เราจะทำอย่างไรได้บ้างให้ปลาทั้งบ่อทานอาหารได้ปริมาณใกล้เคียงกัน

✅ในคลิปจะเห็นว่า เมื่ออาหารตกลงน้ำเมื่อไหร่จะเป็นช่วงที่ปลารุมแย่งกันกิน ช่วงนี้ถือเป็นช่วงแบ่งกันทาน และ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีปลาบางส่วนกำลังทานใต้น้ำเพราะผมผสมอาหารจมไปด้วย ทำให้ปลาที่ไม่เก่งทานผิวน้ำ ก็ได้รับอาหารที่เพียงพอเช่นกัน

ดังนั้นแบ่งช่วงแบ่งกันทานนี้ให้บ่อย ซึ่งบ่อผมจะให้ 28 รอบต่อวัน ก็จะทำให้ปลาทุกตัวมีโอกาสรับอาหารได้ใกล้เคียงกันมากว่าเดิม

ไม่ใช่ว่าอาหารส่วนใหญ่จะเสร็จพวกปลาสีเดียวไถหน้าสกิมเมอร์อย่างที่เคย

และการให้จำนวนรอบที่มาก ก็ตอบโจทย์ในเรื่องประสิทธิภาพการดูดซึมอาหารของปลาด้วย

🙏เป็นเรื่องที่เอามาแชร์กัน ผิดถูกอย่างไรโปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณา แต่สำหรับบ่อผมที่ให้แบบนี้มาปีกว่าๆ เห็นผลแตกต่างจาก 10 ปีที่เลี้ยง แบบให้อาหารตามที่เค้าทำตามกันมา👍

09/01/2022

นาทีชีวิตของนักเลี้ยงปลาคราฟ😂

02/01/2022

จกตัวไหนดีนร้า😽

ระบบกรอง Moving Bed & Fixed Bed รุ่นยุค 10 ปีที่แล้ว ล้างกรองกันยังไง ผมเอามาแชร์กันครับ https://youtu.be/DCVIyKMDtZM
31/10/2021

ระบบกรอง Moving Bed & Fixed Bed รุ่นยุค 10 ปีที่แล้ว ล้างกรองกันยังไง ผมเอามาแชร์กันครับ

https://youtu.be/DCVIyKMDtZM

13/09/2021

การตักปลา ชากอยกินริน ขึ้นมาดูพัฒนาการ ที่เลี้ยงมาตลอด 2 ปี

10/09/2021

เจ้า “ ลาเต้ “ สายพันธุ์ ชากอยกินริน จากฟาร์ม มารูโดะ เพศชาย อายุ 5-6 ปี

วัด size เมื่อวันที่ 10 SEP 2021 ได้ 73 cm

07/09/2021

ถึงจะมีตอม่ออยู่ในบ่อ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเลี้ยงปลา ขอแค่เรา้ข้าใจพื้นฐานของระบบกรอง ให้ดีก็เพียงพอ

28/07/2021

ถ่ายเก็บไว้ดูพัฒนาการปลาในบ่อ เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่า ปริมาณอาหารปลา และวงรอบในการให้มีผลทำให้ปลาเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไร

21/06/2021

หัวใจสำคัญของระบบกรองคือ รอบน้ำ และ retention time ซึ่งอุปกรณ์ตัวที่ส่งผล และเราต้องเลือกให้เหมาะสมนั่นก็คือปั้มน้ำ

เราไม่สามารถคำนวนจากสเปคข้างกล่องได้ เพราะมันไม่มีทางได้ตามนั้น ดังนั้นเราจะต้องคำนวนโดยวัดจากอัตราไหลจริงๆครับ

02/05/2021

จากในคลิปจะสังเกตุเห็นว่า ไม่ใช่ปลาทุกตัวจะขึ้นมากินที่ผิวน้ำ แต่มีบางกลุ่มยังอยู่ใต้ผิวน้ำ...อันนี้เกิดจากการผสมอาหารเม็ดจมกับเม็ดลอย 50/50 ในการให้

ซึ่งจากการทดลองและเฝ้าสังเกต พบว่าวิธีนี้ทำให้ปลาทุกตัวมีอัตราเฉลี่ยในการได้กินอาหารใกล้เคียงกันมากขึ้นกว่าเดิมมาก

อีกทั้งการตั้งเวลาให้เป็นมื้อย่อยๆในหนึ่งมื้อใหญ่ เช่น หนึ่งมื้อต้องการให้อาหาร 100 กรัม การให้ทีเดียว กับ แบ่งให้ 4 ครั้งห่างกัน 5-10 นาที ก็เห็นได้ชัดเจนว่า การแบ่งย่อยๆ ปลาได้กินเท่าๆกันมากกว่ามาก

23/04/2021

บ่อใครมีเครื่องให้อาหารมากกว่าผมไหม...ขอท้า😆😆

ให้อาหาร 6 ชนิดหมุนเวียนใน 1 สัปดาห์...ไม่มีอะไร แค่ชอบทดลอง ...แล้วจะทยอยทำ review อาหารปลาทั่วฟ้าเมืองไทยใน YouTube นะครับ รอติดตามชม🙏

ส่วนใครสนใจเครื่องให้อาหาร (ตัวสีดำ) ติดต่อได้นะครับ รับรองว่าคุ้มค่าเงินที่สุดในตลาด‼️

TWIN KOI FEEDER

เครื่องให้อาหารปลาคาร์ฟ ที่ตอบโจทย์นักเลี้ยงที่ต้องการให้ปลาไปถึงจุดสูงสุด ได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีเครื่องให้อาหารมา💪

✅ตั้งเวลารวมได้ละเอียดเป็นวินาทีได้ถึง 56 รอบต่อวัน มากที่สุดในโลก😱
✅มีช่องใส่อาหาร 2 ช่อง ทำงานด้วย Timer ที่แยกกันอย่างอิสระ
✅สามารถใส่อาหารได้ 2 ชนิด ที่ต้องการให้ในเวลาที่แตกต่างกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อ 2 เครื่อง
✅ใช้มอเตอร์รอบต่ำ ปล่อยอาหารต่อวินาทีด้วยความละเอียดสูง
✅มีฟังค์ชั่นในการทำงานแต่ละช่องที่หลากหลายตั้งแต่
❤️ทำงานแยกอิสระในแต่ละหัวจ่าย ด้วย Timer ของใครของมัน
❤️ทำงานพร้อมกันทั้ง 2 หัวจ่ายได้ด้วย Timer เพียงตัวเดียว โดยจะเลือก Timer ตัวไหนเป็นตัวควบคุมทั้ง 2 หัวจ่ายก็ได้ ไม่เสียเวลาตั้งเวลาใหม่
❤️และคุณสามารถให้ทั้งสองช่องจ่ายพร้อมกันตามที่ Timer แต่ละอันตั้งไว้ได้ นั้นคือคุณจะจ่ายอาหารในถังพร้อมกันได้ถึง 56 รอบ😱

✅ถังเหล็กเคลือบกันสนิมสีดำด้านเรียบหรู
✅ขนาด 34.5x32.5x61.5 cm
✅ให้สายไฟยาว 5 เมตรเป็นมาตรฐาน
✅รับประกัน 6 เดือน เกี่ยวกับระบบการทำงานโดยฟรีอะไหล่ ฟรีค่าแรง และค่าส่งสินค้ากลับ

🔥ทำไมต้องใช้เครื่องให้อาหาร??
✅ปลาคาร์ฟไม่มีกระเพาะอาหาร การให้บ่อยๆเพียงพอต่อการดูดซึมในแต่ละครั้งจึงจำเป็นต้องการความสม่ำเสมอในการให้ ซึ่งการใช้คนให้ไม่สามารถทำได้ 100%

✅ลูกๆไม่หิวโซ ในช่วงที่คุณไม่อยู่บ้านนานๆ

✅เครื่องให้อาหารทำให้ปลาบางตัวในบ่อ ทานได้เก่งขึ้น เนื่องจากไม่รู้สึกกังวลเหมือนเวลามีคนอยู่ใกล้ๆ

🔥ทำไมต้องตั้งเวลาได้เยอะๆ ??
✅จากประสบการณ์การให้อาหาร การให้หนึ่งมื้อครั้งเดียวด้วย จำนวน 100 กรัม เมื่อเทียบกับการให้หนึ่งมื้อแบบซอยย่อยเป็น 3-5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3-5 นาที รวมเป็น 100 กรัมที่เท่ากัน พบว่าปลาทุกตัวเฉลี่ยได้กินอาหารเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกันมากกว่าแบบที่ให้ทีเดียวมากกกกก‼️

โดยแบบแรกจะสูญเสียอาหารไปกับสายสูบ แนวเลาะสกิมเมอร์ถึง 40-50% ของอาหารใน 1 มื้อ

🔥ทำไมต้องมี 2 ช่องเพื่อใส่อาหาร??

✅การผสมอาหารต่างชนิดกันแล้วให้พร้อมกัน อัตราการได้รับอาหารชนิดนั้นๆ ควบคุมได้ลำบากมาก
❌คุณไม่สามารถควบคุมให้ปลาสีเดียวไม่กินเร่งสีได้
❌คุณไม่สามารถให้ปลาที่มีสีแดงได้เลือกกินเฉพาะเร่งสีได้
❌คุณไม่สามารถควบคุมอาหารที่ผสมให้ไหลออกมา 60/40 อย่างที่ต้องการได้

‼️แต่หากคุณใช้ TWIN KOI FEEDER‼️

✅คุณจะควบคุมให้ปลากินอาหารทีละชนิดได้ไม่ต้องผสม
✅คุณสามารถเลือกให้เฉพาะเร่งสีในช่วงเวลาเที่ยงๆมีแดดได้
✅คุณสามารถให้เร่งโต จันทร์-ศุกร์ แล้วผ่อนโดยการให้ วีทเจิม วันเสาร์-อาทิตย์ ได้
✅คุณสามารถให้เร่งโต สลับกับ Balance วันเว้นวันได้
✅ถังใส่อาหารได้โดยเฉลี่ยฝั่งละ 6 kg 😱รวม 12 kg 😍คุณสามารถไม่อยู่บ้านเป็นเดือนๆได้ โดยที่ปลายังคงโตขึ้น สวยขึ้น และสุขภาพดีขึ้น ตามโปรแกรมที่คุณตั้งไว้

💪เหล่านี้คือสิ่งยังไม่มีเครื่องให้อาหารรุ่นใดๆบนโลกใบนี้ ทำได้ในเครื่องเดียว

🔥สนนราคาเพียง 6,900 บาท ส่งฟรี‼️‼️ สำหรับช่วงเปิดตัวนี้เท่านั้น

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ทางไลน์นะครับ
Id line: num_skyman
Tel: 091-9935544

15/04/2021

ปลาที่ติดเชื้อแบคทีเรียและปรสิต ตั้งแต่ 22 มีนาคม 2564 ...อาการเมื่อวานนี้ 14 เมษายน 2564 อาการดีเกือบ 100% แล้ว🤟

27/03/2021

❤️น่าจะรอดแล้วทุกตัว❤️

เจ้า “Nippon” โคฮากุ ตัวนี้ มีอาการหนักที่สุด เอาขึ้นมาบ่อยางเป็นลอตที่ 2 เมื่อ
✅วันอังคารที่ 23 มีค. โดยใช้ Koi bac แช่
✅วันพุธที่ 24 ใช้ Koi bac + ฟอร์มาลีน 40 cc/ตัน
✅วันพฤหัสบดี 25 คือสภาพตามคลิปแรก ซึ่งเท่าที่สังเกตุ รวมถึงสภาพตัวอื่นๆ ด้วยนั้น

ตอนแรกมองว่า ถ้าปลาติดเชื้อแบคทีเรียแล้วเราใช้ koi bac เมื่อปลาหายติดเชื้อ มันน่าจะมีภูมิสู้กับปรสิตได้ และไม่ป่วยอีก แต่มีคุณหมอท่านนึงอธิบายให้เห็นภาพว่า “เหมือนเราโดนตะปูตำเท้า แล้วเกิดแผลอักเสบ หากเราจะกินแค่ยาอักเสบไม่เอาตะปูออก อาการมันอาจจะดีขึ้นแต่ก็ไม่หายสนิท และพร้อมที่จะอักเสบใหม่เสมอ”

ซึ่งดูจากอาการปลาของผมภาพรวมก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ คือดีขึ้นแต่ไม่สุด

ดังนั้นจากการวิเคราะห์สถานการณ์
ปลาใหม่ที่แพร่เชื้อผมกักด้วยฟอร์มาลีน 40 cc/ ตัน ในวันที่ 1-2-3-4-7-14-17-21 และ พราซี่ วันที่ 28 ประมาณ 18 ชม. ไม่ครบ 24 ชม. ดี

ดังนั้นปรสิตหรือโปรโตซัวชนิดเดียวที่มักจะรอด จาก ฟอร์มาลีน ที่เราใส่ครอบคลุม ทุกวงจรชีวิต ของปรสิตและโปรโตซัวทุกประเภทในประเภทที่มองไม่เห็นตัว แล้วนั้น นั่นก็คือ น่าจะเป็น “ปลิงใส”

จากการวิเคราะห์ผมจึงมองว่าถ้าใช้ฟอร์มาลีน เพื่อกำจัดปลิงใส ร่าจะไม่ work เพราะช่วงกักโรคที่ผ่านมามันยังรอดได้ ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ Prazi พราซี่แทน

✅เย็นวันที่ 25 มีค. ใช้ Koi bac + พราซี่ (ทั้งสองตัวยา ผลิตโดยหมอจุฬา )
✅ช่วงบ่ายสอง วันที่ 26 มีค. ใช้ koi bac +พราซี่ อีกครั้ง ที่ต้องเปลี่ยนน้ำไวกว่าปกติ เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
✅ช่วง 6 โมงเย็นวันนี้ 27 มีค. อาการเจ้า “Nippon” เป็นดังคลิปที่ 2 ...ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด รอดชัวร์‼️ และ รอดแบบไม่เสียโฉมด้วย👍

จากการกักโรคในครั้งนี้ ผู้มีประสบการณ์บางฟาร์มแจ้งว่า หลังๆฟอร์มาลีนเริ่มเอาปลิงใสไม่อยู่แล้วครับ แต่ก็ใช่ว่าเอาปลิงใสไม่อยู่แล้วเราจะเลิกใช้กักโรค เพราะฟอร์มาลีน ก็มีจุดเด่นในการกำจัดปรสิตและโปรโตซัวกลุ่มอื่นๆด้วย

ดังนั้นในอนาคตหากผมได้กักโรคอีก😝 เราอาจจะต้องแบ่งวงรอบของปรสิตและโปรโตซัวชุดนึงจัดด้วยฟอร์มาลีน และ อีกวงรอบนึง จัดด้วยพราซี่สำหรับปลิงใส เพื่อลดโอกาสพลาดเช่นนี้อีก👍

การกักโรคปลา และรักษาปลา ผมยังเลือกและยังยึดในยาหรือสารเคมีที่อยู่ในระดับเบื้องต้น พวก ดิฟเทอร์เร๊ก หรือยาที่ใช้ในสัตว์ใหญ่ อะไรพวกนี้ ผมไม่ใช้เลย เพราะ มันไม่ต่างกับการรักษามะเร็งด้วยคีโม ...เชื้อตายก็จริง แต่ปลาก็ถูกทำลายไม่ต่างกัน เราควรจะเริ่มจากเบาไปหาหนักจะดีที่สุด👍

❤️สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ไม่มียาผีบอกนะครับ ในการกักโรคปลาและ การรักษาปลา จะใช้ตัวไหนเพื่ออะไร และเชื้อนั้นมีวงรอบชีวิตยังไง ยังเป็นสิ่งที่ยึดถือ เช่นเดิม🤟

26/03/2021

‼️เปลี่ยนน้ำเกิน 50% ปลาน๊อคน้ำตายจริง??‼️

เราอาจจะเคยได้ยินว่าไม่ควรเปลี่ยนน้ำเกิน 50% ปลาอาจน๊อคน้ำ ...จริงๆ เหตุผลนี้มันไม่ได้น๊อคน้ำหรอกครับ..มันน๊อคคลอรีนต่างหาก😱

เพราะถ้าเป็นเพราะน๊อคน้ำ ทำไมเราเอาปลาในถุงลงบ่อยางทั้งๆที่ปริมาณน้ำ มากกว่ามาก ยังไม่เป็นอะไร ขอเพียงแค่ปรับอุณหภูมิพอและน้ำสะอาดปกติ

ส่วนเรื่อง PH กับ อุณหภูมิ ก็มีส่วน แต่การเปลี่ยนถ่ายน้ำส่วนใหญ่จะเป็นการค่อยๆเติมซึ่งผมมองว่า ไม่ใช่เหตุผลที่เติมน้ำเกินแล้วปลาจะตาย👎

คลอรีนในน้ำประปา...เป็นอีกเรื่องที่ลงทุนไม่ได้แพงกับน้ำยาตรวจ (ไม่ถึงร้อย) ..แต่นักเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่สนใจ👎

น้ำประปาบ้านเรา มีค่าคลอรีนเปลี่ยนแปลงได้ตลอด สัปดาห์ที่แล้วคุณตรวจไม่เจอ ใช่ว่าสัปดาห์นี้จะไม่เจออีก ดังนั้นในทุกๆครั้งก่อนเติมน้ำลงบ่อโดยเฉพาะบ่อยางหรือบ่อเล็กๆ ควรจะตรวจค่าคลอรีนก่อนเสมอ👍

ส่วนใครที่เอาง่ายๆซื้อที่กรองคลอรีน แบบเป็นตะขอห้อยๆมาใช้ บอกเลยครับว่าเสี่ยง ยิ่งถ้าไม่ตรวจวัดก่อน เพราะกรองคลอรีนที่เล็กมันไม่สามารถกรองคลอรีนได้หมด👎

กรองแต่และขนาดมันรองรับการกรองคลอรีนเป็นลิตรต่อชั่วโมงที่ต่างกัน ยิ่งคุณเปิดน้ำแรงๆเพื่อเติมไวๆ คลอรีนก็ยิ่งถูกกำจัดได้น้อยลงเช่นกัน👎

ในคลิปผมเปลี่ยนน้ำในบ่อยาง โดยเอาน้ำออกจนถึงหลังปลา แล้วเติมน้ำใหม่ที่มาจากประปาโดยตรง ไม่ได้ผ่านถังพัก หรือผ่านปั้มน้ำใดๆของบ้าน ..แต่ผ่านกรองคลอรีนตัวใหญ่ที่ผมซื้อมาและให้ช่างแค่ต่อท่อต่างๆให้ ..ซึ่งน้ำที่ออกมาใส่บ่อยางไม่มีคลอรีน และปลาก็สดชื่นกันดี

แต่ลองมาตรวจน้ำที่ผ่านถังพักและปั้มในบ้านกลับพบว่ามีคลอรีน😱 ซึ่งถ้าเอาไปเปลี่ยนให้ปลา 80-90% ขนาดนี้ ไม่รอดแน่ๆ😅

🤟เอาประสบการณ์มาแชร์กันเช่นเคยครับ ผิดบ้างถูกบ้าง นำไปพิจารณาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันนะครับผม เพื่อให้การเลี้ยงปลาไม่ใช่เป็นการเลี้ยงด้วยความเชื่อ แต่เลี้ยงด้วยความรู้ 🙏

26/03/2021

วิธีการตักปลาของผม
หลังจากตักปลาขึ้นมารักษาเป็น 10 ตัว ทักษะการตักที่ผมรู้สึกว่า ถูกจริตกับบ่อผม และปลาไม่บาดเจ็บ ที่จะเอามาแชร์มีดังนี้
✅เราต้องคิดว่า กระชอนเอาไว้ต้อนปลาไม่ใช่ช้อนปลา เพราะคิดแบบนี้จะทำให้เราเอาตาข่ายกระชอนบังหน้าปลาตลอดเวลา
โดยเราค่อยๆต้อนปลาเข้าด้านข้างกำแพงแนวยาว พยายามให้หน้าข่ายบังหน้าปลาตลอด อย่าเปิดช่องด้านหน้าปลา เพราะปลาจะกระโดดทางนั้นเสมอ
พอหัวปลาชนตาข่ายก็ใช้กระชอนคลุมปลาเข้าข้างกำแพง จากนั้นค่อยลากมาในจุดที่เราจะเอาขึ้น
หาจังหวะหงายกระชอน ให้ปลาอยู่ในกระชอน โดยให้ขอบกระชอน สูงกว่าหัวปลาตลอดเวลา
ตอนจะเอาขึ้น จะใช้ถุงแพคปลาหรือ koi sock ก็แล้วแต่ขนาดของปลาครับ ถ้าปลาใหญ่ ใช้ถุงแพคปลาช่วยกันยกจะดีกว่า ปลาจะได้ตัวไม่งอ
หากจะเอามาวัดไซล์ หรือถ่ายรูป ให้เอายาสลบใส่ในถุง ให้ปลาซึมๆ ก่อนก็เป็นการดีครับ
ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีหรือถูกต้องนะครับ เพราะผมก็เพิ่งได้หัด ..แค่อยากเอามาแชร์กัน🤟

26/03/2021

วิธีการตักปลาของผม
หลังจากตักปลาขึ้นมารักษาเป็น 10 ตัว ทักษะการตักที่ผมรู้สึกว่า ถูกจริตกับบ่อผม และปลาไม่บาดเจ็บ ที่จะเอามาแชร์มีดังนี้
✅เราต้องคิดว่า กระชอนเอาไว้ต้อนปลาไม่ใช่ช้อนปลา เพราะคิดแบบนี้จะทำให้เราเอาตาข่ายกระชอนบังหน้าปลาตลอดเวลา
โดยเราค่อยๆต้อนปลาเข้าด้านข้างกำแพงแนวยาว พยายามให้หน้าข่ายบังหน้าปลาตลอด อย่าเปิดช่องด้านหน้าปลา เพราะปลาจะกระโดดทางนั้นเสมอ
พอหัวปลาชนตาข่ายก็ใช้กระชอนคลุมปลาเข้าข้างกำแพง จากนั้นค่อยลากมาในจุดที่เราจะเอาขึ้น
หาจังหวะหงายกระชอน ให้ปลาอยู่ในกระชอน โดยให้ขอบกระชอน สูงกว่าหัวปลาตลอดเวลา
ตอนจะเอาขึ้น จะใช้ถุงแพคปลาหรือ koi sock ก็แล้วแต่ขนาดของปลาครับ ถ้าปลาใหญ่ ใช้ถุงแพคปลาช่วยกันยกจะดีกว่า ปลาจะได้ตัวไม่งอ
หากจะเอามาวัดไซล์ หรือถ่ายรูป ให้เอายาสลบใส่ในถุง ให้ปลาซึมๆ ก่อนก็เป็นการดีครับ
ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีหรือถูกต้องนะครับ เพราะผมก็เพิ่งได้หัด ..แค่อยากเอามาแชร์กัน🤟

🔥กระแสน้ำ🔥ปลาคาร์ฟชอบและรู้สึกผ่อนคลายไม่หวาดระแวง เมื่อมีกระแสน้ำที่เคลื่อนไหวในบ่อ สังเกตุได้จากการว่ายเล่นไปมา ตรงแหล...
18/03/2021

🔥กระแสน้ำ🔥

ปลาคาร์ฟชอบและรู้สึกผ่อนคลายไม่หวาดระแวง เมื่อมีกระแสน้ำที่เคลื่อนไหวในบ่อ สังเกตุได้จากการว่ายเล่นไปมา ตรงแหล่งกำเนิดอ๊อกซิเจนต่างๆ และ จุดที่น้ำมีการเคลื่อนไหว เช่นน้ำตก แท่งอ๊อกซิเจน จานอ๊อกซิเจน

การที่ผิวน้ำมีการเคลื่อนไหว มีคลื่นที่ผิวน้ำทำให้ปลามองเห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเจนด้วย ความหวาดระแวงจึงน้อยลง

นี่จึงไม่แปลกที่เวลาเราปิด จานอ๊อกซิเจน หรือปั้ม ปลาจะหยุดนิ่งและระแวงระวังตัว หรือ ทำไมเวลาให้อาหารตรงจุดที่น้ำเคลือนไหวปลาแย่งกันกินดี แต่เมื่ออาหารปลาไหลมากองกันตรงน้ำนิ่งๆใกล้สกิมเมอร์ มีเพียงปลาตะกละใจกล้า ไม่กี่ตัวที่จะมากิน

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงแนะนำวิธีเพื่อทำให้ปลาเฉลี่ยกันกินอาหารได้ใกล้เคียงกันมากขึ้น คือ

✅ให้อาหารชนิดเดียวกัน ทั้งแบบเม็ดจมและแบบเม็ดลอยผสมกัน อัตราส่วนเท่าไหร่ลองพิจารณานิสัยปลาและพฤติกรรมการกินในบ่อคุณเป็นหลัก บ่อผม ลอย 70% : จม 30%

✅แบ่งอาหาร 1 มื้อใหญ่ เป็น 5 มื้อย่อยๆ เช่น 1 มื้อให้อาหาร 100 กรัม อย่าให้ทีเดียว 100 กรัม ให้เป็น 20 กรัม ทุก 3-5 นาที 5 รอบแทน เป็นต้น

กระแสน้ำนอกจากจะมีผลต่อความเครียดของปลา ยังช่วยให้น้ำในบ่อมีการถ่ายเทหมุนเวียนได้ทั่วถึง ทั้งในเรื่องการบำบัดและการละลายของอ๊อกซิเจนในน้ำ

ดังนั้นเมื่อปลาไม่เครียด ปลาทานเก่ง ทานได้เยอะ คุณภาพน้ำดี ก็ย่อมส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลาอย่างไม่ต้องสงสัย💪

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

🔥อุณหภูมิของน้ำ🔥ต้องเข้าใจก่อนว่า ฤดูกาลและอุณหภูมิบ้านเราไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น บ้านเราแทบจะมีแต่ร้อนกับร้อนสัดดด😅ดังนั้นว...
17/03/2021

🔥อุณหภูมิของน้ำ🔥

ต้องเข้าใจก่อนว่า ฤดูกาลและอุณหภูมิบ้านเราไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น บ้านเราแทบจะมีแต่ร้อนกับร้อนสัดดด😅

ดังนั้นวิธีการเลี้ยงและชนิดของอาหาร จะให้มันเหมือนกันเป็นไปไม่ได้

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าอุณหภูมิของน้ำมีผลสำคัญต่อระบบเผาผลาญในร่างกายของปลา ซึ่งระบบเผาผลาญ มันคือการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร นำไปใช้ในอวัยวะต่างๆและระบบต่างๆของร่างกายปลา💪

ซึ่งแน่นอนว่ามันจึงเกี่ยวข้องต่อการเจริญเติบโตของปลา การขยายร่างของปลา และการพัฒนาด้านผิวพรรณของปลาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิยิ่งสูง ปลาจะยิ่ง Active และมีระบบเผาผลาญที่สูงตาม

ซึ่งแต่ละอุณหภูมิให้ผลลัพธ์อย่างไร เรามาดูกัน

✅ที่อุณหภูมิ 17-18 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในเรื่องของการพัฒนาด้านผิวพรรณหรือ Skin quality ของปลา ที่อุณหภูมินี้ปลาจะมีผิวที่สวยเนียนเป็นมันเงา

✅ที่อุณหภูมิ 22 องศาเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการพัฒนาของ Body เบ่งตัวออกทางข้างให้อวบอ้วนใหญ่

✅ ที่อุณหภูมิ 24-30 องศาเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการพัฒนาในเรื่องของการยืดยาวและเติบโตของปลา

✅อุณหภูมิมากกว่า 30 องศา เริ่มจะอยู่ในจุดที่เกินพอดีแล้ว จุดนี้ Skin Quality จะ Drop ลง อ๊อกซิเจนในน้ำลดลงไม่สอดคล้องกับระบบเผาผลาญของปลา

ซึ่งในตารางจะเห็นว่าอ๊อกซิเจนที่อุณหภูมิ 30 องศา จะมีอ็อกซิเจนละลายในน้ำได้สุดๆแค่ 7.6 mg/l ซึ่งลำพังปั้มลมที่เราใช้ไม่มีทางพาไปถึงได้👎

แล้วก็จะเห็นในภาพ อธิบายชนิดของอาหารและจำนวนมื้อของอาหาร ที่อุณหภูมิเกิน 30 องศาจะให้มื้ออาหารลดลงและจะไม่ให้อาหารเร่งโต❌

❤️ดังนั้นเมื่อมาดูบ่อเลี้ยงและลักษณะการเลี้ยงในบ้านเรากัน
‼️หากบ่อใครที่อยู่กลางแจ้งแดดเต็มๆ
‼️หากบ่อใครที่ตื้นๆ ไม่ลึก
อุณหภูมิไม่มีทางต่ำได้ ประมาณ 26-27 องศาขึ้นไปทั้งนั้น
และเมื่อเทียบกับอีกตารางสีฟ้าๆ ตารางนี้จะบอกว่าที่อุณหภูมิเท่าไหร่ควรให้อาหารประมาณกี่ % ของน้ำหนักปลา ซึ่งที่ 24 องศาขึ้น ควรให้ประมาณ 2% สำหรับปลาในช่วง 3 ปีแรกของอายุปลา

ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าน้อยบ่อที่จะให้ถึงเพราะ
❌ปริมาณอาหารเยอะมาก ต้องซอยย่อยหลายมื้อมาก
❌ค่าใช้จ่ายสูง
❌และระบบกรองเอาไม่อยู่

ดังนั้นว่ากันตามทฎษฎีแล้ว สภาพอากาศในบ้านเราค่อนข้างยากมากที่จะปั้นปลาให้ล่ำๆ แบบอ้วนๆกลมๆหุ่นแกรนด์แชมป์ได้ มันจะออกยาวมากกว่า เพราะอ้วนๆกลมๆ มันต้องมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างเย็นคือ 20 องศาต้นๆ นั่นเอง รวมถึงอ๊อกซิเจนก็ต้องถึง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงมันก็ไม่เพียงพออีก😅

และอีกอุปสรรคของบ้านเราคือ เมื่อให้อาหารเร่งโต ต่อเนื่องและเยอะ ปลามีอาการฮุบอากาศ ออกอาการจะเป็นโรค Sink หรือไขมันไปเบียดถุงลม ซึ่งมาจาก ระบบเผาผลาญที่ไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
โดยมักจะมีเหตุผลมาจาก

❌คุณภาพอาหารไม่ดีพอ แน่ใจรึ อาหารเร่งโต เร่งล่ำ ที่แข่งๆกันในท้องตลาด มันดูดซึมง่าย และปลานำมาใช้ได้หมด???

❌อ๊อกซิเจนที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากเลี้ยงปลากันแน่น และอุณหภูมิในน้ำที่สูง อ๊อกซิเจนก็ยิ่งละลายน้ำได้น้อย จึงส่งผลให้ระบบย่อย ระบบเผาผลาญไม่สมบูรณ์

❤️ดังนั้นอุณหภูมิของน้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่หลายคนมองข้ามและอาจจะไม่ได้นึกถึงนัก แต่นักเลี้ยงที่มีประสบการณ์และซีเรียสในการเลี้ยงจริงจัง เค้ามองเห็นและยอมที่จะจ่ายกับ Chiller เพื่อทำให้น้ำมันเย็นลง👍

แต่ด้วยราคาค่าใช้จ่ายต่อเนื่องคือค่าไฟที่แพงจึงจะมักจะนำมาใช้ในบ่อลับ บ่อ Condition ปลาเพื่อประกวด บ่อที่มีขนาดเล็กๆ มากกว่า

ดังนั้นอย่างเราๆ ที่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของอุณหภูมิของน้ำ สิ่งที่เราพอจะทำได้คือ
✅ทำบ่อให้ลึก 1.8-2.4 เมตร คือ มาตรฐาน
✅สร้างบ่อในจุดที่มีร่มเงา จากต้นไม้ใหญ่จากหลังคา จากการบังเงาของบ้าน
✅ติดพวกระบบพ่นหมอก แบบในสวนที่ต้องการให้มีความเย็นชื้นเพื่อสร้างมอส
✅เติมอ๊อกซิเจนให้มากๆเข้าไว้ ชดเชยกับอุณหภูมิที่สูง
✅ไม่ให้อาหารในช่วงแดดจัด คือ ช่วง 11:00-14:00 น. เพราะอ๊อกซิเจนละลายน้ำได้น้อย

❤️บทสรุปให้คิด ...หน้าหนาวบ้านเราที่อุณหภูมิน้ำลดลงมาในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคใต้ ที่มีอุณหภูมิประมาณ 22-25 องศา ...มันควรให้วีทเจิม หรือ งดอาหารไหม???? (ในกรณีที่บ่อคุณอุณหภูมิไม่สวิงนะ)

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

🔥อ็อกซิเจน🔥สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบ่อของเราต้องการอ๊อกซิเจน ทั้งในบ่อเลี้ยงและบ่อกรอง ไม่ว่าจะเป็นตัวปลาเอง พืชในน้ำ ปรสิต ...
16/03/2021

🔥อ็อกซิเจน🔥

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบ่อของเราต้องการอ๊อกซิเจน ทั้งในบ่อเลี้ยงและบ่อกรอง ไม่ว่าจะเป็นตัวปลาเอง พืชในน้ำ ปรสิต และ แบคทีเรีย ทั้งร้ายและดีในบ่อ จึงเห็นได้ว่ามีความต้องการ และแย่งกันใช้สูงมากๆ

ปลาคาร์ฟไม่ได้ใช้อ๊อกซิเจนเพียงเพื่อดำรรงชีพ แต่มันใช้ในระบบการย่อยและเผาผลาญเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน เพื่อใช้ในการเจริญโตอีกด้วย

ซึ่งระดับอ๊อกซิเจนที่ละลายในน้ำ(DO) ที่ต่ำสุดที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของปลาคาร์ฟ คือ 5-6 mg/l แต่ที่ดีที่สุดคือ 7-9 mg/l ส่วนระดับที่วิกฤตคือต่ำกว่า 5mg/l

สิ่งที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับ Dissolved Oxygen หรือการละลายอ๊อกซิเจนลงไปในน้ำ คือ

✅อุณหภูมิน้ำต่ำๆ เย็นๆ อ๊อกซิเจนจะละลายได้มากกว่า น้ำที่มีอุณหภูมิสูงๆ

✅กลางคืนพืชน้ำ จะหยุดสังเคราะห์แสง และจะเริ่มแย่งอ๊อกซิเจนในน้ำมาใช้ โดยเฉพาะบ่อที่ตะไคร่เยอะๆและน้ำเขียวๆ ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าคุณไม่ควรให้อาหารปลาหลังพระอาทิตย์ตก หากคุณไม่มั่นใจระดับอ๊อกซิเจนในบ่อคุณว่าเพียงพอ

✅จำไว้ว่า ระดับอ๊อกซิเจนในน้ำประปาที่คุณเปลี่ยนไม่ได้เยอะอย่างที่คิดนะครับ ประมาณ 5mg/l บวกลบนิดหน่อย

✅ระดับผิวน้ำมีอ็อกซิเจนมากกว่าในระดับที่ลึก ดังนั้นบ่อที่ลึก 1 เมตรเป็นต้นไปต้องมีจานอ๊อก แท่งอ๊อก ที่ระดับพื้นบ่อ

✅บ่อที่ใส่เกลือในบ่อจะทำให้อ๊อกซิเจนละลายในน้ำได้น้อยลง

✅ปลายิ่งตัวใหญ่ขึ้น ยิ่งโตขึ้น ยิ่งต้องการอ๊อกซิเจนมากขึ้น ดังนั้น หากคุณเลี้ยงตัวเล็กๆ แน่นๆ ...เมื่อมันโตขึ้นควรพิจารณาในการเพิ่มอ๊อกซิเจนด้วย

❤️หลักการเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ คือการให้พื้นที่ของน้ำสัมผัสอากาศให้มากที่สุด

✅ ปั้มลม ผ่านแท่งอ๊อกซิเจน แบบละเอียดจะละลายอ๊อกซิเจนในน้ำได้ดีและนานกว่าแต่แบบหยาบหรือแบบจาน จะได้ในเรื่องการหมุนเวียนและเคลื่อนตัวของน้ำ เพราะเราต้องมีการพลิกน้ำด้านล่างให้หมุนเวียนขึ้นมาสัมผัสอากาศด้านบนด้วย
และแบบละเอียดจะตันไวกว่าแบบหยาบด้วย จึงควรหมั่นทำความสะอาดด้วย

✅หัวเจ๊ท มีความนิยมน้อยลง เพราะใช้ปั้มแรงดันสูงเปลืองไฟ กระแสน้ำพ่นออกมาเป็นพื้นที่แคบและแรงไปสำหรับปลา และไม่ได้พลิกน้ำจากด้านล่างขึ้นมา แบบจานอ๊อกซิเจน

✅น้ำตก,น้ำล้น หรือไหลตามผนังหินกาบใดๆ นอกจากความสวยงามแล้ว ก็ยังช่วยในเติมอ๊อกซิเจนได้เป็นอย่างดี

🆘สิ่งบอกเหตุว่าอ๊อกซิเจนไม่เพียงพอ คือปลาว่ายมาออกัน ในจุดที่มีอ๊อกซิเจน มีน้ำตก มีน้ำไหล หากไม่มีการแก้ไข สามารถทำให้ปลาตายได้ในเวลาไม่นาน

🆘ข้อเตือนใจ🆘
เหตุการณ์ไฟดับ, ถอดผิดปลั๊ก, ปลั๊กหลุด ...แล้วปลาตายทั้งบ่อ เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากับนักเลี้ยง

ดังนั้นระบบไฟสำรอง ปั้มลมแบตในตัว เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย‼️ และ ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนมีคือ ถังอ๊อกซิเจนสำหรับแพคปลา และถุงแพคปลา ถึงแม้จะยังไม่มีความคิดที่จะขายปลาหรือย้ายปลาก็้ตาม

เพราะไฟสำรองหรือปั้มลมแบตในตัว มันใช่ว่าเราจะได้ใช้ตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ บางทีกว่าจะได้ใช้แบตก็เริ่มเสื่อมแล้ว 😅 และไฟดับมันก็ไม่มีใครมากำหนดขั้นสูงสุดได้นะ ว่าจะดับไม่เกินกี่ชั่วโมง

ดังนั้นมีถังออกซิเจน มีถุง ตักปลาแพคใส่ถุงลอยในบ่อยางที่ใส่น้ำแข็งเล็กน้อยให้อุณหภูมิเย็นซักหน่อย 24-25 องศา ก็สามารถทำให้ปลาอยู่ได้อีกเป็น 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว และเราก็ยังเติมเพิ่มได้เรื่อยๆด้วย👍

‼️ที่เจ๋งกว่านั้น ถังอ๊อกซิเจนเก็บไว้ ไม่ได้ใช้นานๆเป็นปีๆ ก็ไม่มีปัญหา ของผมไม่ได้เปิดมา 6-7 ปี ยังใช้ได้😱....Confirm ผมเอามาแพคปลา 82 cm เดินทาง 2 ชั่วโมง เพื่อไปปล่อยมาแล้ว รอด‼️

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

🔥คุณภาพน้ำ🔥คุณภาพน้ำที่ดีและเหมาะสมกับปลาคาร์ฟ ไม่ได้วัดที่ความใส‼️ ซึ่งค่าหลักๆที่เราควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ✅แอม...
16/03/2021

🔥คุณภาพน้ำ🔥

คุณภาพน้ำที่ดีและเหมาะสมกับปลาคาร์ฟ ไม่ได้วัดที่ความใส‼️ ซึ่งค่าหลักๆที่เราควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ

✅แอมโมเนีย มีพิษรุนแรงกับปลา ควรมีค่าต่ำสุดในแถบตรวจ ตลอด 24 ชม. มี
✅ไนไตร์ท มีพิษรุนแรงกับปลา ควรมีค่าต่ำสุดในแถบตรวจ ตลอด 24 ชม.
✅ไนเตรท มีค่า ไม่เกิน 60 PPM
✅GH (General Hardness) ระดับความอ่อนหรือกระด้างของน้ำ

GH 50-100 ppm =น้ำอ่อน ดีต่อการเจริญเติบโตของปลา, มีผลดีต่อสีแดงและความมันเงาของผิว
GH > 200 ppm = น้ำกระด้าง มีผลดีต่อคุณภาพของดำและสีขาว
ค่าที่เหมาะสมคือค่าช่วง 60-180 ppm

‼️หากน้ำอ่อนไป แก้ไขโดยการใส่เปลือกหอย หากน้ำกระด้าง แก้ไขโดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำที่มีการกรองความกระด้างออกไปแล้ว

✅KH (Carbonate Hardness) ความสามารถในการเป็นตัว Buffer ของการเปลี่ยนแปลงค่า PH ของน้ำ

KH สูง >200 ppm ทำให้ PH นิ่งเปลี่ยนแปลงยาก
KH ต่ำ 50-100 ppm ทำให้ PH แกว่งง่ายและมีแนวโน้มเป็นกรด ทำให้ปลาเครียดและภูมิตก ปลาป่วยง่าย

✅PH ที่เหมาะสมคือ 6.8-8.0
โดยการวัดให้วัด 2 ข่วงเวลาคือ ช่วงเช้ามืดหรือกลางคืนที่ไ่ม่มีแสง และช่วงกลางวันแดดจัดๆ โดยช่วงกลางวันพืชน้ำสังเคราะห์แสงจะทำให้น้ำมีความเป็นกรดเพิ่ม ค่าที่วัด 2 ช่วงเวลานี้ไม่ควรต่างกันเกิน 2 หน่วย

หาก PH ต่ำ (กรด) ปลาโตช้า เครียด ฮุบอากศ กรองทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
หาก PH สูง (ด่าง) ทำให้แอมโมเนียเป็นพิษมากขึ้น, พืชน้ำไม่ดูดซับสารอาหารในน้ำ ทำให้ไนเตรทสูงขึ้น

‼️กรณี PH ต่ำ (กรด) ให้ลดอาหาร เปลี่ยนถ่ายน้ำ
‼️กรณี PH สูง (ด่าง) ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำ

🆘คุณภาพน้ำที่ดีมาจากระบบกรองที่มีพื้นฐานที่ดี โดยพื้นฐานที่ดีของระบบที่เน้นไปทางการบำบัดด้วยกรองชีวภาพควรมีดังต่อไปนี้

✅รอบน้ำอย่างน้อย 15 รอบต่อวันหากได้ 24 รอบคือ อุดมคติ
✅Retention time มากกว่า 19 นาทีก่อนหัก Void ( เฉลี่ย Void 0.8)

Retention time = ขนาดกรอง (ตัน) /อัตราไหลของปั้ม (ตันต่อชม.)
ได้เท่าไหร่เอามาคูณ 60 จะออกมาเป็น นาที

ซึ่งนั่นคือกรองต้องมีขนาดอย่าง 30% ของบ่อเลี้ยงที่ 18 รอบต่อวัน หากรอบน้ำมากขึ้น ขนาดกรองก็ต้องใหญ่กว่า 30% เพื่อให้ Retention time ยังคงเพียงพอ

🆘หมายเหตุตัวโตๆ🆘
คุณภาพน้ำดีที่วัดได้ ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าคุณจะไม่ต้องล้างกรองนะครับ‼️ ต้องแยกกัน

เพราะการหมักหมมของตะกอนของเสีย คือแหล่งบ่มเพาะ ปรสิต,แบคทีเรีย และเชื้อโรค เมื่อมีมากขึ้นก็สามารถโจมตีปลาเราได้ทันทีเมื่อปลามีจังหวะภูมิตก

ถ้าพูดให้เห็นภาพนึกตามง่ายๆ ก็ประมาณว่า ห้องนอนติดเครื่องฟอกอากาศอย่างดี แต่นอนบนที่นอนที่เต็มไปด้วยไรฝุ่นนั่นเอง🤟

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

❤️ปัจจัยที่ทำให้ปลาเราตัวใหญ่ได้สุดๆ❤️เมื่อเราจริงจังกับการเลี้ยงมากขึ้นและต้องการเห็นปลาขนาด 80++ ในบ่อเราแบบ Body อลัง...
16/03/2021

❤️ปัจจัยที่ทำให้ปลาเราตัวใหญ่ได้สุดๆ❤️

เมื่อเราจริงจังกับการเลี้ยงมากขึ้นและต้องการเห็นปลาขนาด 80++ ในบ่อเราแบบ Body อลังการ ไม่ใช่ได้แค่ยาวนั้น
สิ่งที่เราต้องคำนึงและให้ความสำคัญมีดังนี้

🔥พันธุกรรม🔥

ขนาดคนคุณยังอยากรู้ว่าลูกเต้าเหล่าใคร ปลาคาร์ฟ ก็เช่นกัน ดังนั้นทุกๆครั้งที่คุณเลือกปลาเข้าบ้าน ควรจะให้ความสำคัญกับการรู้ว่า แม่ปลาครอกนี้คือใคร โครงสร้างและคุณภาพของแม่ปลาระดับไหน ผลผลิตที่ผ่านมามีจุดเด่นและผลงานของลูกๆระดับไหน

ซึ่งแน่นอนว่าการที่เราเลือกปลาจากฟาร์มที่มีชื่อเสียงในสายพันธุ์นั้นๆ ก็ย่อมมีโอกาสได้ปลาที่มีกรรมพันธ์ที่ดีๆ คุณภาพสูงๆ ในสายพันธุ์นั้นๆสูงขึ้น อาทิเช่น หากอยากเลี้ยง

✅โคฮากุ ก็ให้เลือก ฟาร์ม ซาไก ,ไดนิชิ และ โมโมทาโร่
✅ ซันเก้ ก็ให้เลือก ฟาร์ม ซาไก
✅โชว่า ก็ให้เลือก ไดนิชิ, อิซ่า
✅ซูซุย ก็ให้เลือก ฟาร์มคาวาคามิ
✅ชีโร่ ก็ให้เลือกฟาร์ม โอโมซาโกะ
เหล่านี้เป็นต้น

แต่แน่นอนครับทุกๆฟาร์ม ก็ย่อมมีโอกาสมีช้างเผือกในสายพันธุ์นั้นๆได้เช่นกัน เพียงแต่ % จะน้อยกว่านั่นเอง😂

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

🔥อาหารปลา🔥สารอาหารสำคัญในอาหารปลาคือ โปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรตซึ่งโปรตีนกับไขมัน คือสิ่งที่ปลานำไปใช้ในการเติบโตและข...
15/03/2021

🔥อาหารปลา🔥

สารอาหารสำคัญในอาหารปลาคือ โปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต

ซึ่งโปรตีนกับไขมัน คือสิ่งที่ปลานำไปใช้ในการเติบโตและขยายตัว หากมองหาอาหารเร่งโต โปรตีนสูง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เราจะพิจารณา เพราะจริงๆแล้ว ปลาคาร์ฟต้องการโปรตีนเพียง 38% ก็เพียงพอแล้ว
แต่ไขมัน ต่างหากที่เป็นอีกตัวนึงในการเร่งโตและขยายตัวของปลา

ผมยกตัวอย่างอาหาร Saki Hikari ที่ทั่วโลกยอมรับในคุณภาพ มีสัดส่วนโปรตีน และ ไขมันดังนี้

🔥HI GROWTH มี โปรตีน 32% ไขมัน 7%
🔥GROWTH มี โปรตีน 40% ไขมัน 9%

🔥BALANCE มี โปรตีน 40% ไขมัน 6%

🔥WHEAT-GERM มี โปรตีน 32% ไขมัน 4%

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ตัวที่เร่งโตมากที่สุดคือ HI GROWTH กลับไม่ได้มีที่โปรตีนที่สูงเลย แต่มีไขมันเป็นอัตราส่วนต่อโปรตีนที่สูงพอๆกับ Growth

และ อาหาร BALANCE ที่เน้นสมดุลไม่เร่งในการโต โปรตีนเท่าเดิมกับ GROWTH แต่ไขมันลดลง

และสุดท้ายที่ลด ทั้งโปรตีนและไขมัน ซึ่งเหมาะกับช่วงที่อากาคเย็นลงต่ำกว่า 18 องศา เพราะระบบย่อยและเผาผลาญของปลาลดลงนั่นเอง

ปัจจุบันตลาดอาหารปลามีการแข่งขันกันสูง แทบไม่ต่างกับตลาดอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง แต่ผมจะฝากให้แนวคิดว่า อาหารปลาทุกชนิดในท้องตลาด ปลากินแล้วโตทุกยี่ห้อ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ

✅อาหารคุณภาพสูง จะโตแบบมีมวลกล้ามเนื้อ ไหล่ หลัง ข้อหาง มาแบบเด่นชัด
✅อาหารคุณภาพสูง ปลาจะดูดซึมและนำไปใช้ได้หมด

ดังนั้นขอสังเกตุเบื้องต้นว่าอาหารมีคุณภาพสมราคาไหมนั้น เราอยากสังเกตุได้จาก

❤️ไม่เกินฟองบนผิวน้ำน้อย เพราะการเกินฟองบนผิวน้ำ เป็นการบ่งบอกว่า ปลาย่อยโปรตีนได้ไม่หมดเหลือออกมาเยอะ แสดงว่าเกรดของโปรตีนของอาหารไม่ดีพอดูดซึมยาก หรือ มีอัตราส่วนที่ไม่เหมาะสมในการผลิต

❤️ขี้ปลา สำหรับอาหารที่คุณภาพดีๆ ขี้ปลาจะแน่นๆ เฟริม์ๆ จมน้ำ และ ปลาจะขี้ออกมาน้อยๆ และขี้ก็จะจมน้ำไปเลย และไม่ออกมาเป็นฝุ่นๆเหมือนคนท้องเสีย

นั่นคือคุณจะเห็นขี้ปลาลอยบนผิวน้ำน้อยๆ และในน้ำมีฝุ่นน้อยๆ

นอกจากอาหารที่ดีแล้ว การเข้าใจระบบการย่อยอาหารของปลาก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ
✅ปลาไม่มีกระเพาะอาหาร การแบ่งเป็นหลายๆมื้อจึงจำเป็น
✅อุณหภูมิน้ำในบ้านเราที่เฉลี่ยเกิน 24 องศานั้นปลาต้องการอาหาร 1-2% ของน้ำหนักตัว

เหล่านี้เครื่องให้อาหารจึงมีความจำเป็นนั่นเอง

🙏สุดท้ายฝากเตือนสติกันนิดนึง เพราะนักเลี้ยงมือใหม่แทบจะทุกคน มักจะถามเป็นคำถามแรก เมื่อเห็นใครเลี้ยงปลาได้ตัวใหญ่ๆ อลังการว่า “ใช้อาหารยี่ห้อไหน??”

แต่จริงๆแล้ว มันเป็นเพียงแค่ 1 ในอีก 7 ปัจจัยเท่านั้น และอาหารดีไม่ได้ดูกันที่ ปลาเด็กโตไวแค่ไหน ล่ำแค่ไหน แต่มันวัดกันที่ ทำให้ปลา Nisai ขึ้นไป หุ่นดีแค่ไหนต่างหาก 👍

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

🔥ขนาดของบ่อ🔥ปลาคาร์ฟต้องการพื้นที่ในการเติบโต มันสื่อสารกันและรู้ได้ว่ามันอยู่กันแออัดรึไม่ ถ้าแออัดมันก็จะปรับตัวมันเพื...
15/03/2021

🔥ขนาดของบ่อ🔥

ปลาคาร์ฟต้องการพื้นที่ในการเติบโต มันสื่อสารกันและรู้ได้ว่ามันอยู่กันแออัดรึไม่ ถ้าแออัดมันก็จะปรับตัวมันเพื่อที่จะโตช้าๆหรือให้โตไม่เต็มที่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมญี่ปุ่นถึงเอาปลาไปขยายร่างในบ่อดิน👍

ซึ่งสำหรับการเลี้ยงในบ่อปูนของพวกเราขนาดน้ำ 1 ตัน ต่อ 1 ตัว นับเฉพาะบ่อเลี้ยงคือขั้นต่ำสุดที่ปลาจะไปได้สุดใน DNA ของมัน แต่ดีที่สุดเป็นอุดุมคติสำหรับการเติบโตในบ่อปูน คือ 3 ตันต่อตัว👍

ซึ่งเรื่องจำนวนปลาในบ่อเป็นอีกหนึ่งเรื่องยากมากๆ สำหรับการเลี้ยงปลาคารฟ์ เพราะนักเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งนิสัยของผู้ชายโดย DNA แล้วนั่นก็คือ อุ้ย‼️คนนั้น ก็สวย คนนี้ก็น่ารัก คนนี้ก็ขาว ...เอ้ย ตัวๆ ไม่ใช่คน 🤣🤣

นั่นจึงอดไม่ค่อยได้ที่จะมีการซื้อปลา และ เปลี่ยนปลาไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นอีกอรรถรสในการเลี้ยงเช่นกัน

แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เปรียบได้เหมือนชีวิตจริง การมีเด็กเยอะๆนั้น มันทำให้มีปัญหาเยอะ ค่าใช้จ่ายสูง และไม่ได้ดีซักคน ...ปลาก็เช่นกัน การมีปลาที่ไปได้สุดในมาตรฐานและงบประมาณของเราไม่กี่ตัวในบ่อกลับทำให้เรามีความสุขมากกว่า☺️

แล้วมาติดตามกันต่อไปนะครับว่าปัจจัยอื่นๆที่เหลือ มีอะไรอีกบ้าง

“หลักการทำงานของเกลือในการรักษาโรคปลาคาร์ฟ”ตามปกติปลาจะมีการปรับสมดุลและถ่ายเทน้ำระหว่างน้ำภายในร่างกายกับน้ำภายนอกร่างต...
13/03/2021

“หลักการทำงานของเกลือในการรักษาโรคปลาคาร์ฟ”

ตามปกติปลาจะมีการปรับสมดุลและถ่ายเทน้ำระหว่างน้ำภายในร่างกายกับน้ำภายนอกร่างตลอดเวลา ซึ่งปลาจะเสียพลังงานไปกับการรักษาสมดุลนี้พอสมควร💪

การใส่เกลือผสมลงไปในน้ำ จะไปเปลี่ยน Osmolarity ของน้ำให้สูงขึ้น ซึ่งโดยปกติน้ำจะเคลื่อนที่จาก Osmolarity ต่ำไปสู่ Omsmolarity ที่สูงกว่า ซึ่งเกลือประมาณ 1-3 PPT หรือ 1-3 kg ต่อตัน จะทำให้ Osmolarity ระหว่างน้ำภายนอกตัวปลากับน้ำภายในตัวปลามีค่าที่ใกล้เคียงกัน จึงมีการถ่ายเทระหว่างน้ำภายในตัวปลาและน้ำภายนอกตัวปลาลดลง ทำให้ไตของปลาที่ทำหน้าที่ขับน้ำออกจากร่างกายทำงานลดลงตาม

ปลาจึงมีความเครียดลดลงและฟื้นตัวจากความอ่อนเพลียได้เร็วขึ้น ภูมิคุ้มกันจึงไม่ตก

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเมื่อเราได้รับปลาที่แพคใส่ถุงเดินทางมาหลายชั่วโมง บ่อยางที่เราเตรียมไว้ใน 1-2 วันแรก จึงควรใช้แค่เกลือ ยังไม่ควรเริ่มต้นด้วยยาหรือสารเคมีอื่นๆ👎

ในส่วนของการใช้เกลือเพื่อกำจัดปรสิตและแบคทีเรียบางชนิด เนื่องด้วยโดยธรรมชาติสัตว์น้ำจืดและรวมถึงปรสิต แบคทีเรียและสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อาศัยอยู่ตามตัวปลา ก็จะคุ้นเคยกับน้ำที่มี Osmolarity ต่ำ พอมาเจอน้ำที่มี Osmolarity สูงเมื่อใส่เกลือ จึงปรับตัวไม่ทันและทำให้ตายได้ หรือหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ลดการแพร่กระจายได้👏

อีกทั้งเกลือยังไปกระตุ้นให้ปลาของเรา “สร้างเมือก” ซึ่งเมือกปลาก็เหมือนยาฆ่าเชื้อดีๆนี่เอง ถ้าสังเกตเวลาที่ปลาจะป่วย ปลาจะมีเมือกเยอะมากขึ้น

แต่ก็ด้วยเจ้าเมือกนี่เองก็เป็นดาบสองคม เนื่องจากการใส่เกลือเพื่อทำลายปรสิตและแบคทีเรีย จะถูกใช้ตั้งแต่ 5-8 PPT หรือ 5-8 kg ต่อตัน ซึ่งสำหรับปลาคาร์ฟแล้ว มันจะไปทำให้ปลาเครียดและสร้างเมือกมหาศาล😱

สิ่งที่ตามมาคือ
🆘ปลาเครียดและอ่อนแอ
🆘เกลือทำให้อ๊อกซิเจนลดลง
🆘เมือกทำให้คุณภาพน้ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว

ซึ่งหลายคนที่ใช้เกลือแล้วปลาไม่ดีขึ้นหรือก็ยังทรุดและตาย เพราะพลาดในจุดนี้ นั่นก็คือการรักษาคุณภาพน้ำ‼️

เนื่องจากเกลือไม่เหมือนยาหรือสารเคมีที่เรามักแช่ 24 ชม. ถึงมีการเปลี่ยนน้ำและเติมยา

แต่เราสามารถเปลี่ยนน้ำได้บ่อยๆ ทุก 6 ชั่วโมงก็ยังได้ เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ดีตลอดเวลา เพียงแต่เราแค่ต้องรักษาระดับความเค็มหลังจากเปลี่ยนน้ำให้มีระดับเท่าเดิมก็เท่านั้นเอง

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องซื้อที่วัดค่าความเค็ม หรือ SALT METER👌เพื่อรักษาระดับความเค็มเดิม

❤️และนี่ก็เป็นกลไกของเกลือที่ทำให้ปลาสดชื่นหรือช่วยรักษาเวลาปลาเริ่มมีอาการป่วย หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ🙏

🆘หมายเหตุ🆘
เกลือเหมาะสำหรับใช้ตามเหตุผลด้านบนเท่านั้น ห้ามตั้งใจนำมาใช้เลี้ยงปลาโดยมีวงรอบใส่ๆเป็นประจำ เพราะมันเป็นการไปเปลี่ยนสมดุลตามธรรมชาติ, ไปทำให้ปรสิตหรือแบคทีเรียปรับสภาพไปตาม Osmolarity ที่เปลี่ยนไป นั่นจึงทำให้มันทนต่อเกลือได้สูงมากขึ้น และสิ่งสำคัญสุดท้ายคือ อ๊อกซิเจนในน้ำจะลดลงและของเสียจะมากขึ้นด้วยเมือกของปลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่แพคปลาใส่เกลือแล้วจึงไม่รอด‼️‼️

❌ปลาแบบไหนที่ไม่ควรเลี้ยงต่อ❌คุณอาจจะเปลี่ยนอาหารปลาลองได้บ่อยๆคุณอาจจะซื้อปลาและเปลี่ยนปลาได้เรื่อยๆ แต่ในการเลี้ยงปลาค...
09/03/2021

❌ปลาแบบไหนที่ไม่ควรเลี้ยงต่อ❌

คุณอาจจะเปลี่ยนอาหารปลาลองได้บ่อยๆคุณอาจจะซื้อปลาและเปลี่ยนปลาได้เรื่อยๆ แต่ในการเลี้ยงปลาคาร์ฟมีปัจจัยนึง ที่คุณเปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุดนั่นก็คือ “ขนาดของบ่อปลา”

ซึ่งบ่อปลาคือหัวใจสำคัญในการเจริญเติบโตของปลามาก และมีจำกัด ดังนั้นในมุมมองของผมเองปลาแบบไหนที่ผมเลือกที่จะไม่เลี้ยงต่อ เพื่อให้พื้นที่ในบ่อหลวมที่สุด😁 ซึ่งบอกได้เต็มปากเลยว่า “❌ไม่ได้ขึ้นกับราคาปลาเลย”

❌ปลาที่ไม่อยู่ในสายตา
ผมเชื่อว่าในบ่อของเพื่อนๆ จะมีปลาบางตัวที่เราไม่ค่อยมองเห็นมัน มันจะว่ายผ่านไปมาแบบไม่มีตัวตน😅

❌ปลาที่ไม่เข้าตา
ปลาตัวไหนที่คุณเห็นแล้วรู้สึกในด้านลบมากกว่าด้านบวก เช่น มีเอว, ขี้กลัว, พิการ เลี้ยงไม่โต เป็นต้น

เนื่องด้วยการเลี้ยงปลาคืองานอดิเรก งานอดิเรก คือ ทำแล้วบันเทิงใจ ดังนั้น ตัวไหนที่เลี้ยงแล้วคุณไม่บันเทิงใจปล่อยมันไปเถอะ🙏

มุมมองหลายคนอาจจะดราม่า มองในเรื่องของบาป-บุญ ได้มายังไงก็ต้องเลี้ยงเค้าให้ตายกันไปข้าง.. แต่ผมกลับมองอีกมุมนึง

❤️ปลาที่เราไม่บันเทิงแล้ว การได้แบ่งปันให้คนอื่นได้เลี้ยงในราคามิตรภาพ เป็นความสุขของตัวปลาเองและความสุขของสังคมคนเลี้ยงปลาด้วยกัน

❤️การปล่อยปลาพิการ หรือ ผิดปกติที่ไม่มีใครสนใจรับเลี้ยงต่อ ไปในบ่อธรรมชาติที่ดีๆ เป็นการทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นกว่าเดิม เช่นปลาซิงค์ ได้ไปอยู่ในบ่อธรรมชาติที่มีพื้นไล่ระดับ มีจุดสูง จุดต่ำ ให้เค้าได้เลือกพัก มีพื้นดินโคลนที่ช่วยลดแผลกดทับ เป็นการดีกว่ารอวันตายในบ่อปูน

‼️ในการเลี้ยงปลามีต้นทุนและค่าใช้จ่าย ...กำไรที่ได้คือความบันเทิงใจ...คุณกำลังเลี้ยงแบบได้กำไรหรือขาดทุนอยู่???

‼️เลี้ยงปลาเยอะๆในบ่อ แน่ใจรึว่าคุณกำลังเมตตาเค้า???

🆘ปล.เป็นความเห็นส่วนตัว ที่เลี้ยงปลามานานในระดับนึงจนพบว่า ยิ่งปลาน้อยความสุขทั้งของปลาและคนเลี้ยงกลับมากขึ้น🙏

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when MyPondMyKoi posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to MyPondMyKoi:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Pet Store/pet Service?

Share