Wanner's Reptile

  • Home
  • Wanner's Reptile

Wanner's Reptile Reptile keepers and breeders in Thailand. Feel free to ask question about reptiles and other animals
(1)

Ball pythons 🐍 -1.0 Butter pastel ปี 23 -1.0 Special pastel 66% het clown ปี 22-1.0 Normal ปี 23-1.0 Banana/ Coral glow(...
29/09/2023

Ball pythons 🐍

-1.0 Butter pastel ปี 23
-1.0 Special pastel 66% het clown ปี 22
-1.0 Normal ปี 23
-1.0 Banana/ Coral glow(Cg) ปี 23

สนใจ/สอบถามได้นะครับ📥📥📥งดคอมเมนท์นะครับ

Crested Gecko 🦎 - Harlequin partial pinstripe - เพศผู้ ♂️- มีตำหนิโคนหางเล็กน้อยสนใจ/สอบถาม 📥📥📥  งดคอมเม้นนะครับ🙏
19/09/2023

Crested Gecko 🦎
- Harlequin partial pinstripe
- เพศผู้ ♂️
- มีตำหนิโคนหางเล็กน้อย
สนใจ/สอบถาม 📥📥📥 งดคอมเม้นนะครับ🙏

Ball pythons 🐍 มาแล้วจ้าเด็กๆปี 2023 ลูกเพจท่านไหนสนใจ inbox มาได้เลยนะครับ2.0 Banana/Coral glow(Cg) ปี 231.0 Normal ปี ...
16/08/2023

Ball pythons 🐍

มาแล้วจ้าเด็กๆปี 2023 ลูกเพจท่านไหนสนใจ inbox มาได้เลยนะครับ

2.0 Banana/Coral glow(Cg) ปี 23
1.0 Normal ปี 23

ปล.งดคอมเมนท์นะคร้าบ😁

Crested Gecko Morphs🦎 แบบง่ายๆ (แค่มอฟนะ)ก่อนอื่นมอฟคืออะไรมอฟ (Morph) คือฟีโนไทบ์ (phenotype) หรือรูปลักษณ์ภายนอกที่สัต...
15/06/2023

Crested Gecko Morphs🦎 แบบง่ายๆ (แค่มอฟนะ)

ก่อนอื่นมอฟคืออะไร
มอฟ (Morph) คือฟีโนไทบ์ (phenotype) หรือรูปลักษณ์ภายนอกที่สัตว์ตัวนั้นแสดงออกมาผ่านทางพันธุกรรม🧬

และด้วยความที่ว่า Crested Gecko เป็นโพลีจีนิก (polygenic) ทำให้การคาดเดาฟีโนไทบ์ของตัวอ่อนที่กำลังจะเกิดนั้นค่อนข้างยาก ต่างจากสัตว์อื่นที่ส่วนมากจะดูแค่ ยีนเด่น (dominant) และยีนด่อย (recessive)
ลูก Crested Gecko จะได้รับรูปลักษณ์จากทั้งพ่อ และแม่ แถมลูกๆแต่ละตัวก็จะมีฟีโนไทบ์ที่แตกต่างจากกันอีกด้วย🤯 ยีนที่พ่อแม่ตุ๊กแกมีทั้งที่แสดงออกมา และไม่แสดงออกมาจะมีผลต่อตัวลูก ดังนั้นการเพาะ Crested Gecko จะเป็นการคาดเดาเอาว่าลูกที่กำลังจะออกมา จะมีหน้าตาแบบไหน สีอะไร ลายอะไร โดยอิงจากตัวพ่อ และแม่มากกว่าที่จะเป็นการฟันธงว่า จะเป็นมอฟไหนกี่เปอร์เซ็นต์ หรือตัวไหนจะมียีนแฝงอะไรบ้าง

มอฟ
1) Patternless🟫
- ไม่มีลาย (ตามชื่อ)
- มีสีเดียว เช่น น้ำตาล แดง ส้ม เหลือง และอื่นๆ

2) Bicolor
- มี2สี (ตามชื่ออีกแล้ว😆) สีนึงตรงตัว แล้วอีกสีตรงหลังและ หัว

3) Tiger 🐅
- มีสีพื้นโทนอ่อน
- มีลายที่เป็นสีโทนเข้ม ซึ่งลายนั้นจะรากยาวจากด้านข้างลำตัวขึ้นไปถึงหลัง และลงมายังข้างลำตัวอีกฝั่งนึง คล้ายลายเสือ (ตามชื่อ)

4) Brindle
- คล้ายๆกับ Tiger แต่ลายจะแตกกระจาย ไม่รากยาวจากข้างลำตัวถึงหลัง

5) Flame🔥
- มีสีพื้นตรงข้างลำตัว และหลังที่อ่อนกว่าส่วนที่เหลือของลำตัว
- อาจจะมีลายตามข้างลำตัว และขาได้ (หรืออาจจะไม่มีก็ได้นะ)
- มีลายบนหลังด้วย

6) Harlequin 🃏
- เหมือน Flame แต่มีลายตามชา และข้างลำตัวที่เยอะกว่า

7) Extreme harlequin 🃏
- คือ harlequin ที่ลายเยอะขี้นอีก
- ลายจะขยายไปถึงส่วนบนของข้างลำตัว และอาจชนกับลายบนหลังของตัวตุ๊กแก

8) Lilly White⬜️
- มอฟนี้คอนเฟิร์มว่าเป็น ลักษณะเด่นร่วม (Co-dominance)
- มีสีขาว-ครีม ตามหลัง และข้างลำตัว

9) Axanthic⬛️
- คอนเฟิร์มว่าเป็น ยีนด่อย (Recessive gene)
- ยีนนี้จะลบ color pigment สีเหลืองออกจากตัวตุ๊กแก ซึ่งทำให้ตุ๊กแกมีสีโทนดำ เทา และมีลายขาวเล็กน้อย

นอกจากมอฟเหล่านี้ Crested Gecko ยังมีลักษณะอื่นๆที่ใช้อธิบายฟีโนไทบ์ของมัน เช่น Traits ต่างๆอย่าง Dalmatian, Pinstripe, White wall หรือสีต่างๆอย่าง Olive, Cream, Lavender ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นตุ๊กแกเท่ๆ อย่าง Creamcircle, Halloween, Tricolor ซึ่งเราจะเก็บไว้พูดถึงในคราวหน้าเด้อออ (เพราะไม่งั้นโพสนี้มันจะยาวเกินไป😅)

ข้อมูลเพิ่มเติม: 1. อ่านเอา https://www.fluffydragons.com/morph-guide
2. ดูเอาง่ายๆ https://youtu.be/mUSlGPbe7KA

ปล. (เพื่อมีคนไม่เข้าใจ) โพสจะอธิบายแค่มอฟเท่านั้นนะครับ Traits กับสีต่างๆ เราจะเก็บไว้เล่าคราวหน้านะครับ😉

Metabolic Bone Disease หรือ (MBD) นั้นคืออะไร? แล้วอันตรายหรือไม่? แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร?🤔(MBD) หรือ metabolic bone dis...
28/10/2022

Metabolic Bone Disease หรือ (MBD) นั้นคืออะไร? แล้วอันตรายหรือไม่? แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร?🤔

(MBD) หรือ metabolic bone disease ในสัตว์เลื้อยคลานนั้นเป็นคำที่ใช้อธิบายปัญหาเกี่ยวกับกระดูกซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอหรืออาจจะมาการดูแลและสถานที่เลี้ยงที่ไม่เหมาะสม จึงส่งผลให้ทำให้ร่างกายของสัตว์เกิดอาการที่อาจมีตั้งแต่ความอยากอาหารลดลงไปจนถึงกระดูกอ่อน งอ หรือหัก อาการอื่นๆ ได้แก่ อาการสั่นหรือชัก อาการอ่อนแรงทั่วไป และปัญหาการเจริญพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานบางชนิดอาจตายจากโรคแทรกซ้อนที่เกิดจาก MBD
สาเหตุ
1.ได้รับฟอสเฟตสูงเกินไป
2.ได้รับแคลเซียมต่ำ และวิตามินดีต่ำไป
3.ได้รับแสง UV B ไม่เพียงพอ(จึงนำไปสู่การขาดวิตามินดีและแคลเซียม)
4.โรคไต

แล้วมีสัตว์เลื้อยคลานประเภทใดที่สามารถเป็นโรคนี้ได้?
สัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดสามารถเป็น MBD ได้แต่ส่วนมากเต่าและกิ้งก่ามักได้รับผลกระทบมากกว่างู

แล้ว MBD สามารถรักษาได้หรือไม่?
ส่วนมากแล้วนั้น MBD สามารถรักษาได้ โดยการให้ทานอาหารเสริมแคลเซียมผ่านการฉีดหรือรับประทานทางปาก จะมีความจำเป็น ในบางกรณีอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะและของเหลวโดยการฉีดในระยะยาว การปรับอาหารการกินและการเข้าถึงแสง UV B หรือแสงธรรมชาติเป็นสิ่งที่จำเป็น MBD ต้องได้รับรักษาไม่ช้าก็เร็วเพื่อเพิ่มโอกาสในมีชีวิตของสัตว์ แต่ถึงอาการจะดีขึ้นแต่รูปร่างและลักษระทางกายภาพของสัตว์ที่บิดเบี้ยวไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับไปเป็นปกติได้😔

อ้างอิง และข้อมูลเพิ่มเติม
-https://wcvmtoday.usask.ca/articles/2019/09/Understanding-metabolic-bone-disease-in-reptiles.php #:~:text=MBD%20occurs%20when%20there%27s%20an,strong%20as%20they%20should%20be%20%E2%80%A6
-https://www.birdexoticsvet.com.au/new-blog/2020/6/16/metabolic-bone-disease-in-reptiles #:~:text=Treatment%20often%20involves%20splinting%20or,or%20natural%20light%20are%20necessary.
-https://youtu.be/6v0UFnAth6o

Reptile’s Profile 001 “Chahoua Gecko”🦎 หรือ Mossy Prehensile-tailed Gecko หรือ Short-snouted New Caledonian Gecko หรือ B...
17/08/2022

Reptile’s Profile 001 “Chahoua Gecko”🦎 หรือ Mossy Prehensile-tailed Gecko หรือ Short-snouted New Caledonian Gecko หรือ Bavay's Giant Gecko หรือ Chewie หรือ........ อื่นๆ (ตัวนี้มีหลายชื่อมาก😆)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Mniarogekko Chahoua

Chahoua Gecko มาจาก New Caledonia🇳🇨 อาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่า🌲ของ New Caledonia โดยจะกินผลไม้ และแมลงเป็นหลัก🍎🦗, Chahoua เป็นตุ๊กแกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่สำหรับตุ๊กแกนิวแคลิโดเนีย โดยที่ตัวโตเต็มวัยสามารถยาวได้ถึง 10-12นิ้วโดยประมาณ และหนักได้ถึง 45-75กรัม พวกมันมีสีและลวดลายคล้ายพืชมอสส์เพื่อใช้พลางตัว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Mossy Prehensile-tailed Gecko” และเมื่อตุ๊กแกชนิดนี้รู้สึกไม่ปลอดภัยจากภัยต่างๆ พวกมันสามารถเลือกที่จะทิ้งหางเพื่อเอาตัวรอดได้ เช่นเดียวกับ Crested Gecko แต่ต่างกันตรงที่ Chahoua จะสามารถงอกหางออกมาใหม่ได้เมื่อมีการสลัดทิ้ง🤩

เราสามารถแบ่งตุ๊กแกชนิดนี้ได้เป็นสองประเภทตามสถานที่ที่พบเจอพวกมันได้แก่ Pine Isle (เกาะไพน์) และMainland (แผ่นดินใหญ่) และถึงแม้เราไม่สามารถหาความแต่งต่างของมันทางพันธุกรรมได้ แต่เราสามารถเห็นความแตกต่างในลักษณะภายนอกของมันได้ อย่างไรก็ตามหากมองทางวิทยศาสตร์ ตุ๊กแกสองชนิดนี้จะถือว่าเหมือนกัน🤔

ความแตกต่างระหว่าง Pine Isle Chahoua และ Mainland Chahoua
1) Pine Isle Chahoua
- ตัวใหญ่กว่า (ทั้งหนักกว่า และยาวกว่า)
- ตาเล็กกว่า
- ปากยาวกว่า
2) Mainland Chahoua
- ตัวเล็กกว่า
- ตาใหญ่กว่า
- ปากยาวกว่า

ปล. แม้ Chahoua Gecko เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี แต่เนื่องจากมีค่าตัวที่สูงจึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับญาติๆของมันเช่น Crested gecko หรือ Gargoyle Gecko รวมทั้งการที่พวกมันเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างหวงอาณาเขต จึงทำให้การที่จะเพาะมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย

อ้างอิง และข้อมูลเพิ่มเติม
- https://www.lornasredskygeckos.com/tail-loss.html
- https://www.biotaxa.org/hn/article/view/52732/60295
- https://www.thechahouachamber.com/pine-island-vs-mainland-chahoua #:~:text=(1)%20Pine%20Island%20chahoua%20are,tails%20if%20they%20are%20lost.

5 Basic Morphs of Hognose Snake (5 มอร์ฟพื้นฐานของงูจมูกหมู)🐽🐍1. Normal (Wild type)- ยีนส์: นอมอลนั้นจัดอยู่ในประเภท “Do...
12/06/2022

5 Basic Morphs of Hognose Snake (5 มอร์ฟพื้นฐานของงูจมูกหมู)🐽🐍
1. Normal (Wild type)
- ยีนส์: นอมอลนั้นจัดอยู่ในประเภท “Dominant” หรือ ยีนส์เด่น
- ลักษณะ: ลำตัวสีน้ำตาลอ่อนมีจุดสีน้ำตาลเข้มไล่ไปจากหัวถึงหางและใต้ ท้องจะมีสีโทนดำแต่ไม่ดำสนิท
2. Conda (anaconda) *มีซุปเปอร์ ฟอร์ม
- ยีนส์: คอนด้านั้นจัดอยู่ในประเภทยีนส์ “Co-dominant” หรือ ยีนส์เด่นร่วม
*ที่จริงแล้วมันควรจัดอยู่ในประเภทยีนส์เด่นไม่สมบูรณ์ หรือ Incomplete Dominant
- ลักษณะ: ลำตัวสีน้ำตาลอ่อนบ้างครั้งก็ออกไปทางครีมๆจุดบนตัวนั้นจีความ จางและน้อยกว่านอมอลและใต้ท้องจะมีสีโทนดำสนิท
3. Albino
- ยีนส์: อัลไบโน หรือ อัลบีโน นั้นจัดอยู่ในประเภทยีนส์ “Recessive” หรือ ยีนส์ด้อย ในกรณีของ “อัลไบโน” นั้นจะทำให้เมลานินเม็ดสีดำไม่แสดงผล
*การจะผสมมอร์ฟนี้ได้นั้นจำเป็นต้องมีเพศผู้และเมียที่มีมอร์ฟเดียวกัน ไม่งั้นจะได้ลูกเป็น Het หรือ Heterozygous
- ลักษณะ: เนื่องจากมอร์ฟนี้นั้นขาดเมลานินสีดำ จึงทำให้งูมีลำตัวสีขาวและมีจุดสีส้ม สีเหลือง และตาสีแดง
4. Axanthic
- ยีนส์: Axanthic นั้นจัดอยู่ในประเภทยีนส์ “Recessive” หรือ ยีนส์ด้อย ในกรณีของ “Axanthic” นั้นจะทำให้เมลานินเม็ดสีเหลืองและแดงไม่แสดงผล
*การจะผสมมอร์ฟนี้ได้นั้นจำเป็นต้องมีเพศผู้และเมียที่มีมอร์ฟเดียวกัน ไม่งั้นจะได้ลูกเป็น Het หรือ Heterozygous
- ลักษณะ: เนื่องจากมอร์ฟนี้นั้นขาดเมลานินสีเหลืองและแดง จึงทำให้งูมีลำตัวสีขาวเทาและมีจุดสีดำเทาตามตัว
5. Lavender
- ยีนส์: ลาเวนเดอร์ นั้นจัดอยู่ในประเภทยีนส์ “Recessive” หรือ ยีนส์ด้อย ในกรณีของ “ลาเวนเดอร์” นั้นจะทำให้ยีนที่ลดการผลิตเมลานินบนผิวหนัง จึงทำให้ปรากฏเป็นสีลาเวนเดอร์
*การจะผสมมอร์ฟนี้ได้นั้นจำเป็นต้องมีเพศผู้และเมียที่มีมอร์ฟเดียวกัน ไม่งั้นจะได้ลูกเป็น Het หรือ Heterozygous
- ลักษณะ: เนื่องจากมอร์ฟนี้นั้นมีเมลานินเม็ดสีที่ลดลง จึงทำให้ปรากฏเป็นสีลาเวนเดอร์ หรือสีม่วง จุดตามตัวนี้นจะสีม่วงเทา และดวงตาสีดำ *ถึงจะบอกว่าสีม่วงก็เถอะแต่จริงๆแล้วมันออกไปทางเทาสะมากกว่า

ปล. หากมีข้อมูลผิพลาดประการใดรหรือตกหลนในส่สนไหน สามารถพิมเพิ่มเติมไว้ใต้คอมเม้นได้เลยนะครับผม

รู้เถ้อะ🤔รู้หรือไม่ว่าเคแมน ลิซาร์ด🦎นั้นมีสองสายพันธุ์!!!เคแมน ลิซาร์ดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และเป็...
22/05/2022

รู้เถ้อะ🤔
รู้หรือไม่ว่าเคแมน ลิซาร์ด🦎นั้นมีสองสายพันธุ์!!!

เคแมน ลิซาร์ดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์มาที่สุดในอาณาจักรของสัตว์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันมีสองสายพันธุ์! คือ Northern Caiman lizard (Dracaena guianensis) และParaguay Caiman lizard (Dracaena paraguayensis) ซึ่งทั้งสองสายพันธุ์ถูกจัดเป็นสกุล(genus)เดียวกัน แต่แบ่งเป็นคนละสปีชีส์(species) และทั้งสองสายพันธุ์ยังถูกจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับเตกูหรือวงศ์(Teiidae)อีกด้วย

โดยเราสามารถจำแนกเคแมน ลิซาร์ด สองสายพันธุ์ได้ดังนี้:👇
Northern Caiman Lizard:
สี: แดง-เขียว มีสีสันสวยงาม
ที่อยู่ตามธรรมชาติ: อยู่ตามบึง หรือป่าดิบชื้อในประเทศในทวีปอเมริกาใต้ เช่น เปรู เอกวาดอร์ โคลอมเบีย และบราซิล
Paraguay Caiman Lizard:
สี: เทา ดำ น้ำตาล
ที่อยู่ตามธรรมชาติ: อยู่ตามบึง หรือบ่อในประเทศในทวีปอเมริกาใต้ เช่น บราซิล โบลิเวีย และปารากวัย

ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ลงต้องขออภัยด้วยนะครับพอดีแอดติดสอบ แต่ตอนนี้สอบเสร็จแล้ว ถ้าไม่ขี้เกียจเดี๋ยวแอดจะลงให้เรื่อยๆนะคร้าบบบ😁 แล้วก็หากข้อมูลผิดพลาดตรงไหนก็บอกกันด้วยนะคร้าบ😙

5 Weird Reptile Hybrids That You've Probably Never Seen Before (ห้าอันดับลูกผสมสัตว์เลื้อยคลานสุดแปลกที่คุณอาจไม่เคยเห็น...
22/04/2022

5 Weird Reptile Hybrids That You've Probably Never Seen Before
(ห้าอันดับลูกผสมสัตว์เลื้อยคลานสุดแปลกที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน)🦎

5 ตัวที่อยู่ในลิสต์นี้นั้นล้วนแล้วสัตว์ที่ผสมข้ามสปีชีส์ ไม่สามารถพบเห็นในธรรมชาติได้(แต่อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่ในบ้างกรณี)

1. Chahoua gecko x Crested gecko🦎
-เป็นลูกผสมระหว่าง ตุ๊กแกขนตา กับ ตุ๊กแกชาฮัว (ตุ๊กแกสองตัวนี้นั้นจริงๆ
อยู่ต่างสกุลกันแต่กลับผสมกันได้)🧐
-ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน (แต่เจ้านี้สามารถพบเจอในธรรมชาติได้)
-อาหารหลักๆนั้นก็จะเป็นกินอาหารผงชงน้ำ (Pangea/Repashy)
2. Boaconda (Colombian boa x yellow anaconda)🐍
-เป็นลูกผสมระหว่าง อนาคอนด้า(เหลือง) กับ โบอา(โคลัมเบี้ยน)
-ถูกเพาะขึ้นครั้งแรกที่ฟาร์ม Crystal Palace Reptiles ที่ประเทศอังกฤษ
-อาหารหลักๆนั้นก็จะเป็นหนูแช่แข็ง
3. Wall python (Ball python x Woma python)🐍
-เป็นลูกผสมระหว่าง บอลไพธอน กับ วอลม่าไพธอน
-ถูกเพาะขึ้นครั้งแรกที่ฟาร์ม NERD ที่สหรัฐอเมริกา
-อาหารหลักๆนั้นก็จะเป็นหนูแช่แข็ง
4. Sulcata x leopard tortoises🐢
-เป็นลูกผสมระหว่าง เต่าซูคาต้า กับ เต่าเลียวพาร์ด/เต่าเสือดาว
-ถูกเพาะขึ้นครั้งแรกที่ฟาร์ม Reptile Odyssey
-อาหารหลักๆนั้นก็จะเป็นผักผลไม้ และ อาหารเม็ดเต่าบกยี่ห้อต่างๆ
5. Gabino (Gaboon viper x Rhino viper)🐍
-เป็นลูกผสมระหว่าง กาบูนไวเปอร์ กับ ไรโนไวเปอร์
-ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน (แต่เจ้านี้สามารถพบเห็นในธรรมชาติได้เช่น
กัน)
-อาหารหลักๆนั้นก็จะเป็นหนูแช่แข็ง

สัตว์ไฮบรีดนั้นถึงจะมีรูปร่างที่ดูสวยแปลกตาแต่ในบางครั้งลูกผสมอาจส่งผลเสียต่อสายพันธุ์พ่อแม่และธรรมชาติ หากลูกผสมประสบความสำเร็จอย่างมาก อาจมีลูกผสมจำนวนมากที่แข่งขันกับสายพันธุ์ต้นตำหรับเพื่อหาอาหารและพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ของสายพันธุ์พ่อแม่
เพราะฉะนั้นเราควรศึกษาถี่ถ้วนก่อนเพาะพันธุ์เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง

ปล. 1 สัตว์ที่อยู่บนลิสต์นี้นั้นส่วนมากนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จในการเพาะที่ไทย เพราะฉะนั้นเลยไม่สามารถหาซื้อได้ (ยกเว้นSulcata x leopard tortoisesที่น่าจะมีเพาะแล้วในไทย)
ปล. 2 หากใครอยากต้องการเลี้ยงสัตว์ไฮบรีดนั้นควรศึกษาหาข้อมูลกันดีก่อนนะครับเพราะไฮบรีดนั้นต้องการดูแลเป็นพิเศษมากๆเพื่อคุณภาพที่ดีของตัวสัตว์และความสุขของเลี้ยง😘

BCI กับ BCC คืออะไร ต่างกันอย่างไร🤔คอมม่อนโบอา และเรดเทลโบอา เป็นงูที่พบได้ในแถบอเมริกากลาง และใต้ โดยจะเป็นงูขนาดใหญ่ที...
30/03/2022

BCI กับ BCC คืออะไร ต่างกันอย่างไร🤔
คอมม่อนโบอา และเรดเทลโบอา เป็นงูที่พบได้ในแถบอเมริกากลาง และใต้ โดยจะเป็นงูขนาดใหญ่ที่ไม่มีพิษ ออกลูกเป็นตัว อศัยอยู่ตามป่าดิบชื้น (หรือบ้านคน😁) มีนิสัยชอบอยู่บนต้นไม้ โดยเฉพาะเรดเทลโบอาจะอยู่บนต้นไม้ซะส่วนใหญ่
BCI (Boa Constrictor Imperator) หรือคอมม่อนโบอา🐍
BCC (Boa Constrictor Constrictors) หรือเรดเทลโบอา🐍
โดยทั้ง2เป็นสัตว์สปีชีส์เดี๋ยวกัน แต่เป็นคนละสปีชีส์ย่อย
โดยจะต่างกันดังนี้:
1. เรดเทลหางจะแดงแบบเห็นได้ชัด ต่างจากคอมม่อนโบอา
2. เรดเทลโบอาตัวเต็มวัยจะตัวใหญ่กว่าคอมม่อนโบอา
3. เรดเทลจะอยู่ที่ โบลิเวีย บราซิล โคลอมเบีย เอกวาดอร์ กายอานาฝรั่งเศส กายอานา เปรู ซูรินาเม ตรินิแดดและโตเบโก และเวเนซุเอลา
ส่วนคอมม่อนโบอาจะอยู่ที่ เบลีซ โคลอมเบีย คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เม็กซิโก นิการากัว ปานามา เปรู และเวเนซุเอลา
4. ฤดูผสมพันธุ์ที่ต่างกัน
ปล.1 หากมีข้อมูลเพิ่มเติ่มทิ้งไว้ในคอมเมนต์ได้เลยนะคร้าบบบ พอดีช่วงนี้แอดติดสอบไม่ค่อยว่างหาข้อมูลทำเพจ หากข้อมูลขาดตกตรงไหนก็ช่วยบอกกันได้นะครับ
ปล.2 หากใครอยากรับโบอามาเลี้ยงก็ช่วยศึกษาหาข้อมูลกันดีๆนะครับ น้อนงูจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่อย่างมีความสุข🥰

ช่วงนี้อาจจะลงช้าๆหน่อยนะครับ😅
13/03/2022

ช่วงนี้อาจจะลงช้าๆหน่อยนะครับ😅

Feeder insect (แมลงเหยื่อ)🦗 แนะนำสำหรับมือใหม่1. Mealworm (หนอนนก) ไขมัน 15% โปรตีน 20%เหมาะสำหรับสัตว์จำพวก นก สัตว์เลื...
04/03/2022

Feeder insect (แมลงเหยื่อ)🦗 แนะนำสำหรับมือใหม่

1. Mealworm (หนอนนก)
ไขมัน 15% โปรตีน 20%
เหมาะสำหรับสัตว์จำพวก นก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก-กลาง รวมถึงสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ (จริงๆคนก็กินได้นะ😁)
ข้อเสียคือ ย่อยยากเพราะมีปริมานไคทินสูง
2. Superworm (หนอนยักษ์)
ไขมัน 17.7% โปรตีน 19.7%
ไม่เหมาะกับการให้เป็นประจำ เพราะมีปริมานไขมัน และไคตินที่สูง จะเหมาะกับการให้เป็นเหมือนของว่างมากกว่า
3. Cricket (จิ้งหรีดขาว/สะดิ้ง)
ไขมัน 10.3% โปรตีน 58%-65%
เหมาะกับสัตว์ทุกชนิดที่กินแมลง (ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะกินสะดิ้งได้) เช่น ตุ๊กแกขนตา การ์กอยล์
ข้อเสียคือ ร้องเสียงดังน่ารำคาญ (หรือจะมองว่าเพราะก็แล้วแต่🤔)
4. Dubia Roach (แมลงสาปดูเบีย)
ไขมัน 7.2% โปรตีน 23.4%
เพาะง่าย เหมาะกับสัตว์ทุกชนิดที่กินแมลง (ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะกินแมลงสาปดูเบียได้) เช่น เบี๊ยดดราก้อน บูลทั้งค์
ข้อเสียแพง และก็ดูเบียจะโตช้ากว่าแมลงอื่นๆที่ผ่านมา
5. Wax Worm (หนอนแว๊กซ์)
ไขมัน 57.35% โปรตีน 29.56%
เหมาะกับการขุนสัตว์ เพิ่มน้ำหนัก ไม่เหมาะกับการให้เป็นประจำเพราะจะทำให้สัตว์เป็นโรคอ้วน
ใช้ได้กับสัตว์ส่วนมากที่กินแมลง
ข้อเสียคือ ไขมันสูงมากๆ

ปล.1 จริงๆมีแมลงเหยื่ออีกเยอะ แต่ที่ผมแนะนำสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ และต้องการรู้ว่าควรจะให้แมลงตัวไหน ยังไงถึงจะถูกต้อง แต่จริงๆก่อนจะเลี้ยงตัวอะไรก็ควรจะรู้ว่าสัตว์ของเราจะต้องกินอะไรอยู่แล้วนะครับ 😎

ปล.2 หากใครมีอะไรจะเพิ่งเติมก็ทิ้งไว้ในคอมเมนต์ได้เลยนะคร้าบบบ🥰

👉Underrated Reptile 004 Bull snake/ Gopher snake (งูกระทิง)🐍ชื่อวิทยาศาสตร์: Pituophis catenifer sayiมาจาก ทวีปอเมริกาเห...
24/02/2022

👉Underrated Reptile 004 Bull snake/ Gopher snake (งูกระทิง)🐍
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pituophis catenifer sayi
มาจาก ทวีปอเมริกาเหนือ 🇺🇸

วิธีเลี้ยง (เลี้ยงง่ายแท้)
อาหาร: อาหารหลักๆของเจ้าพวกนี้นั้นก็จะเป็น หนูแช่แข็ง และ ลูกเจี๊ยบแช่แข็ง ตารางการกินนั้นก็จะคล้ายพวกบอลไพธอน งูคอร์น และงูชนิดอื่น โดยงูอายุน้อยจะกินอาทิยต์ละครั้งโดยตรารางจะค่อยๆยืดตามอายุของงู
ตู้เลี้ยง: ใช้ตู้ขนาด 100x45x45 ซม. หรือใหญ่กว่านี้
รองพื้น: เจ้าพวกนี้นั้นมักอาศัยอยู่พื้นที่ที่แห้งเลยไม่ต้องการความชื้นมากรองพื้นที่แนะนำเลยก็จะเป็น กระดาษหนังสือพิม, กระดาษทิชชู และ ขี้เลื่อยงูยี่ห้อต่าง
อุปกรณ์เสริม: ถ่วยน้ำ ไฮด์บอกซ์ และ ฟอเซป

Bull snakeเป็นหนึ่งในงูที่แอดมินคิดว่ายังไม่ค่อยได้รับความนิยมากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะค่าตัวที่ค่อนข้างสูงและมอร์ฟที่ยังไม่ค่อยเยอะมากเมื่อเถียบกับบอลไพธอน และ งูคอร์น ถือว่า underrated มากๆอีกตัวในประเทศไทย มอร์ฟส่วนมากของเจ้าBull snake นั้นก็เป็นยีนด้อยเลยทำให้การเพาะสีต่างๆนั้นเป็นไปได้ยากมากๆเลยยังไม่ค่อยมีคนเพาะกันในไทยมีแต่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ถ้าหากท่านใดที่กำลังต้องการงูที่หน้าตาดุๆ สีสันสวยงาม ตัวใหญ่ กินดี กินเก่ง และนิสัยดี แอดมินแนะนำBull snake เลยครับ

ปล 1. สัตว์ทุกตัวหากสนใจต้องศึกษาเพิ่งเติมก่อนรับมาเลี้ยง เพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์
ปล 2.โพสต์นี้ถูกเขียนขึ้นเพราะแอดมินพึ่งดูคลิปของช่อง Snake discovery มาเลยอยากบอกต่อความเจ๋งแจ๋วของBull snake 😁

Captive bred (ลูกเพาะ), Captive hatch/born (เกิดในที่เพาะเลี้ยง), Wild caught (ลูกป่า) คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? และอันไห...
14/02/2022

Captive bred (ลูกเพาะ), Captive hatch/born (เกิดในที่เพาะเลี้ยง), Wild caught (ลูกป่า) คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? และอันไหนดีที่สุด?🤔

Captive bred (CBB) หรือลูกเพาะคือ สัตว์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ในที่เพาะเลี้ยง และเกิดมาในที่เพาะเลี้ยง โดยมีมนุษย์เป็นผู้ดูแล
Captive hatch/born (CB) หรือเกิดในที่เพาะเลี้ยงคือ สัตว์ที่เกิดในที่เพาะเลี้ยง โดยที่มนุษย์นำตัวแม่ที่กำลังท้องอยู่มาจากป่า หรือนำไข่จากธรรมชาติมาฟักในที่เพาะเลี้ยง
Wild caught (WC) หรือลูกป่าคือ สัตว์ที่ถูกนำออกมาจากที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติโดยมนุษย์

โดยสัตว์เลี้ยงของเราทุกตัวจะต้องถูกจัดอยู่กลุ่มเหล่านี้ อันใดอันหนึ่ง

และอันไหนถึงดีที่สุด?
มาถึงจุดนี้แล้ว ผมขอบอกเลยว่า Captive bred ดีที่สุด👍
เนื่องจาก:
1. ลดความเสี่ยงเรื่องโรคต่างๆ
2. ปลอดภัยจากพยาธิ
3. กินง่ายกว่า
4. ตัวสัตว์จะมีความเครียดน้อยกว่า
5. เชื่องกว่า
6. ไม่ลดประชากรสัตว์ในธรรมชาติ (ช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติ)

เพราะการนำสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติมาเลี้ยงนั้นทั้งเสี่ยงต่อโรคต่างๆรวมถึงพยาธิ และยังทำให้สัตว์เครียดจากการถูกขนส่งข้ามประเทศ อดน้ำอดอาหาร และถูกจับใส่กล้องเล็กที่สุดจะแออัด แล้วเมื่อมาถึงสถานที่เพาะเลี้ยง สัตว์เหล่านี้ก็อาจจะไม่สามารถปรับตัวเพื่อกินอาหารที่เราจะให้ในที่เพาะเลี้ยงเช่น งูฮอกโนสตามธรรมชาติจะกินคางคงอเมริกัน ซึ่งถ้าหากเรานำฮอกโนสป่ามาให้หนูแช่แข็ง แถบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะไม่กิน เพราะไม่คุ้นกับอาหาร และสำคัญที่สุดการนำสัตว์ตามธรรมชาติออกมาจากที่อยู่ของมัน ถือเป็นการทำลายห่วงโซ่อาหารของสัตว์ในบริเวณนั้น แถบยังเพิ่งความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ให้กับสปีชีส์นั้นอีกด้วย😉

ปล. หากสัตว์ชนิดนั้นไม่มีลูกเพาะ คำแนะนำของผมคือ อย่าซื้อนอกจากคุณมั่นใจว่าคุณสามารถเพาะสัตว์ชนิดน้ำได้จริงๆ เพราะการซื้อสัตว์ที่ถูกจับออกมาจากป่าไม่ใช่แค่ลดประชากรของมันตามธรรมชาติ แต่ยังนำชีวิตของสัตว์ที่เรามีข้อมูลน้อยมาฝากชีวิตไว้กับเรา เพราะสัตว์บางตัวมนุษย์เราก็ยังมิอาจหาทางเลี้ยงมันในที่เพาะเลี้ยงให้ประสบความสำเร็จได้ เช่น Dragon snake🐍 ที่เลี้ยงยังไงไม่กี่เดือนก็ตาย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://youtu.be/vJ0knVKPH_w https://youtu.be/sE7Q5AoCYms

5 tiny monitors for monitor lover with limited space ( ห้ามอนิเตอร์จิ๋วสำหรับคนรักมอนิเตอร์ที่มีพื้นที่เลี้ยงจำกัด)🦎5 ตั...
04/02/2022

5 tiny monitors for monitor lover with limited space ( ห้ามอนิเตอร์จิ๋วสำหรับคนรักมอนิเตอร์ที่มีพื้นที่เลี้ยงจำกัด)🦎

5 ตัวที่อยู่ในลิสต์นี้นั้นล้วนแล้วเป็นมอนิเตอร์ที่มีขนาดเล็กและใช่พื้นที่เลี้ยงไม่มากนักจึงน่าจะตอบโจทย์คนรักมอนิเตอร์แต่มีพื้นที่เลี้ยงน้อย

1. Ackie monitor/Spiny-tailed monitor (Varanus acanthurus)
-ขนาดตัว: ขนาดตัวของเจ้าแอ็คกี้นั้นมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 60-76ซม.
-ขนาดที่เลี้ยง: ตู้เลี้ยงควรมีขนาด 120x60x60 ซม. หรือว่า
ใหญ่กว่านั้น
-อาหาร: อาหารหลักๆแมลงเหยื่อยชนิดต่างๆ และหนูเป็นครั้งคราว
-นิสัย: แอ็คกี้นั้นมีนิสัยขี้อายขี้สงสัยและก็ชอบสำรวจไม่ค่อยก้าวร้าว

2. Timor monitor (Varanus timorensis)
-ขนาดตัว: ขนาดตัวของเจ้าติมอร์นั้นมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 35-60 ซม.
-ขนาดที่เลี้ยง: ตู้เลี้ยงควรมีขนาด 150x120x120 ซม. หรือใหญ่กว่านั้น
-อาหาร: อาหารหลักๆแมลงเหยื่อยชนิดต่างๆ และหนูเป็นครั้งคราว
-นิสัย: ขี้อายชอบแอบและรักการปีป่ายมาก

3. Peacock monitor (Varanus auffenbergi)
-ขนาดตัว: เจ้าพีค็อกนั้นมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 60 ซม.
-ขนาดที่เลี้ยง: ตู้เลี้ยงควรมีขนาด 150x120x120 ซม. หรือใหญ
กว่านั้น
-อาหาร: อาหารหลักๆแมลงเหยื่อยชนิดต่างๆ และหนูเป็นครั้งคราว
-นิสัย: ขี้อายมากๆชอบแอบและรักการปีป่าย

4. แก๊ง Tree monitor (หลากสี)
-ขนาดตัว: ขนาดตัวของแก๊งมอนิเตอร์ต้นไม้นั้นมีความยาวประมาณ 91
ซม.
-ขนาดที่เลี้ยง: ตู้เลี้ยงควรมีขนาด 121x60x182 ซม. หรือใหญ่กว่านั้น
-อาหาร: อาหารหลักๆแมลงเหยื่อยชนิดต่างๆ และหนูเป็นครั้งคราว
-นิสัย: ขี้อายชอบปีนป่ายมากๆ(เวลากินดุดันมากๆ)

5. Kimberley rock monitor (Varanus glauerti) *หายากมากๆ
-ขนาดตัว: ขนาดตัวของเจ้าคิมเบอร์รี่นั้นมีความยาวประมาณ 80 ซม.
-ขนาดที่เลี้ยง: ตู้เลี้ยงควรมีขนาด 190 x 100 x 105 ซม. หรือใหญ่กว่านั้น
-อาหาร: อาหารหลักๆแมลงเหยื่อยชนิดต่างๆ และหนูเป็นครั้งคราว
-นิสัย: โดยรวมนิสัยจะคล้ายๆแอ็ตกี้แต่ออกไปทางขี้อายมากกว่า

ปล1.มอนิเตอร์ทุกตัวบนลิสต์นี้นั้นล้วนมีค่าตัวที่สูง(ยังไม่รวมกับพวกค่าอุปกรณ์)
ปล 2. สัตว์ทุกตัวบนลิสต์นี้นั้นควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อคุณภาพที่ดีของตัวสัตว์และความสุขของเลี้ยง😘

รู้เถ้อะ....🤔รู้หรือไม่ว่า “เคแมน” นั้นมีถึง 6 สปีชีส์ด้วยกัน!!!🐊เคแมนเป็นสัตว์ในฝั่ง New world (ทวีปอเมริกา)ที่จัดอยู่ใ...
29/01/2022

รู้เถ้อะ....🤔
รู้หรือไม่ว่า “เคแมน” นั้นมีถึง 6 สปีชีส์ด้วยกัน!!!🐊

เคแมนเป็นสัตว์ในฝั่ง New world (ทวีปอเมริกา)ที่จัดอยู่ในอันดับ Crocodilia และจะแยกออกมาอยู่ในวงศ์ Alligatoridae ซึ่งคือวงศ์ของ แอลลิเกเตอร์(จระเข้ตีนเป็ด) และจะแยกออกมาเป็นวงศ์ย่อยของตัวเองชื่อ Caimaninae

เคแมนทั้ง 6 สปีชีส์ ได้แก่
1. Spectacled caiman (Caiman crocodilus)
2. Yacare caiman (Caiman yacare)
3. Broad-snouted caiman (Caiman latirostris)
4. Cuvier’s dwarf caiman (Paleosuchus palpebrosus) *จระเข้ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
5. Smooth-fronted caiman (Paleosuchus trigonatus)
6. Black caiman (Melanosuchus niger) *เคแมนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

เคแมนนั้นเป็นหนึ่งในสัตว์ที่แอดมินชอบที่สุด แต่ถึงจะยั่งงั้นผมก็จะขอยืนกรานว่า สัตว์ในตระกูลจระเข้ทุกตัวไม่เหมาะสำหรับหลายๆคนที่จะเลี้ยง แต่หากอยากได้จริงๆ และมั่นใจว่าเรารู้ว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร ถ้าให้ผมแนะนำ ผมเชียร์ Cuvier’s dwarf caiman เพราะเป็นสายพัธุ์จระเข้ที่ตัวเล็กที่สุดในโลก และเนื่องจากสัตว์ตระกูลจระเข้ค่อนข้างฉลาดฝึกได้แต่ฝึกยาก เพราะงั้นถ้าไม่มั่นใจ ผมว่าอย่าเลี้ยงเลยยย อันตรายยย~😱

จริงๆแล้วเคแมนเป็นกลุ่มของจระเข้ที่มีโอกาศโจมตีคนน้อย ถ้าเทียบกับจระเข้กลุ่มอื่น และแทบจะไม่มองคนเป็นอาหาร ถึงแม้จะเป็น Black Caiman ที่โตเต็มวัยก็ตาม ต่างจากจระเข้บ้างชนิด เช่น จระเข้มักเกอร์ หรือจระเข้แม่น้ำไนล์ ที่จะมีข่าวการโจมตีคนอยู่บ่อยๆ

ปล.1 หากคิดอยากได้จระเข้ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตาม ควรตรวจสอบความพร้อมของตัวเองอย่างดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน หรือสถานที่ และที่สำคัญคือ ศึกษาให้แน่วแน่ก่อนทั้ง วิธีการฝึกและดูแล ก่อนตัดสินใจรับมาเลี้ยงนะคร้าบบบ🥰

👉Underrated Reptile 003 Kenyan sand boa (เคนย่า แซนโบอา)🐍ชื่อวิทยาศาสตร์: Gongylophis colubrinusมาจาก ทวีปแอฟริกาทางตอนเ...
22/01/2022

👉Underrated Reptile 003 Kenyan sand boa (เคนย่า แซนโบอา)🐍
ชื่อวิทยาศาสตร์: Gongylophis colubrinus
มาจาก ทวีปแอฟริกาทางตอนเหนือไล่ไปจนถึงทางตะวันออก 🇰🇪

วิธีเลี้ยง (เลี้ยงง่ายมากๆ)
อาหาร: อาหารหลักๆของเจ้าพวกนี้นั้นก็จะเป็น หนูแช่แข็ง และ ลูกเจี๊ยบแช่แข็ง สำหรับตารางการกินนั้นก็จะเหมือนงูบอล กับ คอร์น ครับหนู1ตัวต่ออาทิตย์
ตู้เลี้ยง: ใช้ตู้ขนาด 25x50x30 ซม. เป็นอย่างต่ำ
รองพื้น: เจ้าพวกนี้นั้นชอบขุดมากกกรองพื้นที่แนะนำเลยก็จะมี ทราย, ขุยมะพร้าว และ ขี้เลื้อยงู
อุปกรณ์เสริม: ถ่วยน้ำ และ ฟอเซป

แซนโบอานั้นถือว่าเป็นงูที่เลี้ยงง่ายมากอีกชนิดนึงแต่กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งก็อาจจะมากจากกระแสและสีสันในไทยที่ยังมีค่อนข้างน้อยเมื่อเถียบกับงูคอร์น และ บอล ไพธอน แต่ส่วนตัวแอดมินคิดว่าเจ้าแซนโบอานั้นถือป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ Underrated อีกตัวนึง เพราะหากถ้าเถียบค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ที่จำเป็นแล้วละก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าถูกกว่า แถมน้องยังมีหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู(อันที่จริงหน้าตามันออกไปทางตลกสะมากกว่า555)

ปล 1. สัตว์ทุกตัวหากสนใจต้องศึกษาเพิ่งเติมก่อนรับมาเลี้ยง เพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์

ปล 2.โพสต์นี้ถูกเขียนขึ้นเพราะต้องการปลุกกระแสให้คนหันมาเลี้ยงแซนโบอาให้มากขึ้น😉

👉Underrated Reptile 002 Leachianus Gecko (ต๊กแก ริชชี่)🦎ชื่อวิทยาศาสตร์: Rhacodactylus leachianusมาจาก New Caledonia 🇳🇨เ...
17/01/2022

👉Underrated Reptile 002 Leachianus Gecko (ต๊กแก ริชชี่)🦎
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rhacodactylus leachianus
มาจาก New Caledonia 🇳🇨
เป็นสปีชีส์ของตุ๊กแกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยจะแบ่งออกมาเป็น2กลุ่มใหญ่คือ mainland กับ offshore (ตามเกาะต่างๆใน New Caledonia) ซึ่งจะต่างกันตรงที่ mainland จะมีขนาดใหญ่กว่า offshore แต่ offshore จะมีลวดลายและสีที่สวยกว่า mainland 🏝

วิธีเลี้ยง (เหมือนๆกับ crested gecko เลยย)
อาหาร: กินอาหารผง Pangea/Repashy ชงกับน้ำ (เหมือนเครสเดะ) แต่ว่าพวกนี้จะกินแมลง และก็พวกหนูแดงเยอะกว่า crested (หนูแดงต้องให้เฉพาะตัวโตแล้วเท่านั้น) ริชชี่จะกินอาหาร 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
ตู้เลี้ยง: ใช้ตู้ประมาณ 18x18x24 นิ้วอย่างต่ำ เพราะตุ๊กแกพวกนี้ตัวใหญ่มาก (ใส่ได้แค่ตัวเดียวต่อตู้นะครับ พวกนี้กัดกันเอง)
รองพื้น: ต้องเป็นรองพื้นที่เก็บความชื้นได้เช่น ขุยมะพร้าว หรือพวกดินที่ปลอดภัยต่อสัตว์
อุปกรณ์เสริม: ต้องมีพืชปลอม, ที่ซ่อน, ถ่วยน้ำ เพราะพวกนี้เมื่อตัวใหญ่จะดื่มน้ำเยอะมาก จนน้ำที่เราพ่นเช้า-เย็นไม่พอ, ถ่วยอาหาร
การดูแล: เหมือนเครสเลยครับ ก็พยายามคุมอุณหภูมิ กับความชื้นไว้ พ่นน้ำเช้า-เย็น (ความชื้น 60%-80%)

ปล.1 หากใครคิดจะเพาะตุ๊กแก ริชชี่ ต้องคิดดีๆนะครับ เพราะพวกนี้จะกัดกันเป็นเรื่องปกติ โดยก่อนผสมตัวเมีย กับตัวผู้จะกัดกัน และถ้าหากตัวผู้แพ้ตัวเมียจะไม่ทำการผสมกับตัวผู้

ปล.2 หากใครสนใจเลี้ยงตุ๊กแกริชชี่ ผมแนะนำอย่างมาก แต่อาจจะต้องคอยดูออุณหภูมิอย่าให้สูงเกินไป (อย่าให้เกิน 30 เยอะ) และก็ก่อนจะไปรับมาดูแล ก็อย่าลืมทำการหาข้อมูลมาให้ดีก่อนนะครับ อย่าไปรับมาโดยที่ไม่มีข้อมูลอย่างละเอียดนะคร้าบบบ😉

รู้เถอะ🤔รู้หรือไม่ว่างู “ฮอกโนส” นั้นมีสปีชีส์ทั้งหมด 5 สปีชีส์โดยจะมาจาก ทวีป อเมริกาเหนือ 3 สปีชีส์,อเมริกาใต้ 1 สปีชี...
12/01/2022

รู้เถอะ🤔
รู้หรือไม่ว่างู “ฮอกโนส” นั้นมีสปีชีส์ทั้งหมด 5 สปีชีส์โดยจะมาจาก ทวีป อเมริกาเหนือ 3 สปีชีส์,อเมริกาใต้ 1 สปีชีส์ และ มาดากาสก้า 1 สปีชีส์

สายพันธุ์จากอเมริกาเหนือได้แก่:

1. Western Hognose (Heterodon Nasicus) แบ่งออกได้อีก 3 สปีชีส์ย่อยนั้นคือ Plain, Dusty และ Mexican
2. Eastern Hognose (Heterodon Platyrhinos)
3. Southern Hognose (Heterodon Simus)

สายพันธุ์จากอเมริกาใต้ได้แก่:

4. Tricolor hognose (Xenodon pulcher)*สีสวยมากถือว่าแรร์ในหมู่คนเล่นฮอกโนส(เป็นที่นิยมนำมาเลี้ยงที่สุดในหมู่สกุล Xenodon)

และสายพันธุ์สุดท้ายที่มาจากมาดากัสก้า

5. Madagascan Giant Hognose (Leioheterodon madagascariensis)
* เป็นฮอกโนสที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดและหายากมากๆ

ในตลาดสัตว์เลี้ยงส่วนมากนั้นเรานั้นจะสามารถพบเห็นได้แค่ Western Hognose จะไม่ค่อยหรือเคยเห็นญาติพี่น้องของเจ้าพวกนี้สักเท่าไหร่ เลยอาจจะสร้างความสับสนให้กับคนที่ไม่รู้ได้ เวลาเห็นวีดีโองูแกล้งตายบนอิตเตอร์เน็ต วันนี้ผมก็เลยอยากมาแนะนำให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้ทำความรู้จักกับญาติพี่น้องของเจ้าฮอกโนสให้มากขึ้นและหวังว่าโพสต์นี้จะช่วยให้เกิดความสับสนน้อยลงนะครับ

ปล 1.โพสต์นี้ถูกเขียนขึ้นเพราะแอดมินไปเห็นคนในกลุ่มงูไทยเรียกน้องๆฮอกโนสที่กำลังแกล้งตายว่างูเห่าพิการเลยอยากทำโพสต์ให้ความรู้สัหน่อย

ปล 2. สัตว์ทุกตัวที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นก่อนจะเลี้ยงควรศึกษาหาข้อมูลก่อนนะครับ เพื่อชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีของน้องๆ😉

5 uncommon beginner pet reptiles (ห้าสัตว์เลื้อยคลานแนะนำสำหรับมือใหม่ ที่ไม่ธรรมดา)😉5 ตัวที่อยู่ในลิสต์นะต้อง เลี้ยงง่า...
09/01/2022

5 uncommon beginner pet reptiles (ห้าสัตว์เลื้อยคลานแนะนำสำหรับมือใหม่ ที่ไม่ธรรมดา)😉
5 ตัวที่อยู่ในลิสต์นะต้อง เลี้ยงง่าย สนุก ไม่แพงมาก(ทั้งค่าตัวและค่าอุปกรณ์ต่างๆ) และก็ไม่ธรรมดา

1. เต่ารัสเซีย (Russian Tortoise)🐢
ข้อดี
- ขนาดยาวสุดได้แค่ 25เซนติเมตร (เลี้ยงในห้องได้สบายๆ)
- กินง่าย กินผักปกติที่หาซื้อได้ตามตลาด หรืออาหารเต่าเม็ดก็ได้นะครับ
ข้อเสีย
- ต้องการ UVB

2. ตุ๊กแกขนตา (Crested gecko) กับ ตุ๊กแกกากอย (Gargoyle gecko)🦎
ข้อดี
- ขนาดตัวเล็ก ใช้พื้นที่น้อย
- กินง่ายมากกกก กินอาหารผงชงน้ำ (Pangea/Repashy)
- ไม่ต้องการ UV ทั้งเอ และบี (แต่มี UVB ก็ดีนะครับ)
ข้อเสีย
- ทิ้งหางได้ และถ้าหากเป็น crested gecko มันจะไม่งอกใหม่ แต่หากเป็น gargoyle จะงอกได้
- ทนอากาศร้อนจัดไม่ได้ (เกิน30องศามากไม่ได้)
- อยู่ชื้น (ต้องคอยพ่นน้ำให้มัน)

3. เฮ้าส์สเน็ก (House snake)🐍
ข้อดี
- ตัวเล็ก ใช้ที่น้อย
- หน้าดุ แต่นิสัยดี
ข้อเสีย
- มีมอฟให้เลือกน้อย (แต่สวยนะครับ)
- ตอนเด็กเปรียวนะครับ ค่อนข้างไว

4. ตุ๊กแกถ้ำจีน (Chinese cave gecko)🦎
- ตัวเล็ก ใช้ที่เลี้ยงน้อย
- หน้าเท่ ลายสวย (หรือน่ากลัว ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ)
ข้อเสีย
- ควรใช้ UVB กับ วิตามิน D3
- อยู่ชื้นประมาณ 70% - 80%
- ทนอากาศร้อนมากไม่ได้ (เช่นเดียวกับ crested และ gargoyle)

5. เคนย่า แซนโบอา(Kenyan sand boa)🐍
ข้อดี
- ตัวไม่ใหญ่ ใช้ที่ไม่เยอะ
- หน้าตาน่ารัก บวกตลก
- กินง่าย ไม่เรื่องมาก (กินหนูนะครับ)
ข้อเสีย
- ขี้อาย ชอบหลบอยู่ในทราย (ก็อาจจะดูไม่ค่อยสนุกเท่าไร)

ปล.1 สัตว์ทุกตัวหากสนใจต้องศึกษาเพิ่งเติมก่อนรับมาเลี้ยงเด้อออ เพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์ และเพื่อที่จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดๆต่อตนเองและผู้อื่น นะครับทุกคน😘

ปล.2 หายต้องการให้เจาะรายระเอียดของสัตว์เหล่านี้ก็บอกได้นะคร้าบบ เพราะตอนนี้ ข้อมูลแบบละเอียดมีแค่ Crested ตัวเดียว ก็ถ้าใครอยากรู้เรื่อง Crested gecko เพิ่มก็ไปหาอ่านได้ในเพจของเรานะค้าบบ

รู้เถอะ🤔รู้หรือไม่ว่าเจ้าสัตว์ในภาพนั้นไม่ใช่ “งู ” หากแต่เป็น “ กิ้งก่า ”!?ชื่อของเจ้าพวกนี้ก็คือ กิ้งก่าไร้ขา หรือ จิ้...
06/01/2022

รู้เถอะ🤔
รู้หรือไม่ว่าเจ้าสัตว์ในภาพนั้นไม่ใช่ “งู ” หากแต่เป็น “ กิ้งก่า ”!?

ชื่อของเจ้าพวกนี้ก็คือ กิ้งก่าไร้ขา หรือ จิ้งเหลนไร้ขา และด้วยเหตุผลอะไรกันที่ทำให้เจ้าพวกนี้แต่ต่างจากงู?

ข้อแตกต่าง

กิ้งกาไร้ขา:
1. กิ้งก่าไร้ขานั้นมีเปลือกตา(เวลาเข้าคราบตาจะไม่ขุ่น)
2. หางของมันนั้นสามารถูกสลัดทิ้งได้
3. กิ้งก่าไร้ขานั้น “ ไม่ได้ ” ถูกจัดอันดับย่อยให้อยู่ใน “ Serpentes ”
4. กิ้งก่าไร้ขานั้นมีรูหูที่สามารถมองเห็นได้
5. พบกระจายพันธุ์ “ส่วนมาก” ในทวีปโลกเก่า หรือ Old world เช่น ทวีป
เอเชีย,ออสเตรเลีย และ ยุโรป (จริงๆทวีปโลกใหม่ก็มีแหละแต่ไม่นิยมนำ
เลี้ยงกัน)

งู:
1. งูไม่มีเปลือกตา(เวลาเข้าคราบตาจะขุ่น)
2. งูไม่สามารถสลัดหางได้(ขาดแล้วขาดเลย)
3. งูถูกให้อยู่ในอันดับย่อย “ Serpentes ” หรือ สัตว์จำพวกงู
4. หูของงูนั้นไม่สามารถมองเห็นได้เพราะอยู่ใต้ผิวหนัง
5. พบกระพันธุ์อยู่ทั้งทวีปเก่า และ ใหม่

หากเรามองลักษณะภายนอกโดยรวมแล้วละก็ เจ้าพวกนี้นั้นอาจจะมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆจุดและอาจจะทำให้คนที่ไม่รู้นั้นเข้าใจผิดได้ แต่ถ้าหากเราศึกษาและลองสังเก็ตดูดีๆ เราก็จะสามารถแยกความแตกต่างพวกมันออกจากกันได้อย่างไม่ยากเย็นครับ😉

อีกหนึ่งอย่างที่สนใจมากๆเลยก็คือในประเทศไทยของเรานั้น สามารถพบเจอเจ้าพวกกิ้งก่าไร้ขาได้อีกด้วย โดยสายพันธุ์ที่สามารถพบเจอได้ในไทยได้ในไทยนั้นมีชื่อเรียกว่า “ จิ้งเหลนด้วง ” หรือ “แมงปากจอบ ” จัดอยู่วงศ์ “ Scincidae ” หรือจิ้งเหลน แต่การที่จะพบเจอพวกเจ้านี้นั้นเป็นเรื่องยากมาก😲

ปล.โพสตนี้ถูกเขียนขึ้นเพราะแอดมินยังเห็นบ้างคนที่ยังสับสนและเข้าใจผิดอยู่ว่า “สัตว์ทุกตัวที่ไม่มีขานั้นเป็นงู!!!”

เตกูไม่ใช่มอนิเตอร์นะครับ BTW Happy New Year  นะคร้าบบ😘
02/01/2022

เตกูไม่ใช่มอนิเตอร์นะครับ

BTW Happy New Year นะคร้าบบ😘

รู้เถอะ🤔รู้หรือไม่ว่า “ซาวันน่ามอนิเตอร์” ควรกินแมลงเป็นหลักทำไมถึงเป็นเช่นนั้น     *หากมีข้อคัดค้านหรือเห็นต่างยังไงทิ้...
30/12/2021

รู้เถอะ🤔
รู้หรือไม่ว่า “ซาวันน่ามอนิเตอร์” ควรกินแมลงเป็นหลัก
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
*หากมีข้อคัดค้านหรือเห็นต่างยังไงทิ้งไว้คอมเม้นด้านล่างเลยนะครับผม

1.ตามธรรมชาตินั้นเจ้าพวกนี้กินแมลงเป็นหลัก:

นักวิจัยได้พบว่าในกระเพาะของซาวันน่านั้นมีซากแมลงจำพวก จิ้งหรีด ตั๊กแตน และ หนอน เป็นจำนวนมาก พวกเขาเลยคาดการณ์ว่าซาววันน่าเป็นสัตว์กินเนื้อประเภทกินแมลงเป็นหลัก หรือ “Insectivore” นั้นเอง

2.ไขมันในเนื่อสัตว์นั้นย่อยยาก*แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กินเลย:

อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่าซาวันน่ามอนิเตอร์นั้นกินแมลงเป็นหลักแต่ในธรรมชาตินั้นหากเจ้าพวกนี้พบหรือเจอกับซากหนู หรือ ไข่นก *มันก็กิน หากแต่ในธรรมชาตินั้นเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ กลับกันในที่เลี้ยงนั้นหากกินเนื้อไก่และหนูเป็นจำนวนมากไปอาจจะทำให้เกิด “โรคไขมันพอกตับ” หรือ “Fatty liver disease” ได้

3.ออกกำลังกายไม่มากพอ:

จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น “โรคไขมันพอกตับ” หรือ “Fatty liver disease” นั้นยังมีต้นต่อมาจากการออกกำลังกายไม่มากพอจะส่งผลให้ร่างกายนำสารอาหารส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ไปเก็บเป็นพลังงานสำรองในรูปแบบไขมัน เพราะฉนั้นควรมีเนื้อที่ให้เขาขุดหรือเดินเยอะๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคอ้วนนั้นเอง

ส่วนตัวผมก็เข้าใจแหละว่าเวลาสัตว์เลี้ยงเรามันตัวกลมๆอ้วนๆแล้วมันดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า แต่ถ้าหากเรามองในมุมกลับกันถ้ามีมนุยษ์คนนึงที่ทานแต่อาหารจั้งฟูดที่เติมไปด้วยไขมันและยังย้อยยากทุกๆสัปดาห์ถามว่าอาหารที่ทานเข้าไปเหล่านั้นจะส่งผลดีหรือไม่ต่อร่างกาย สรุปแล้วก็คือซาวันน่ามอนนิเตอร์นั้นควรกินแมลงเป็นหลักและเนื้อสัตว์เป็นเหมือนขนมให้น้องแทน
แมลง 90% 🦗
เนื้อสัตว์อื่นๆ 10% 🥩

ปล.โพสตนี้ถูกเขียนขึ้นเพราะความหวังดีที่อยากให้หนึ่งในมอนิเตอร์ชนิดโปรดของแอดมินอย่างเจ้าซาวันน่ามอนิเตอร์นั้นมีชีวิตที่ยืนยาวอยู่กันไปนานๆ และโพสตนี้ไม่ประสงค์จะโจมตีใครทั้งสิ้นเพียงแค่หวังว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะลองอ่านและรับฟังกันดูนะครับ😉

อ่างอิง:
https://youtu.be/ex6U9Q1H9WQ
https://youtu.be/4zqj4h8kx2M
https://www.thesprucepets.com/savannah-monitors-1239214
https://lafeber.com/vet/wp-content/uploads/Savannah-Monitor-client-handout.pdf
*หลักฐานชิ้นสำคัญ ❗️❗️❗️
https://savmon.org/index.php/2018/10/09/obese-savannah-monitor-week-day-6-cause-of-obesity-in-captive-savannah-monitor-lizards/

รู้เถอะ🤔รู้หรือไม่ว่า “บลูทั้งค์” นั้นมีสปีชีส์ย่อยทั้งหมด13สปีชีส์ โดยจะมาจากอินโด6สปีชีส์ และออสเตรเลีย7สปีชีส์สายพันธ...
28/12/2021

รู้เถอะ🤔
รู้หรือไม่ว่า “บลูทั้งค์” นั้นมีสปีชีส์ย่อยทั้งหมด13สปีชีส์ โดยจะมาจากอินโด6สปีชีส์ และออสเตรเลีย7สปีชีส์

สายพันธุ์อินโดได้แก่:

1. Classic Indonesian (Tiliqua gigas gigas)
2. Helmahera (Tiliqua gigas gigas helmahera)
3. Irian Jaya (Tiliqua sp.)
4. Kei Island (Tiliqua gigas keyensis)
5. Merauke (Tiliqua gigas evanescens)
6. Tanimbar (Tiliqua scincoides chimaera)

และสายพันธุ์ออสเตรเลียได้แก่:

1. Blotched (Tiliqua nigrolutea)
2. Centralian (Tiliqua multifasciata)
3. Eastern (Tiliqua scincoides scincoides)
4. Northern (Tiliqua scincoides intermedia)
5. Pygmy (Tiliqua adelaidensis)
6. Shingleback/Bobtail (Tiliqua rugosa) *ตัวนี้เท่มากก แพงมากด้วย
7. Western (Tiliqua occipitalis)

เราควรจะรู้ว่าบูลทั้งค์ของเรานั้นเป็นสายพันธุ์อะไร เนื่องจากบูลทั้งค์แต่ละสายพันธุ์มีวิธีการเลี้ยงดูที่ต่างกัน เช่น สายพันธุ์อินโดส่วนมากจะใช้ความชื้นมากกว่าสายพันธุ์ของออสเตรเลีย

ปล.1 เพื่อใครไม่รู้นะครับว่า บลูทั้งค์กินทั้งพืชและสัตว์นะครับ ให้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ต้องให้ทั้ง 2 อย่างพอดี

ปล.2 หากใครมีคำถามก็สามารถทิ้งไว้ใต้คอมเมนต์ได้เลยนะคร้าบบ อ๋อแล้วก็.. ถ้าอยากให้เจาะเรื่องวิธีการดูแลของแต่ละสายพันธ์ก็บอกได้นะครับ เดี๋ยวทำให้😉

อ้างอิง: https://reptifiles.com/blue-tongue-skink-care/blue-tongue-skink-subspecies/

Address


Telephone

+66946780426

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Wanner's Reptile posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Wanner's Reptile:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Pet Store/pet Service?

Share