Zocial pet hospital โรงพยาบาลสัตว์โซเชียล

Zocial pet hospital โรงพยาบาลสัตว์โซเชียล เราอยากให้คนไทยมีโรงพยาบาลสัตว์ดีๆ

เพื่อยกระดับความปลอดภัยของเพื่อนและสัตว์เลี้ยงในชุมชนเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะทำ
05/08/2023

เพื่อยกระดับความปลอดภัยของเพื่อนและสัตว์เลี้ยงในชุมชน
เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะทำ

1 ในยา ที่ รพ. เราเลือกใช้จำนวนมากให้ผลการรักษาค่อนข้างพีงพอใจ และความสะดวกใช้สูงสุด แม้ว่าราคาแพงมาก แต่เพื่อคุณภาพชีวิ...
30/07/2023

1 ในยา ที่ รพ. เราเลือกใช้จำนวนมาก
ให้ผลการรักษาค่อนข้างพีงพอใจ และความสะดวกใช้สูงสุด แม้ว่าราคาแพงมาก
แต่เพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ผมไม่เคยเสียดาย

08/11/2022

🙀 รู้หรือไม่? น้องแมวเป็นสัตว์ที่เครียดง่าย และความเครียดที่เกิดขึ้นกับน้องนั้นก็น่ากลัวมากกว่าที่เราคิด
แล้วเจ้าของจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องแมวของเรากำลังเครียดอยู่!
⚠️ ความเครียดในน้องแมวอาจมีอาการไม่แน่ชัด แต่สามารถสังเกตเบื้องต้นได้ดังนี้
- ไม่กินอาหาร กินอาหารน้อย หรือมากกว่าปกติ
- ทำความสะอาดตัวเองน้อยลง หรือมากกว่าปกติ
- หลบซ่อน แยกตัวอยู่คนเดียว
- ก้าวร้าวมากขึ้นหรือไม่ยอมให้จับตัว ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้สามารถจับได้ปกติ
- เงียบซึม หรือส่งเสียงร้องมากผิดปกติ
- ฉี่นอกกระบะทราย หรือฉี่ไม่เป็นที่
😿 ซึ่งสาเหตุที่ทำให้น้องแมวเครียดนั้นมีหลากหลาย เช่น
1. การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง การย้ายที่อยู่ เปลี่ยนกระบะทราย หรือเปลี่ยนอาหาร
2. การเปลี่ยนเจ้าของ เจ้าของคนเดิมไม่อยู่ หรือแมวในบ้านตัวอื่นเสียชีวิต
3. การไม่สบาย หรือภาวะป่วยทางกาย เช่น การติดพยาธิ ซึ่งทำให้น้องแมวไม่สบายตัว มีอาการป่วย และมีความเครียดตามมา
ทั้งนี้การดูแลเอาใจใส่น้องแมวอย่างใกล้ชิด สามารถช่วยให้ทราบได้ว่าน้องแมวมีความเครียดเกิดขึ้นหรือไม่ และสามารถช่วยป้องกันผลที่ตามมาจากความเครียดได้
⚠️ หากพบน้องแมวมีความเครียดจากภาวะป่วยทางร่างกาย แนะนำให้รีบพาน้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจรักษาอย่างทันท่วงที แต่หากพบน้องแมวไม่สบายตัวจากการมีพยาธิ หรือปรสิตต่าง ๆ แนะนำให้ดูแลน้องแมวด้วย LOVE Solution Cat PLUS โปรแกรมดูแลปกป้องปรสิตสำหรับคนรักแมว สบายตัว แห้งไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ 😻
👉 ติดตามความรู้ คำแนะนำ และสิทธิพิเศษดี ๆ ได้ที่ : https://bit.ly/LOVESolutionCatPLUS_29
#รักและห่วงใยปลอดภัยจากปรสิต

23/09/2022

โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว หรือ Feline Infectious Peritonitis (FIP) เป็นโรคที่คุณหมอหลายคนคุ้นเคย และอาจเคยต้องทำการรักษามาบ้างทั้งมากและน้อย คาดการณ์ว่าแมวที่เป็นโรคนี้จะติดเชื้อ Feline Corona Virus (FCoV) ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อผ่านทาง fecal-oral route โดยส่วนมากมักพบว่ารับเชื้อมาจากการสัมผัสกับตัวกลางหรือ fomite และสามารถพบได้ตามสิ่งแวดล้อม
ส่วนใหญ่แล้วการติดเชื้อ FCoV จะไม่ทำอันตรายต่อตัวสัตว์มากนัก อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้เล็กน้อย แต่ถ้าหากเชื้อไวรัสมีการติดเข้าไปในเซลล์ monocyte และเกิดการกลายพันธุ์ภายในร่างกายของแมวแต่ละตัว ก็อาจพัฒนาเป็นโรค FIP ในที่สุด อาการหลัก ๆ ที่สามารถพบได้ก็คือการมีน้ำในช่องของร่างกาย เช่น ช่องอก ช่องท้อง ซึ่งมักพบในแมวที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรค FIP หรือไม่เป็นหนึ่งในกำแพงใหญ่ ๆ ของสัตวแพทย์เลยก็ว่าได้ การตรวจยืนยัน FIP ที่เป็น gold standard คือการดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องทาง histopathology ร่วมกับการย้อมสี FCoV antigen immunostaining ซึ่งดูจะห่างไกลกับ in-house lab ของสถานพยาบาลสัตว์ส่วนใหญ่ รวมถึงยังมีความ invasive ต่อตัวสัตว์ป่วยอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม European Advisory Board on Cat Diseases (ABCD) ได้ทำ FIP diagnostic tree ให้คุณหมอสามารถนำไปใช้เป็น guideline ในการวินิจฉัยได้ โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในลิ้งค์ในคอมเมนต์
ยาต้านไวรัสในแมวป่วยเป็น FIP
การดูแลจัดการที่คุณหมอต้องจัดการสำหรับกรณี FIP ที่สำคัญก็คือ supportive care ทั้งการให้ยาลดอักเสบและการเจาะระบายของเหลวออก และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือการให้ยาต้านไวรัส สำหรับ FIP มียาต้านไวรัสที่น่าสนใจก็คือยาในกลุ่ม nucleoside analogue ซึ่งก็คือ GS-441524 และ remdesivir นั่นเอง
GS-441524 ความหวังท่ามกลางความคลุมเครือ
GS-441524 ที่มี remdesivir เป็น prodrug มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง มีการใช้เพื่อรักษาโรค FIP มาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ดูเหมือนจะให้ผลการรักษาที่อาจเป็นความหวังใหม่ในการรักษาโรค FIP เลยก็ว่าได้ แต่กลับเป็นยาที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ทำให้การใช้ยานี้ในปัจจุบันอาจไม่เป็นที่ยอมรับในหลาย ๆ ที่ทั่วโลก ทำให้หากสัตวแพทย์ตัดสินใจใช้ GS-441524 ในการรักษาแมว FIP จำเป็นต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงต้องแบกรับความเสี่ยงว่ามีโอกาสจะถูกฟ้องเมื่อไหร่ก็ได้
รายงานการใช้ GS-441524 ที่รวบรวมโดย European Advisory Board on Cat Diseases (ABCD)
European Advisory Board on Cat Diseases หรือ ABCD ได้จัดทำ guideline สำหรับการรักษาโรคแมวต่าง ๆ โดยอ้างอิงการศึกษา และได้มีการอัปเดตเนื้อหาสำหรับโรค FIP ไว้ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รวบรวมรายงานการใช้ GS-441524 ที่ผ่านไว้ด้วย คุณหมอที่สนใจสามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.abcdcatsvets.org/feline-infectious-peritonitis/
ผลการรักษา FIP ด้วยการใช้ GS-441524 ในทุกการศึกษาที่นำมากล่าวถึงใน guideline นี้ให้ผลไปในแนวทางเดียวกันว่า แมวส่วนใหญ่อาการดีขึ้นหลังใช้ GS-441524 รักษา ไม่ว่าจะได้รับยาทางการฉีดหรือการกิน อย่างไรก็ตามก็แมวส่วนหนึ่งที่เสียชีวิตในขณะที่ทำการรักษา รวมถึงยังสามารถพบแมวบางตัวกลับมาเป็นซ้ำภายหลังจากการหยุดยาได้อีกด้วย
อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าการตรวจที่เป็น gold standard สำหรับ FIP นั้นทำได้ยาก ทำให้มีแมวเพียงไม่กี่ตัวในการศึกษาที่ยืนยันได้จริง ๆ ว่าเป็นโรค FIP ทำให้อาจจะกล่าวว่า GS-441524 สามารถใช้รักษา FIP ได้ไม่เต็มปากมากนัก นอกจากนี้ตัว GS-441524 ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญอีกอย่างก็คือทำให้แสบบริเวณที่ฉีด ทำให้เจ้าของฉีดยาเองลำบากยิ่งขึ้นไปอีก
สิ่งที่น่าสนใจคือ มีงานวิจัยที่พบว่าค่า alpha-1-acid glycoprotein (AGP) สามารถใช้เพื่อติดตามอาการได้ดีกว่าค่า lymphocyte count และ serum globulin และแนะนำให้ใช้ค่านี้เพื่อพิจารณาการหยุดใช้ยาเมื่อค่าต่ำกว่า 5 mg/ml
สรุปการใช้ GS-441524 เพื่อรักษา FIP โดย Niels C. Pedersen จาก UC DAVIS
Niels C. Pedersen ได้เขียนบทความ Summary of GS-441524 treatment for FIP สรุปการใช้ GS-441524 เพื่อรักษา FIP ไว้ โดยสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดตัวเต็มได้ในลิ้งค์ที่คอมเมนต์
ในบทความได้มีการแนะนำโดสสำหรับรักษาแมวที่ไม่พบอาการที่เกี่ยวข้องกับตาหรือระบบประสาท เริ่มให้ที่ 4-6 mg/kg sid ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ สำหรับแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาแต่ไม่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทให้ใช้โดส 8 mg/kg ต่อเนื่องกัน 12 สัปดาห์ และถ้าแมวมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วยให้เริ่มที่ 10 mg/kg ต่อเนื่องกัน 12 สัปดาห์
เมื่อเริ่มต้นให้ยาแล้ว ควรพิจารณาปรับยาประมาณสัปดาห์ละครั้ง เพราะเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น แมวอาจน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกแมว รวมถึงช่วงก่อนรักษาแมวอาจจะโทรมไม่ยอมกินอาหารทำให้น้ำหนักน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ไม่ควรพิจารณาเพิ่มโดสหากไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน เช่น ผลเลือดไม่ดีขึ้น น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น หรือเริ่มแสดงอาการที่เกี่ยวกับตาและระบบประสาท เป็นต้น
สำหรับการพิจารณาหยุดยา Dr. Pedersen มองว่าไม่ควรให้ยาต่อเนื่องน้อยกว่า 84 วัน จากนั้นให้พิจารณาอาการร่วมกับผลเลือดต่าง ๆ โดยแนะนำให้สนใจที่เป้าหมายการรักษา หากแมวมีระดับ activity เท่าปกติ เติบโตตามปกติ ผลเลือดปกติแล้ว ก็ควรจะสามารถหยุดยาได้
อย่างไรก็ตาม แมวอาจพบการกลับมาเป็นซ้ำได้หลังจากหยุดยา ซึ่งอาจเกิดจากการที่เชื้อหลบเข้าไปในระบบประสาทขณะที่ทำการรักษา หรือโดสที่ให้อาจไม่เพียงพอ และยังสามารถพบการดื้อยาได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังผลข้างเคียงของการใช้ GS-441524 ยังไม่น่ากังวลมากนัก มีรายงานว่าอาจสร้างความเสียหายต่อไตได้เล็กน้อย แต่เป็นความเสียหายที่สามารถรักษาได้ และมีข้อจำกัดสำคัญคือทำให้แสบบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นแผลตามมาได้ด้วยเหมือนกัน
Remdesivir
ยาอีกตัวที่น่าสนใจที่มีการกล่าวถึงทั้งใน guideline ของ ABCD และ summary ของ Pedersen ในกลุ่ม nucleoside analogue คือ remdesivir เป็นยามีทะเบียนสำหรับใช้รักษาการติดเชื้อ corona virus ทางทางเดินหายใจอย่าง SARS-CoV-2 ในบางประเทศ สามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมีแต่แบบฉีดและมีราคาสูงกว่า GS-441524 ให้ผลการรักษาที่น่าสนใจ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง remdesivir และ GS-441524 ในการรักษา FIP ออกมา
การเสาะหาให้ได้มาและการใช้
สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้ง GS-441524 และ remdesivir ยังไม่ได้รับการรับรองโดย US FDA ตามข้อมูลของ ABCD เล่าว่าเจ้าของส่วนใหญ่ค้นหาข้อมูลยาจากในอินเตอร์เน็ตและ Facebook รวมถึงหายามาฉีดให้แมวด้วยตัวเอง โดยมีสัตวแพทย์คอยดูแลเรื่อง supportive อื่น ๆ ให้
ในประเทศออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร มีการอนุญาตให้ใช้ GS-441524 แบบควบคุมพิเศษเพื่อการรักษา FIP โดยเฉพาะ ตัวยาที่ได้รับอนุญาตเป็นรูปแบบการกิน มีการควบคุมการผลิตและความเข้มข้นของตัวยา รวมถึงต้องใช้ตาม protocol ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
ส่วนในประเทศไทย การใช้ยาที่ไม่มีทะเบียนกับสัตว์ป่วยนั้น อาจทำให้สัตวแพทย์เสี่ยงในการโดนฟ้องร้องได้ สัตวแพทย์จำเป็นต้องสื่อสารและตกลงกับเจ้าของให้ชัดเจนก่อนเริ่มต้นการรักษาเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา
เชื้อ FCoV เป็นเชื้อที่มีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม มักไม่ได้ทำให้แมวเจ็บป่วยรุนแรง หากไวรัสไม่เกิดการกลายพันธุ์และพัฒนาเป็น FIP แม้ว่าการตรวจวินิจฉัยที่เป็น gold standard ณ ปัจจุบันสำหรับ FIP ยังคงทำได้ไม่ง่ายนัก แต่การรักษาโดยใช้ GS-441524 ช่วยให้แมวหลายตัวหายป่วยจนกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง การใช้ยาตัวนี้มีข้อจำกัดสำคัญคือเป็นยาที่ไม่มีทะเบียน ทำให้อาจเกิดข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายกับสัตวแพทย์ที่ใช้ยานี้รักษาแมวป่วยได้ ในบางประเทศมีการอนุญาตให้ใช้แบบพิเศษภายใต้การควบคุมทั้งการผลิตและการใช้งานซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้แมวป่วยได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
แม้ว่ายาจะไม่มีทะเบียน แต่ก็มีผลการศึกษาที่เป็นประโยชน์สำหรับตัวสัตว์ป่วยอยู่ไม่น้อย รวมถึงมีตัวอย่างการอนุญาตแบบควบคุมพิเศษในบางประเทศ คงจะดีหากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเห็นความสำคัญ หารือและร่วมกันหาแนวทางปฏิบัติเพื่อปกป้องผู้ปฏิบัติงาน ยกระดับการรักษาและคุณภาพชีวิตของสัตว์ป่วยในประเทศไทยต่อไป
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทความเท่านั้น อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://www.readvpn.com/Topic/Info/d5496614-e308-4eaf-8618-3ed8474d647e
บทความโดย : สพ.ญ. วรรณิตา จิระสถิตย์วรกุล
สำหรับคุณหมอสัตวแพทย์ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
ตอนนี้ทาง VPN มีโปรโมชั่นน่าสนใจอยู่นะ
💙 อ่านออนไลน์ จ่ายถูกกว่า -
สำหรับสัตวแพทย์ท่านที่สมัครสมาชิกแบบอ่านออนไลน์ (ไม่รับหนังสือ) จ่ายเพียง 1,000 บาท/ปี เท่านั้น และยังสามารถทำ CE online ในเว็ปไซต์ได้ตามปกติ
💙 อ่านจากเล่ม เน้นสะสม -
สำหรับท่านที่สมัคร/ต่ออายุสมาชิกแบบรับหนังสือ (สามารถใช้งานเว็ปไซต์และทำ CE online ได้ด้วย)
📍 ได้ทำ CE online มากกว่า 40 คะแนน/ปี
📍 ดาวโหลด E-book ไปอ่านได้
📍 ใช้งานเว็ปไซต์ได้เต็มรูปแบบ
📍 E-learning online course
ดูรายละเอียดแพคเกจ
และสมัครออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่ https://www.readvpn.com/VPN/Subscription
หรือสอบถามเพิ่มเติม
add Line : https://lin.ee/v8Ldcyu

18/09/2022

9 ข้อดีของการทำหมันแมว
ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ดีทั้งนั้น 😽
เราต้องมานั่งตอบปัญหาเรื่องนี้บ่อยมาก
เพราะยังมีบางคนเข้าใจผิดอยู่ว่า เป็นการทรมานน้อง
ลองมาดูข้อดีคร่าวๆ แบบเข้าใจง่ายๆกันนะ 😊
1) อายุยืนขึ้น : พูดง่ายๆก็คือน้องจะแข็งแรงขึ้นจากการไม่เป็นโรค 💪
2) ลดโอกาสเกิดโรค : หลักๆก็คือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ ✌️
3) ลดความก้าวร้าว : พฤติกรรมก้าวร้าวของแมวบางตัว ลดลงได้หลังจากการทำหมันโดยเฉพาะแมวตัวผู้ 😿
4) ลดจำนวนแมวจร : ปฏิเสธไม่ได้ว่าแมวจรยังเป็นปัญหาเนอะ และเราเองก็สงสารมากๆด้วยเวลาเห็นแมวจร 😢
5) การติดสัด : บางทีกับน้องบางตัวน้องร้องดังมาก ก็ลดปัญหาเรื่องนี้ไปได้
ไม่ทรมานกับการติดสัดด้วย 😸
6) การสร้างอาณาเขต : การฉี่ไปทั่วของแมวตัวผู้ เป็นพฤติกรรมที่เกียวกับฮอร์โมน 😾
7) ปัญหาแมวชอบเที่ยว : กับน้องบางตัวทำให้น้องติดบ้านมากขึ้น 🏠
8 ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ : อยู่ๆมีเจ้าเหมียวเพิ่มขึ้นมา ถ้าเรายังไม่พร้อมก็ลำบากๆหน่อย 😅
9) ค่าใช้จ่ายไม่แพง : เมื่อเทียบกับการที่น้องไม่สบาย หรือมีลูกเพิ่มขึ้นมา 💸
ทั้งนี้ทั้งนั้น พฤติกรรมน้องแมวแต่ละตัวจะแตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว
และขึ้นอยู่กับความพร้อม การดูแลของแต่ละบ้านด้วยเนอะ 🤗❤️
ฝากติดตามช่องทางอื่นๆของเราด้วยนะ
📍 หน้าแมว
🏡 โรงแรมแมว หน้าแมว Nhamaew Cat Hotel
🎯 หน้าแมวรีวิว

10/09/2022

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนรับน้องแมว น้องหมามาเลี้ยง
อยากรับน้องแมว หรือน้องหมามาเลี้ยงสักตัว นอกจากความรักแล้ว…
ต้องเตรียมพร้อมอะไรอีกบ้าง? มาดู Check list กันเลย
🐱 ทราบประวัติเบื้องต้น : ทั้ง เพศ สายพันธุ์ และอายุ เพื่อเรียนรู้ความต้องการ และนิสัยที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถสอบถามจากฟาร์มแมว หรือฟาร์มสุนัขได้โดยตรง ส่วนในกรณีที่รับแมวจร หรือสุนัขจรมาเลี้ยง แนะนำให้ไปขอรับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เพิ่มเติม
🐱 ตรวจสุขภาพ : ทุกครั้งที่รับน้องแมว น้องหมามาใหม่ แม้ทางฟาร์มจะแจ้งว่าสุขภาพแข็งแรง และทำการฉีดวัคซีนแล้ว แต่น้องก็อาจภูมิตก หรืออาจเกิดความเครียดจากการเดินทางได้ จึงควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายให้มั่นใจว่าน้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีตามช่วงวัย
🐱 ถ่ายพยาธิ : การถ่ายพยาธิเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อการรักษาสุขภาพที่ดี เจ้าของควรสอบถามประวัติการถ่ายพยาธิของน้องหมาหรือน้องแมวจากทางฟาร์ม หากยังไม่ได้ถ่ายพยาธิ ก็สามารถพาน้องหมา น้องแมวไปพบสัตวแพทย์ได้เลย
🐱 การฉีดวัคซีน : คือการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และสามารถป้องกันโรคต่าง ๆ ตามชนิดของวัคซีนนั้น ๆ ดังนั้น เจ้าของจำเป็นต้องสอบถามประวัติการฉีดวัคซีน และขอสมุดวัคซีนของน้องหมา น้องแมวมาจากทางฟาร์มให้เรียบร้อย แต่หากน้องหมา น้องแมวยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็สามารถพาน้องหมา น้องแมวไปพบสัตวแพทย์ได้เลย
🥰 ทราบข้อมูลการเลี้ยง : วิธีการเลี้ยง อุปนิสัย และพฤติกรรมในแต่ละช่วงวัย รายละเอียดการฉีดวัคซีน และแผนการทำหมัน ไปจนถึงการสังเกตพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าน้องแมว น้องหมามีอาการป่วย เพื่อให้เราสามารถดูแลน้องแมว น้องหมาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
🥰 การให้เวลา : ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวหรือน้องหมา สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือต้องมีเวลาดูแล ให้น้ำ ให้อาหาร ทำความสะอาดน้องแมว น้องหมา รวมไปถึงของเล่น และบริเวณที่อยู่อาศัย มีเวลาพาไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ทำหมัน เป็นต้น
🥰 มีพื้นที่ และอุปกรณ์พื้นฐานครบถ้วน : ควรมีพื้นที่ให้น้องแมว น้องหมาได้วิ่งเล่น เพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย และต้องมีอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ชามน้ำ ชามอาหาร ที่ขับถ่าย และของเล่นอย่างครบถ้วน
🥰 เตรียมเงินสำรอง : ผู้ที่สนใจรับน้องแมว น้องหมามาดูแล ควรมีเงินสำรองให้เพียงพอสำหรับค่าอาหาร ของใช้ วัคซีน ทำหมัน และรักษาพยาบาล ในกรณีที่น้องแมว น้องหมาไม่สบาย
หากใครได้ตรวจสอบ และปฏิบัติตาม Check list ทุกข้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมรับน้องแมว น้องหมามาเลี้ยง และเตรียมตัวเป็นเจ้าของน้องแมว น้องหมาคนต่อไปกันได้เลย
👉 ติดตามความรู้ คำแนะนำ และสิทธิพิเศษดี ๆ ได้ที่ : https://bit.ly/LOVESolutionCatPLUS_12

07/09/2022

รู้หรือไม่ว่า ลักษณะหางสามารถบอกความรู้สึกของน้องแมวได้
😻 หางตั้งตรง อารมณ์ดี มีความสุข
😸 ชูหางโค้ง เป็นมิตร อยากเล่นด้วยกันกับเจ้าของ
🙀 หางลู่ต่ำลง รู้สึกหงุดหงิด วิตกกังวล ควรรีบสังเกตว่าอะไรทำให้น้องแมวรู้สึกเช่นนั้น
😾 หางฟูชี้ขึ้น กำลังกลัว โกรธ หรือกระวนกระวาย
😼 แกว่งหางช้า ๆ ไปมา กำลังสนใจอะไรบางอย่าง หรือรู้สึกหงุดหงิดรำคาญอยู่
😿 หางขดเข้าหาตัว รู้สึกไม่ดี หรือเป็นกังวล อาจเกิดจากการไม่สบายตัวจากภาวะป่วยต่าง ๆ รวมถึงการติดปรสิต ควรสังเกตหาสาเหตุ หรือพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจ
หากพบน้องแมวไม่สบายตัวจากปรสิต มาดูแลน้องแมวให้ครบรอบด้าน ด้วย LOVE Solution Cat PLUS โปรแกรมดูแลปกป้องปรสิตสำหรับคนรักแมว ปลอดภัย แห้งไว สบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
👉 ติดตามความรู้ คำแนะนำ และสิทธิพิเศษดี ๆ ได้ที่ : https://bit.ly/LOVESolutionCatPLUS_10
#รักและห่วงใยปลอดภัยจากปรสิต

01/09/2022

เรื่องนี้คุณเจ้าของต้องรู้!
เพราะถึงเลี้ยงระบบปิดหรือระบบเปิด น้องแมวก็เสี่ยงติดปรสิตได้ไม่ต่างกัน
น้องแมวที่เลี้ยงระบบเปิด
มักเสี่ยงติดปรสิตจากสิ่งแวดล้อมนอกบ้าน เช่น พื้นดิน สนามหญ้า แหล่งน้ำ การสัมผัสกับแมวจร หรือสัตว์พาหะ เช่น ยุง หนู แมลงสาบ เป็นต้น ทำให้เสี่ยงต่อการติดปรสิตทั้งภายในและภายนอก
น้องแมวที่เลี้ยงระบบปิด
ก็มีความเสี่ยงจากการติดปรสิตได้จากเจ้าของ ที่อาจนำปรสิตเข้าบ้านได้โดยไม่รู้ตัว เช่น ไข่หมัดในดินที่ติดมากับรองเท้า หรือเห็บ และไรในหู ที่ติดจากการสัมผัสกับแมวจร แล้วเจ้าของไม่ได้ล้างมือหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังมีสัตว์พาหะนำโรคที่สามารถพบได้ในบ้าน เช่น ยุงที่มีเชื้อพยาธิหนอนหัวใจ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
จะเห็นได้ว่าน้องแมวทุกตัว ไม่ว่าจะเลี้ยงระบบไหน ต่างก็มีความเสี่ยงต่อการติดปรสิตได้ไม่ต่างกัน ดังนั้น อย่าลืมใช้ LOVE Solution Cat PLUS โปรแกรมดูแลปกป้องปรสิตสำหรับคนรักแมว เพื่อให้น้องแมวสุขภาพดี มีความสุข และอยู่กับเราไปนานๆ
👉 ค้นหาโรงพยาบาลสัตว์และคลินิกที่ได้มาตรฐานได้ที่ : https://bit.ly/LOVESolutionCatPLUS-04

#รักและห่วงใยปลอดภัยจากปรสิต

24/05/2022

คิดจะสู้กับแมวที่มีประชาชนทั้งเมืองหนุนหลังรึ
เชื่อหรือไม่ว่าเจ้าหน้าที่ในองค์กรของรัฐหลายแห่งทั่วโลกนั้นไม่ใช่มีแค่มนุษย์ แต่ยังรวมไปถึงเหล่าน้องแมวด้วย ซึ่งบางครั้งแมวเหล่านี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับการโหวตอยู่เหมือนกันว่าจะให้พวกเขาได้ทำงานต่อในตำแหน่งนั้นๆ หรือไม่
เรื่องในคราวนี้เกิดขึ้นที่หอสมุด White Settlement Public Library ที่รัฐเท็กซัสในปี 2016 โดยที่นั่นได้มีน้องแมวลายสลิดสีเทาตัวหนึ่งชื่อว่า Browser ซึ่งถูกอุปการะและแต่งตั้งให้เป็นน้องแมวประจำห้องสมุดทำหน้าที่คอยจับหนูและสัตว์รบกวนต่างๆ มาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยเจ้าน้องแมว Browser เนี่ยก็เป็นที่รักของเหล่าประชาชนผู้ใช้งานห้องสมุดเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจเด็กๆ กันเลยทีเดียว
ทีนี้มีคนชอบก็มีคนไม่ชอบ รวมไปถึงบางคนที่แพ้ขนแมวก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก (แต่ทางห้องสมุดบอกว่าได้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ 99% ไว้แล้ว) ทางสมาชิกสภาเมืองคนหนึ่งนามว่า Elzie Clement เลยเป็นตัวตั้งตัวตีชงเรื่องเข้าที่ประชุมสภาเมืองว่าจะยุติการทำหน้าที่ของน้องแมวตัวนี้เสียจากข้อร้องเรียนต่างๆ
ผลปรากฏว่าพอเรื่องนี้ถึงหูชาวเมือง เหล่าผู้รักน้องแมวตัวนี้ก็เดือดจัดเลย รีบเปิดแคมเปญต่อสู้เพื่อให้ Browser ได้อยู่ที่ห้องสมุดต่อไป โดยมีทั้งการล่าลายชื่อชาวเมืองต่อต้านกว่าพันคน มีการระดมต่อว่าทางอีเมลกว่า 1500 ฉบับไปยังสภาเมือง พร้อมกับเสียงโกรธแค้นจากทั้ง 50 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงยังเป็นข่าวไปทั่วโลกอีกต่างหาก
พอกระแสตีกลับอย่างล้นหลาม ทางสภาเมืองเลยเปิดให้สมาชิกโหวตตัดสินโดยไม่ต้องระบุตัวตนคนโหวต ผลปรากฏว่าคนโหวตให้น้องแมวได้อยู่ต่ออย่างท่วมท้น ทางสมาชิกสภาเมืองคนหนึ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเรื่องเลย คนที่ชงเรื่องนี้ขึ้นมาควรจะคิดให้รอบคอบถึงภาพลักษณ์และข้อดีข้อเสียมากกว่านี้
ส่วนทาง Elzie Clement สมาชิกสภาเมืองผู้เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องขับไล่น้องแมวออกนั้น เมื่อถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองอีกครั้งก็พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่ง โดยทางคู่แข่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว บางคนก็บอกว่าที่แพ้อาจเป็นเพราะปัญหาเรื่องน้องแมวนี่ก็ได้เลยทำให้คะแนนตกต่ำลง เป็นอันว่าสมาชิกสภาเมืองที่อยากให้น้องแมวออกกลับกลายเป็นคนถูกออกเสียเอง ส่วนน้องแมวยังคงได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป
บอกแล้ว...ไม่แน่จริงอย่ามาเก๋ากับพี่นะ
อ้างอิงข้อมูล
https://www.cbsnews.com/news/library-cat-outlasts-councilman-that-wanted-him-gone/

https://abcnews.go.com/Lifestyle/beloved-cat-job-local-library-international-backlash/story?id=40351635
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

24/05/2022

เชื่อว่าในบรรดาคนรักแมว หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่านักวิทยาศาสตร์เคยทำการทดลองแล้วพบว่า แมวเป็นสัตว์ที่รู้ชื่อตัวเองนะ แค่มันไม่สนใจเวลาเราเรียกก็เท่านั้น

เพราะล่าสุดนี้เอง นักวิทยาศาสตร์ที่ญี่ปุ่นก็เพิ่งจะทำการทดลองต่อยอดการค้นพบดังกล่าวและพบว่า

แมวนั้นไม่เพียงแต่จะรู้ชื่อตัวเองเท่านั้น แต่มันยังรู้ชื่อของ "แมวตัวอื่น" ด้วย!!

ทีมวิจัยค้นพบความจริงนี้ จากการทดลองให้แมวจากบ้าน/คาเฟ่แมว ดูรูปแมวที่อยู่ในบ้าน/ร้านเดียวกัน โดยมีการเปิดเสียงเรียกชื่อแมวจากเจ้าของควบคู่กันไปด้วย

พวกเขาพบว่าถ้าชื่อแมวในภาพกับเสียงตรงกัน แมวส่วนใหญ่จะไม่แสดงท่าทางสนใจมากนัก แต่หากชื่อของแมวในภาพกับเสียงไม่ตรงกัน แมวหลายตัวจะจ้องภาพเป็นเวลานานกว่าปกติ ราวกับกำลังสับสน หรือทึ่งกับภาพและชื่อที่ไม่ตรงกันเลย

โดยแมวจากคาเฟ่แมวโดยมากแล้วจะให้ความสนใจกับภาพแมวร่วมร้านสั้นกว่าแมวบ้าน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจเป็นเพราะพวกมันอาศัยอยู่กับแมวตัวอื่นๆ มากมาย เลยไม่สนใจจำเพื่อนนักก็ได้

เท่านั้นยังไม่พอ ในงานวิจัยนี้ทีมวิจัยยังพบด้วยว่า นอกจากชื่อแมวด้วยกันเองแล้ว แมวส่วนใหญ่ยังรู้ด้วยว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวชื่ออะไร เพราะเมื่อลองเปลี่ยนภาพในการทดลองจากแมวเป็นคน ผลการวิจัยก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม

ต่างกันตรงที่คราวนี้ แมวที่อาศัยในบ้านที่มีคนอยู่มากๆ จะมีโอกาสจำชื่อคนได้มากกว่าแมวในบ้านที่คนน้อยก็เท่านั้น

"การตีความของเราคือแมวที่อาศัยอยู่กับคนจำนวนมากขึ้นมีโอกาสที่จะได้ยินชื่อคนมากกว่าแมวที่อาศัยอยู่กับคนน้อย และยิ่งอยู่กับครอบครัวเป็นเวลานานเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีประสบการณ์กับชื่อมากขึ้นนั่นเอง"

#เหมียวศรัทธา

ที่มา

www.nature.com/articles/s41598-022-10261-5

soranews24.com/2022/05/18/japanese-universities-determine-cats-know-the-names-of-other-cats/

www.sciencealert.com/cats-know-each-other-s-names-experiment-suggests

24/05/2022

เมื่อสายพันธุ์อาจบอกถึงนิสัยของน้องแมวได้
คำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับน้องแมวคือนิสัยของแมวนั้นแท้จริงแล้วถูกกำหนดด้วยการเลี้ยงดูหรือว่าถูกกำหนดจากลักษณะสายพันธุ์กันแน่ รวมไปถึงสายพันธุ์สามารถบอกถึงแนวโน้มนิสัยของน้องแมวได้จริงๆ หรือเปล่า ปัญหานี้เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์และเจ้าของแมวหลายท่านถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน แต่งานวิจัยชิ้นนี้อาจจะเป็นข้อมูลหนึ่งที่บอกว่านอกจากสิ่งแวดล้อมการเลี้ยงดูแล้ว ลักษณะสายพันธุ์ก็ส่งผลต่อนิสัยของแมวไม่น้อยเลย
การวิจัยชิ้นนี้เป็นของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Helsinki ประเทศฟินแลนด์ โดยได้สำรวจและจัดทำข้อมูลนิสัยแมวกว่า 5726 ตัว เพื่อดูลักษณะแพทเทิร์นของนิสัยว่าเป็นอย่างไร แล้วทีมนักวิจัยก็พบกับเรื่องที่น่าสนใจคือแมวแต่ละสายพันธุ์จะแสดงลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยหลักๆ จะเกี่ยวข้องกับความกระตือรือร้น ความขี้อาย ความก้าวร้าว และการเข้าหาสื่อสารกับมนุษย์ โดยพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นจากการสืบทอดผ่านสายพันธุ์
เมื่อนำข้อมูลของน้องแมวเกือบ 6000 ตัว มาวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ทางทีมนักวิจัยได้เจาะลึกไปที่แมว 3 สายพันธุ์หลักที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ แมวสายพันธุ์ Maine C**n แมวสายพันธุ์ Ragdoll และแมวสายพันธุ์ Turkish Van โดยแมวพันธุ์ Maine C**n เป็นตัวแทนของแมวสายพันธุ์แถบยุโรปเหนือ ส่วน Ragdoll เป็นตัวแทนแมวสายพันธุ์ยุโรปตะวันตกและอเมริกา ส่วน Turkish Van เป็นตัวแทนสายพันธุ์แมวเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน
ผลที่น่าสนใจคือแมว Ragdoll จะค่อนข้างขี้อายกับคนแปลกหน้าและอาจจะแสดงท่าทีก้าวร้าวกับมนุษย์ที่ไม่รู้จักได้ ส่วนแมว Tuskish Van จะดุกับทั้งคนและแมวด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับแมวพันธุ์อื่นๆ ด้วย เช่น แมวสายพันธุ์ British Shorthairs จะไม่ค่อยสื่อสารหรือคลอเคลียกับมนุษย์ ในขณะที่แมวโคราชของไทยเป็นแมวที่ชอบอยู่ใกล้กับมนุษย์มากที่สุด แมวสายพันธุ์ Russian Blue จะมีแนวโน้มเขินอายต่อคนแปลกหน้า ส่วนแมว Cornish Rex, แมวโคราช และแมวเบงกอล เป็น 3 สายพันธุ์ในงานวิจัยชิ้นนี้ว่าเป็นแมวที่คึกชอบทำกิจกรรมที่สุด ส่วน British Shorthairs จะเป็นแมวที่ไม่ชอบขยับตัวที่สุด
นักวิจัยกล่าวว่าส่วนหนึ่งที่สายพันธุ์มีอิทธิพลต่อนิสัยของน้องแมวค่อนข้างมากอาจเกิดขึ้นจากการคัดเลือกสายพันธุ์ที่นักปรับปรุงพันธุ์แมวจะเลือกแมวที่มียีนที่สีขนและสีตาที่ต้องการมาผสมต่อ ทำให้ลักษณะนิสัยที่ยีนนั้นๆ เกี่ยวข้องจะถูกเลือกและส่งต่อมายังรุ่นหลังๆ ด้วย
แต่อย่างงไรก็ดี เราเชื่อว่าสายพันธุ์อาจไม่ใช่ตัวกำหนดลักษณะนิสัยทั้งหมดของน้องแมว เพราะการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมรอบตัวก็เป็นตัวกำหนดว่าน้องแมวจะมีนิสัยอย่างไรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงหลังจากอายุสองเดือนเป็นต้นไปที่น้องแมวเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ และสิ่งที่น้องแมวเรียนรู้ตอนนี้ก็จะเป็นนิสัยที่ติดตัวพวกเขาไปตลอดชีวิต
ละ...แล้วที่เห็นว่ามนุษย์ต้องมาคอยรับใช้เหล่าน้องแมวเนี่ย เจ้าพวกนี้ไปเรียนรู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ....
อ้างอิงข้อมูล

https://www.smithsonianmag.com/smart-news/survey-suggests-cat-breed-behaviors-are-largely-inherited-180972438/
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

20/05/2022

ปัญหา Feline Lower Urinary Tract Disease (FLUTD) เป็นหนึ่งในปัญหาที่สัตวแพทย์หลาย ๆ คนต้องเผชิญเป็นงานประจำวัน เป็นการอักเสบที่เกิดที่ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งประกอบไปด้วย กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ สามารถพบได้บ่อยในแมววัยโตเต็มวัยที่เลี้ยงในบ้าน (indoor) มักจะเป็นแมวที่กินน้ำน้อย มีน้ำหนักเกินและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย และพบในแมวตัวผู้ได้มากกว่าแมวตัวเมีย
ซึ่ง feline lower urinary tract disease สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งนิ่ว การติดเชื้อ urethral plug หรือเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุก็คือ Feline Idiopathic Cystitis (FIC) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า Pandora syndrome
Pandora syndrome และ Feline idiopathic cystitis
สาเหตุที่ feline idiopathic cystitis มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Pandora syndrome เป็นเพราะว่าการอักเสบของ lower urinary tract (LUT) ในกรณนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดจากที่ตัวแมวจะมีความเจ็บป่วยจากระบบอื่น ๆ แต่มาแสดงอาการเจ็บป่วยที่กระเพาะปัสสาวะ มากกว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดกับกระเพาะปัสสาวะโดยตรง โดยชื่อนี้สามารถใช้อธิบายลักษณะของโรคที่พบร่วมกับความผิดปกติของร่างกายหลายอย่างร่วมกัน เหมือนกับที่กล่องของ Pandora เป็นกล่องที่รวบรวมสิ่งไม่ดีต่าง ๆ เอาไว้ และยังไม่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดโรคอีกด้วย
นอกจากนี้ ชื่อ Pandora ยังสะท้อนว่า ต่อให้จะไม่มีคำอธิบายการก่อโรคที่ชัดเจน แต่ก็ยังมีความหวังในการรักษาสำหรับ feline idiopathic cystitis อยู่เหมือนกับที่ Pandora ยังสามารถเก็บความสิ้นหวังไว้ได้ ไม่ให้ไปกัดกินจิตใจของผู้คนนั่นเอง
อาการของ Pandora syndrome
อาการของ Pandora syndrome ก็คืออาการของ feline lower urinary tract disease ซึ่งได้แก่ การเบ่งปัสสาวะ ร้องครางขณะกำลังปัสสาวะ เข้ากระบะทราบเพื่อปัสสาวะบ่อย ๆ แต่มีปัสสาวะนิดเดียวหรือไม่มีปัสสาวะออกมา ขับถ่ายนอกกระบะทราย หรือปัสสาวะมีเลือดปน โดยอาการมีแนวโน้มจะดีขึ้นได้เองภายใน 2 สัปดาห์ แต่มักเป็นเรื้อรังไม่หายสนิท โดยความถี่ในการเกิดซ้ำและความรุนแรงจะขึ้นกับความเครียดของแมว
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรค Pandora syndrome สามารถทำได้โดยตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และอาจส่งปัสสาวะเพาะเชื้อเพิ่มเติมหากจำเป็น รวมไปถึงการตรวจหาความผิดปกติของระบบอื่น ๆ เช่น ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมักจะเป็นมาก่อนจะพบปัญหา lower urinary tract แต่ที่สำคัญก็คือการซักประวัติของแมวและการจัดการสิ่งแวดล้อมในบ้าน เช่น ได้แมวมาจากไหน โดยแมวที่มีประวัติวัยเด็กที่ลำบากจะมีแนวโน้มป่วยเป็น Pandora syndrome ได้มากกว่า อย่างแมวที่เคยเป็นแมวกำพร้ามาก่อน คุณหมอสามารถ download แบบฟอร์มการซักประวัติและการจัดการสิ่งแวดล้อมได้ที่ https://indoorpet.osu.edu/veterinarians/environmental-enrichment-resources-and-references โดยแมวที่เป็น Pandora syndrome มักจะมีอาการดีขึ้นหลังจากการจัดการกับสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม
การจัดการสิ่งแวดล้อมตามหลักการ MEMO หรือ multimodal environment modification
Pandora syndrome เป็นโรคที่สามารถหายได้เอง สัตวแพทย์อาจเลือกจ่ายยาลดอักเสบเพื่อลดความเจ็บปวดได้ หรืออาจจะต้องให้การช่วยเหลือเร่งด่วนหากมีการอุดตันของ lower urinary tract แต่ที่สำคัญคือ ควรจะต้องจัดการกับความเครียดที่เป็น underlying cause ด้วย ก็คือต้องแนะนำให้เจ้าของมีการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงให้เหมาะสมด้วย โดย MEMO หรือ multimodal environment modification หมายถึงการพิจารณาภาพรวมการเลี้ยงทั้งหมด มองหาว่ามีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดอยู่ตรงไหนได้บ้าง และแก้ไขให้เหมาะสม
1. อาหาร
แมวมักจะชอบกินอาหารตามลำพังในที่เงียบ ๆ ควรเป็นที่ที่ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว ไม่มีอะไรมาทำให้ตกใจ ควรให้อาหารในเวลาเดิมและเป็นอาหารชนิดเดิม หากจำเป็นต้องเปลี่ยนอาหาร ให้เปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยแนะนำให้เริ่มด้วยการวางอาหารใหม่ในชามแยกกันไว้ติดกับอาหารเดิม ให้แมวได้รู้สึกเหมือนได้เลือกอาหารด้วยตัวเอง
เพิ่มเติมคือควรให้แมวได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ เช่น การล่า สะกดรอย และตะครุบเหยื่อ โดยอาจจะซ่อนอาหารปริมาณน้อย ๆ ไว้ในที่ต่าง ๆ หรืออาจจะใส่ไว้ในของเล่นซ่อนอาหารให้แมวจะต้องไปเล่นของเล่นก่อน อาหารถึงจะหล่นออกมา
2. น้ำ
แมวเลือกกินน้ำด้วยหลากหลายปัจจัย ทั้งความสะอาด การเคลื่อนไหว ภาชนะที่ใส่ ควรมีชามน้ำให้แมวไว้หลาย ๆ ที่ทั่วบริเวณบ้าน โดยเฉพาะในบ้านที่มีแมวมากกว่า 1 ตัว และควรมีตัวเลือกหลากหลายให้แมวสามารถเลือกได้
3. กระบะทราย
กระบะทรายควรมีขนาดใหญ่มากพอ (ควรมีขนาดประมาณ 1.5 เท่าของความยาวของแมว) มีหลายอันวางไว้ตามบริเวณต่าง ๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีแมวหลายตัว ควรเลือกบริเวณที่สงบ ไม่มีสิ่งรบกวน เป็นบริเวณเปิดโล่งสามารถที่แมวสามารถวิ่งหนีหากเกิดอะไรขึ้นได้ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีทรายหลาย ๆ ชนิดให้แมวเลือกตามได้ตามความต้องการ สำหรับแมวที่เคยมีประวัติเจ็บป่วยด้วยปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะมาก่อน ควรพิจารณาทรายแมวที่ไม่มีกลิ่นและสามารถจับตัวเป็นก้อนได้ มีปริมาณทรายมากพอที่แมวขุดแล้วจะไม่เจอพื้นกระบะ ควรตักสิ่งปฏิกูลออกอย่างน้อยวันละครั้ง และควรทำความสะอาดกระบะทรายด้วยน้ำยาล้างจานแบบอ่อนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
4. พื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ
ส่วนใหญ่แมวจะชอบนอนบนที่สูง จึงควรที่จะมีพื้นที่สูงที่มีความเป็นส่วนตัวสำหรับให้แมวนอนพักผ่อน และควรมีขั้นบันไดหรือชั้นตามผนังให้แมวสามารถปีนป่ายได้ รวมถึงควรมีที่สำหรับฝนเล็บให้แมว (ทั้งแนวตั้งและแนวนอน) สามารถเลือกใช้กล่องลังกระดาษที่มีความแข็งแรงวางให้แมวได้ซ่อนตัวและได้ฝนเล็บไปด้วยเลยก็ได้
5. การเล่น
แมวบางตัวอาจจะชอบตะครุบนกหรือล่าหนู ซึ่งเจ้าของสามารถสังเกตพฤติกรรมความชอบและเลือกของเล่นที่เลียนแบบลักษณะของเหยื่อ เช่นของเล่นที่มีขนาดเล็กและเคลื่อนไหวได้ ช่วยเสริมพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ แมวบางตัวจะขี้เบื่อได้ง่าย ควรมีของเล่นหลากหลายให้เลือก และควรสลับสับเปลี่ยนเรื่อย ๆ ไม่ให้แมวเบื่อหน่าย
6. แมวไม่ถูกกัน
ปัญหานี้มักพบในบ้านที่มีแมวหลายตัว โดยแมวอาจจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาให้เห็นตรง ๆ หรืออาจจะแสดงออกโดยการหลบเลี่ยงแมวตัวอื่นก็ได้ มักพบเมื่อมีการนำสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้าบ้าน หรือเมื่อแมวที่เลี้ยงตั้งแต่เด็กด้วยกันเริ่มโต แม้แต่แมวที่เป็นพี่น้องครอกเดียวกันก็อาจจะพบปัญหานี้ได้
วิธีจัดการกับความขัดแย้งก็คือ ต้องมีของใช้และพื้นที่ส่วนตัวเพียงพอสำหรับแมวทุกตัว โดยแมวอาจมีความต้องการพื้นที่มากกว่าที่เจ้าของหลายคนสามารถหาให้ได้ อาจพิจารณาซื้อคอนโดแมว หากล่องกระดาษลังหลาย ๆ ใบ มีที่นอนหลายชิ้น หรือเสริมชั้นติดกำแพง เพื่อเพิ่มพื้นที่และช่วยลดปัญหาแมวไม่ถูกกัน
7. อื่น ๆ เพิ่มเติม
แมวจะรู้สึกผ่อนคลายเมื่อสถานการณ์รอบตัวอยู่ภายใต้ความควบคุม เจ้าของควรมีแนวทางการจัดการกิจวัตรประจำวันที่แมวสามารถคาดเดาได้ เช่น ให้น้ำให้อาหารเวลาเดิม ทำความสะอาดเวลาเดิม เปิดปิดไฟเวลาเดิมสม่ำเสมอทุก ๆ วัน
พื้นที่เลี้ยงแมวไม่ควรมีเสียงดังเกินกว่า 60 เดซิเบล ควรระมัดระวังการเปิดปิดประตูเสียงดังและควรให้ห้องสำหรับเลี้ยงแมวอยู่ห่างจากเสียงรบกวนมากเท่าที่จะทำได้ เช่น เสียงก่อสร้าง หรือเสียงสุนัขเห่า
กลิ่นก็สามารถทำให้แมวเครียดได้เช่นกัน ควรระมัดระวังกลิ่นสุนัข กลิ่นแมวตัวอื่น แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเคมีสำหรับทำความสะอาดต่าง ๆ เวลาอยู่ใกล้ ๆ แมว
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทความเท่านั้น อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://www.readvpn.com/Topic/Info/de88add9-6966-4da7-9d1a-e85f3b31c993
บทความโดย : สพ.ญ. วรรณิตา จิระสถิตย์วรกุล
สำหรับคุณหมอสัตวแพทย์ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก
ตอนนี้ทาง VPN มีโปรโมชั่นน่าสนใจอยู่นะ
💙 อ่านออนไลน์ จ่ายถูกกว่า -
สำหรับสัตวแพทย์ท่านที่สมัครสมาชิกแบบอ่านออนไลน์ (ไม่รับหนังสือ) จ่ายเพียง 1,000 บาท/ปี เท่านั้น และยังสามารถทำ CE online ในเว็ปไซต์ได้ตามปกติ
💙 อ่านจากเล่ม เน้นสะสม -
สำหรับท่านที่สมัคร/ต่ออายุสมาชิกแบบรับหนังสือ (สามารถใช้งานเว็ปไซต์และทำ CE online ได้ด้วย)
📍 ได้ทำ CE online มากกว่า 40 คะแนน/ปี
📍 ดาวโหลด E-book ไปอ่านได้
📍 ใช้งานเว็ปไซต์ได้เต็มรูปแบบ
📍 E-learning online course
ดูรายละเอียดแพคเกจ
และสมัครออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่ https://www.readvpn.com/VPN/Subscription
หรือสอบถามเพิ่มเติม
add Line : https://lin.ee/v8Ldcyu

17/05/2022

จะทำงานทีไร....ก็โดนน้องแมวยึดคอมทุกทีเลย
ปัญหาน้องแมวกวนใจไม่ยอมให้เราทำงานโดยการเอาตัวมานอนพาดบนคอมบ้างล่ะ มาเดินไปเดินมาบังหน้าจอบ้างล่ะ หรือหนักหน่อยก็นั่งบนคีย์บอร์ดเอาให้มนุษย์รู้กันไปเลยว่าคอมนี้เป็นของเรา เราจะทำอะไรก็ได้ เป็นปัญหาระดับโลกทำเอาเจ้าของน้องแมวหลายท่านคงจะปวดหัวไม่น้อย แต่จะไล่ให้น้องแมวอยู่ไกลๆ มันก็รู้สึกว้าเหง่ยังไงไม่รู้
ดังนั้นถ้ามีวิธีให้เราทำงานแล้วได้ใกล้ชิดกับน้องแมวด้วยก็คงจะเยี่ยมไปเลย
ด้วยเหตุนี้ทางแบรนด์ Bauhutte และ Unihabitat จึงได้ออกแบบเสื้อฮู้ดสวมใส่สบายสำหรับทำงานอยู่บ้านพร้อมกับมีทีเด็ดคือมีช่องกระเป๋าตรงท้องที่ให้น้องแมวสามารถเข้าไปอยู่ได้เพื่อให้เจ้าของทำงานไปได้โดยที่น้องแมวก็อยู่ใกล้ตัวไปด้วย แถมยังได้ใกล้ชิดชวนให้หัวใจนุ่มฟูอีกต่างหาก
โดยเสื้อฮู้ดนี้ถูกตั้งชื่อว่า Meowgaroo Hoodie 2 ซึ่งเป็นการเล่นคำกับคำว่า Kangaroo ที่แปลว่าจิงโจ้ เพราะเสื้อคลุมนี้มีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนกับจิงโจ้นั่นเอง โดยอันนี้เป็นเวอร์ชั่นสองแล้ว ทำให้ดูทันสมัยและมินิมอลมากขึ้นสามารถใส่ได้จริงๆ โดยไม่เคอะเขินมากนัก ต่างจากเวอร์ชั่นแรกที่จะออกแนวการ์ตูนไปซักหน่อย
โดยกระเป๋าใส่แมวตรงท้องของเรานี้ออกแบบมาให้เมื่อใส่น้องแมวเข้าไปแล้วจะมีระบบพยุงอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องใช้มือประคอง ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าน้องแมวล้มคว่ำออกนอกกระเป๋า และมีซิปรูดปิดกระเป๋าให้เป็นเหมือนกับเสื้อฮู้ดธรรมดาเวลาที่ไม่ใส่แมวด้วยก็ได้เหมือนกัน ส่วนด้านในกระเป๋าแมวก็มีผ้าซับในรองอีกชั้นที่สามารถถอดออกมาล้างเพื่อความสะอาดได้ด้วย
โดยเป้าหมายของเสื้อคลุม Meowgaroo Hoodie 2 ทางบริษัทตั้งใจว่าเหมาะสำหรับคนทำงานอยู่บ้านและเกมเมอร์ที่มีแมว เพราะเป็นชุดที่สามารถใส่แล้วเล่นเกมไปพร้อมๆ กับแมวได้เลย หมดปัญหาน้องแมวกวนใจเดินไปเดินมาแถมยังสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้โดยมีน้องแมวให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย
ชุดนี้มีวางขายจริงที่เว็บไซต์แอมะซอน ในราคา 7980 เยน (ประมาณ 2600 บาท) ใครที่สนใจก็ลองสั่งกันได้ แต่เราว่าราคาแพงไปซักหน่อย แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจกับของใช้ในชีวิตประจำวันที่ถูกออกแบบให้เราอยู่ร่วมกับแมวได้ง่ายและมีความสุขมากขึ้น
มาดูกันว่าระหว่างคีย์บอร์ดกับกระเป๋าเสื้อฮู้ดนี่...น้องแมวจะเลือกอะไรกันนะ
อ้างอิงข้อมูล

https://soranews24.com/2021/11/25/japan-doesnt-just-have-a-gamer-hoodie-its-got-a-gamer-hoodie-specially-designed-for-cat-owners/
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

ที่อยู่

2/81 หมู่บ้าน กฤษฎานคร39 ซอย วาสนา5/5 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา
Bangkok
10170

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 20:00
อาทิตย์ 09:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66818238520

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Zocial pet hospital โรงพยาบาลสัตว์โซเชียลผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท


สัตวแพทย์ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด