โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท สาขาทองหล่อ 25 Bangkokheart Animal Hospital

โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท สาขาทองหล่อ 25 Bangkokheart Animal Hospital Bangkokheart สาขา ทองหล่อ 25

"ศูนย์โรคหัวใจ"
(8)

ผศ.สพ.ญ.ดร.นรรฆวี แสงกลับ (อาจารย์เนม)อาจารย์ประจำศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ทอาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา คณ...
03/11/2024

ผศ.สพ.ญ.ดร.นรรฆวี แสงกลับ (อาจารย์เนม)
อาจารย์ประจำศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท
อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปริญญาตรี (เกียรตินิยม) สัตวแพทย์ จุฬาฯ
ปริญญาเอก สรีรวิทยาการสัตว์ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รศ.น.สพ.ดร.อนุศักดิ์ กิจถาวรรัตน์ (อาจารย์แอนดี้)อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา และสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เล็ก หน่วยโ...
02/11/2024

รศ.น.สพ.ดร.อนุศักดิ์ กิจถาวรรัตน์
(อาจารย์แอนดี้)
อาจารย์ประจำภาควิชาสรีรวิทยา
และสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เล็ก หน่วยโรคหัวใจ
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬา
อาจารย์ประจำคลีนิคโรคหัวใจ ของบางกอกฮาร์ท
ปริญญาตรี (เกียรตินิยม) คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
ปริญญาเอก college of veterinary medicine, The Ohio State University, USA
Residency program, The Ohio State University, USA
ได้อนุมัติบัติผู้ชำนาญการสาขาอายุรศาสตร์,
สัตวแพทยสภาฯ
ความเชี่ยวชาญ โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยง
“ ถึงโปรไฟล์จะแน่นขนาดนี้ แต่อาจารย์เป็นกันเองสุดๆ และใช้เวลากับเคสแต่ละเคสอย่างพิถีพิถัน ค่อยๆอธิบายจนเจ้าของเข้าใจ ใครได้เจออาจารย์ต้องประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน”


#โรงพยาบาลสัตว์ #สุนัข #แมว #ทองหล่อ
#ศูนย์โรคหัวใจสัตว์เลี้ยง

ทีมโรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ทขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถทัศนศึกษาและขอร่วม...
01/10/2024

ทีมโรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถทัศนศึกษา
และขอร่วมส่งกำลังใจให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ
รวมถึงครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

ถ่ายพยาธิ...สำคัญไหม ต้องทำหรือเปล่านะการถ่ายพยาธิเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการดูแลสุขภาพของน้องหมา เจ้าของหลายท่านอาจมอง...
30/08/2024

ถ่ายพยาธิ...สำคัญไหม ต้องทำหรือเปล่านะ
การถ่ายพยาธิเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการดูแลสุขภาพของน้องหมา เจ้าของหลายท่านอาจมองข้ามขั้นตอนนี้ไป แต่ความจริงแล้ว การถ่ายพยาธิเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากพยาธิ แต่ยังช่วยให้น้องหมามีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
การถ่ายพยาธิคืออะไร
พยาธิเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายของน้องหมา โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพยาธิเหล่านี้สามารถดูดซึมสารอาหารจากน้องหมา ทำให้น้องหมาขาดสารอาหาร มีน้ำหนักลดลง หรือเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น อาเจียน ท้องเสีย และอ่อนเพลีย การถ่ายพยาธิคือการกำจัดพยาธิเหล่านี้ออกจากร่างกายของน้องหมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว
ควรถ่ายพยาธิบ่อยแค่ไหน
ความถี่ในการถ่ายพยาธิจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพแวดล้อม และสุขภาพของน้องหมา โดยทั่วไปแล้ว ลูกสุนัขควรได้รับการถ่ายพยาธิครั้งแรกเมื่ออายุ 2 สัปดาห์ และหลังจากนั้นทุก 2 สัปดาห์จนกว่าจะถึงอายุ 12 สัปดาห์ จากนั้น ควรถ่ายพยาธิทุก 3 เดือนตลอดช่วงชีวิตของน้องหมา สำหรับสุนัขที่มีอายุแล้ว อาจต้องการการถ่ายพยาธิทุก 6 เดือน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของสัตวแพทย์
โดยมีจากงานวิจัยของ Dr. Michael Dryden นักสัตวแพทย์และศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Kansas State University พบว่าการถ่ายพยาธิในสุนัขที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการแพร่กระจายของพยาธิมาก ควรทำอย่างน้อยทุก 3 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อพยาธิซ้ำซาก ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว .
โดยสรุปแล้วการถ่ายพยาธิเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพของน้องหมา การทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันโรคและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับความถี่ในการถ่ายพยาธิและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับน้องหมาของคุณ เพื่อให้น้องหมาของคุณมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยาวนาน และสามาถนัดหมายถ่ายพยาธิน้องๆ ได้ที่โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขาได้เลยนะ
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

กินยากขนาดนี้...ไปเป็นเชฟเองเลยไหมเชื่อว่าเจ้าของน้องแมวหลายคนคงเคยแอบคิดแบบนี้อยูในใจเมื่อให้อาหารอะไรน้องแมวก็เอาแต่ดม...
28/08/2024

กินยากขนาดนี้...ไปเป็นเชฟเองเลยไหม
เชื่อว่าเจ้าของน้องแมวหลายคนคงเคยแอบคิดแบบนี้อยูในใจเมื่อให้อาหารอะไรน้องแมวก็เอาแต่ดมและไม่ยอมกินซักที โดยเฉพาะเมื่อซื้ออาหารแมวแพงๆ แล้วแมวไม่กินนี่ยิ่งช้ำใจไปอีกหลายเท่าตัว ดังนั้นคราวนี้เราจะแนะนำ 5 เทคนิคสยบปัญาน้องแมวกินยากมาฝากกกันดังนี้เลย
1. เลือกอาหารที่มีคุณภาพสูง
น้องแมวบางตัวมีความต้องการอาหารที่แตกต่างจากแมวทั่วไป การเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความต้องการของน้องแมวจะช่วยกระตุ้นให้แมวของเรากินมากขึ้น อาหารที่มีกลิ่นหอมอร่อยและมีส่วนผสมที่ครบถ้วนจะช่วยดึงดูดใจให้น้องแมวลองชิมและรับประทานอย่างต่อเนื่อง
2. จัดตารางการให้อาหารให้เป็นเวลา
การให้อาหารตามเวลาที่กำหนดไว้จะช่วยสร้างนิสัยการกินที่ดีให้น้องแมว หากคุณให้อาหารไม่เป็นเวลา น้องแมวอาจไม่รู้สึกหิวและไม่สนใจอาหารที่คุณเตรียมไว้ การจัดตารางเวลาให้อาหารที่แน่นอน เช่น เช้าและเย็น จะช่วยให้น้องแมวรู้สึกหิวและพร้อมที่จะกินเมื่อถึงเวลา
3. ลองเปลี่ยนรูปแบบของอาหาร
น้องแมวอาจเบื่อหน่ายกับการกินอาหารแบบเดิมซ้ำๆ คุณสามารถลองเปลี่ยนรูปแบบของอาหาร เช่น จากอาหารเม็ดเป็นอาหารเปียก หรือลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างออกไป การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้อาจช่วยกระตุ้นให้น้องแมวมีความสนใจในอาหารมากขึ้น
4. ใช้อาหารเสริมเพื่อเพิ่มรสชาติ
การเพิ่มอาหารเสริมที่มีรสชาติอร่อยลงในอาหารของน้องแมว เช่น ทูน่าหรือเนื้อไก่ต้มสุก สามารถช่วยเพิ่มความน่ากินให้อาหารหลักได้ การผสมอาหารเสริมในปริมาณเล็กน้อยไม่เพียงแต่ช่วยให้แมวของคุณยอมกินอาหาร แต่ยังช่วยให้ได้สารอาหารเพิ่มเติมที่มีประโยชน์อีกด้วย
5. สร้างบรรยากาศที่สงบเงียบขณะให้อาหาร
แมวเป็นสัตว์ที่ไวต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว การสร้างบรรยากาศที่สงบเงียบขณะให้อาหารจะช่วยให้น้องแมวรู้สึกสบายใจและไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง เช่น เสียงดังหรือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ทำให้แมวของคุณสามารถกินอาหารได้อย่างสงบและมีสมาธิ
ปัญหาแมวกินยากอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเจ้าของ แต่ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง คุณสามารถช่วยให้น้องแมวของคุณกินอาหารได้อย่างเพียงพอและมีความสุขมากขึ้น อย่าลืมที่จะสังเกตพฤติกรรมการกินของน้องแมวอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนเทคนิคตามความเหมาะสม เพื่อให้น้องแมวของคุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีสุขภาพดีอยู่เสมอนั่นเอง และหากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือการเลี้ยงแมว สามารถปรึกษาได้ที่คลินิกแมว โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขาได้เลย
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

ถ้าน้องแมวเดินแปลกๆ อย่าเผลอมองข้ามเด็ดขาดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกในแมวนั้นมักเป็นปัญหาที่หลายคนเผลอมองข้ามในแมว โดยเฉพาะโรค...
26/08/2024

ถ้าน้องแมวเดินแปลกๆ อย่าเผลอมองข้ามเด็ดขาด
ปัญหาเกี่ยวกับกระดูกในแมวนั้นมักเป็นปัญหาที่หลายคนเผลอมองข้ามในแมว โดยเฉพาะโรคข้อเสื่อม ซึ่งอาจทำให้น้องแมวมีการเดินผิดปกติ และที่สำคัญคือเจ้าของหลายคนคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก และกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังนั้นคราวนี้เราจะมาเล่าถึงโรคข้อเสื่อมในแมวเพื่อให้เจ้าของแมวทุกคนรู้จักโรคนี้กันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมกันนะ
โรคข้อเสื่อมในแมวคืออะไร
โรคข้อเสื่อมเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนในข้อเสื่อมสภาพและสลายลง ทำให้เกิดการเจ็บปวดและการเคลื่อนไหวลำบากสำหรับน้องแมว โรคนี้มักเกิดขึ้นในแมวที่มีอายุมาก แต่ก็สามารถพบได้ในแมวที่อายุน้อยกว่าด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในแมวที่มีน้ำหนักเกินหรือมีประวัติการบาดเจ็บที่ข้อ
อาการของโรคข้อเสื่อมในแมว
แม้ว่าโรคข้อเสื่อมจะเป็นภาวะที่เจ็บปวดและทำให้น้องแมวรู้สึกเจ็บบริเวณข้อเข่า แต่แมวเป็นสัตว์ที่มักปกปิดอาการเจ็บป่วยของตนเอง ดังนั้น การสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงโรคข้อเสื่อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอาการที่คุณควรสังเกตมีดังนี้
1. การเดินที่เปลี่ยนไป: น้องแมวอาจเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้นหรือแสดงอาการเดินขัดๆ
2. ความไม่อยากกระโดดหรือปีนป่าย: แมวที่เคยชอบกระโดดขึ้นที่สูงอาจเริ่มหลีกเลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้
3. การนั่งหรือนอนนานกว่าปกติ: แมวที่มีอาการข้อเสื่อมมักจะนั่งหรือนอนมากขึ้น เนื่องจากความเจ็บปวดเมื่อเคลื่อนไหว
4. การแสดงอาการเจ็บเมื่อถูกสัมผัส: แมวอาจมีอาการเจ็บปวดเมื่อคุณสัมผัสบริเวณที่มีปัญหา เช่น ข้อขาหรือสะโพก
วิธีการรักษาและดูแลโรคข้อเสื่อมในแมว
1. การใช้ยา: สัตวแพทย์อาจแนะนำการใช้ยาบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบเพื่อช่วยให้น้องแมวรู้สึกสบายขึ้น ยาเหล่านี้ควรใช้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เท่านั้น
2. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม: คุณสามารถช่วยน้องแมวด้วยการทำให้สิ่งแวดล้อมในบ้านสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น การจัดที่นอนที่นุ่มสบาย หรือการทำบันไดเล็กๆ เพื่อให้น้องแมวขึ้นที่สูงได้ง่ายขึ้น
3. การควบคุมน้ำหนัก: แมวที่มีน้ำหนักเกินจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคข้อเสื่อมมากขึ้น ดังนั้นการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดภาระที่ข้อของน้องแมว
4. การใช้อาหารเสริม: ในบางกรณี สัตวแพทย์อาจแนะนำการใช้อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของกลูโคซามีนหรือคอนดรอยตินซัลเฟต ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนและลดอาการเจ็บปวดจากโรคข้อเสื่อม
แม้ว่าโรคข้อเสื่อมจะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่การดูแลสุขภาพของน้องแมวตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น การให้อาหารที่มีคุณภาพ การควบคุมน้ำหนัก และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้น้องแมวมีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดี
ท้ายที่สุดแล้ว อย่าลืมว่าน้องแมวเป็นสัตว์ที่ซ่อนอาการเจ็บปวดได้ดี หากคุณสังเกตเห็นอาการที่บ่งบอกถึงปัญหาทางกระดูกและข้อ อย่ารอช้าที่จะพาน้องแมวมาตรวจที่คลินิกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้น้องแมวของคุณกลับมาหายดีและอยู่ด้วยกันกับเราไปอีกนานๆ
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

อาหารเป็นพิษ...ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงเชื่อว่าเราคงอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับภาวะอาหารเป็นพิษในคน แต่น้อยคนนักท...
23/08/2024

อาหารเป็นพิษ...ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับสัตว์เลี้ยง
เชื่อว่าเราคงอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับภาวะอาหารเป็นพิษในคน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงของเราก็สามารถเจอกับภาวะนี้ได้เช่นกัน และเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจทำให้น้องๆ เสียชีวิตได้เลยหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที
ภาวะอาหารเป็นพิษคืออะไร
ภาวะอาหารเป็นพิษสำหรับสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นเมื่อพวกเขากินอาหารหรือสารเคมีที่มีสารพิษเข้าไป ซึ่งอาจเกิดจากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย, รา, สารเคมี, หรือแม้กระทั่งอาหารที่เป็นพิษสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เช่น ช็อกโกแลต, องุ่น, หอมใหญ่ หรือกระเทียม สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายระบบย่อยอาหาร, ตับ, ไต หรือแม้กระทั่งระบบประสาทของสัตว์เลี้ยงได้
อาการของภาวะอาหารเป็นพิษในสัตว์เลี้ยง
อาการของภาวะอาหารเป็นพิษในสัตว์เลี้ยงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ โดยอาการที่พบได้บ่อยที่สุดคือ:
- อาเจียน: เป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาหารเป็นพิษ พวกเขาจะพยายามขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ท้องเสีย: อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นพร้อมกับการอาเจียนเป็นสัญญาณชัดเจนของอาหารเป็นพิษ
- น้ำลายไหลมากผิดปกติ: เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการที่ร่างกายพยายามขับสารพิษออก
- ซึม: สัตว์เลี้ยงของคุณอาจดูซึม อ่อนแรง ไม่อยากเล่น หรือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- ชักหรือกล้ามเนื้อกระตุก: หากสารพิษมีผลกระทบต่อระบบประสาท สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการชักหรือกล้ามเนื้อกระตุก
- เหงือกสีซีดหรือเหลือง: บ่งบอกถึงปัญหาของตับหรือการขาดออกซิเจนในเลือด
- มีการดื่มน้ำและปัสสาวะที่ผิดปกติ: สัตว์เลี้ยงอาจมีการดื่มน้ำมากหรือน้อยผิดปกติ รวมถึงปัสสาวะบ่อยหรือไม่ปัสสาวะเลย
การป้องกันและการดูแล
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันภาวะอาหารเป็นพิษในสัตว์เลี้ยงคือการระมัดระวังในการให้อาหาร ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงอย่างเด็ดขาด และต้องมั่นใจว่าอาหารที่ให้กับสัตว์เลี้ยงนั้นสะอาดและปราศจากสารพิษ
หากคุณสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจมีภาวะอาหารเป็นพิษ อย่ารอช้า! ควรพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์ทันที การรักษาภาวะอาหารเป็นพิษในสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ อาจต้องมีการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ, การใช้ยาต้านพิษ, หรือการล้างท้องเพื่อขับสารพิษออก
ภาวะอาหารเป็นพิษในสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาการอาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต การระมัดระวังในการให้อาหารและการสังเกตอาการผิดปกติของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถป้องกันและดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ปลอดภัยจากอันตรายที่ไม่คาดฝันได้ โดยหากน้องๆ มีอาการผิดปกติอย่าลืมรีบพามาตรวจรักษาที่คลินิกฉุกเฉินโรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขา ได้เลย เรามีทีมคุณหมอพร้อมช่วยเหลือน้องๆ อย่างเต็มที่
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

เรื่องโรคหัวใจน้อง...ขอให้ไว้ใจบางกอกฮาร์ทโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยมากๆ ในน้องหมาน้องแมวที่มีอ...
21/08/2024

เรื่องโรคหัวใจน้อง...ขอให้ไว้ใจบางกอกฮาร์ท
โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยมากๆ ในน้องหมาน้องแมวที่มีอายุมาก แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะศูนย์โรคหัวใจสัตว์เลี้ยงครบวงจร โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท พร้อมให้คำปรึกษา ตรวจโรคหัวใจ และรักษาโรคหัวใจ โดยคุณหมอด้านโรคหัวใจโดยเฉพาะ
ตรวจโรคหัวใจ...ทำไมต้องตรวจที่บางกอกฮาร์ท
1. นัดคิวง่าย มีคุณหมอโรคหัวใจลงตรวจตลอดทั้งสัปดาห์ : หมดปัญหานัดคิวยากหรือคุณหมอไม่มีคิว เพราะที่บางกอกฮาร์ทเรามีคุณหมอและอาจารย์หมอโรคหัวใจลงตรวจตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมตรวจหัวใจน้องๆ เสมอ
2. มีเคสให้ความไว้วางใจกว่า 3,000 ตัว : เชื่อมั่นในประสบการณ์ตรวจและรักษาโรคหัวใจสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน การันตีด้วยเจ้าของน้องๆ ให้ความไว้วางใจในการรักษามากกว่า 3000 ตัวแล้ว
3. อุปกรณ์การตรวจครบถ้วนและทันสมัย : พร้อมตรวจรักษาโรคหัวใจครบทุกรูปแบบด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยทั้ง เอกซเรย์ดิจิตอล เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) หรือเครื่องเอคโค่หัวใจ (Echocardiography) รวมไปถึงการผ่าตัดและติดตั้ง Holter Monitor ในสัตว์เลี้ยง
4. พร้อมตรวจโรคอื่นๆ ครบจบในที่เดียว : ไม่ใช่แค่โรคหัวใจ แต่โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ทยังมีคลินิกแผนกต่างๆ ที่สามารถรักษาโรคได้อย่างครบวงจร มาที่เดียวจบทุกปัญหารักษาได้ทุกโรคกันไปเลย
5. เดินทางสะดวก จอดรถสบาย : หมดปัญหาไม่มีที่จอดรถ เพราะเรามีที่จอดรถกว้างขวางแม้อยู่ใจกลางทองหล่อ และมีถึง 2 สาขา คือ สาขาพระราม 5 และทองหล่อ 25 สามารถเลือกเข้าได้ตามที่เจ้าของทุกท่านสะดวกได้เลย
เพราะโรคหัวใจรักษาได้....ที่บางกอกฮาร์ท
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

ทำไมน้องหมาบางตัวตาถึงเป็นฝ้าขาวๆ เจ้าของน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาสูงอายุนั้นอาจจะเจอกับปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยนั่นก็คือน้อ...
20/08/2024

ทำไมน้องหมาบางตัวตาถึงเป็นฝ้าขาวๆ
เจ้าของน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาสูงอายุนั้นอาจจะเจอกับปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยนั่นก็คือน้องหมาบางตัวมีตาเป็นฝ้าสีขาวๆ ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคต้อกระจก โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้การมองเห็นของน้องหมาลดลง แต่ยังอาจทำให้เกิดปัญหาต่อการเลี้ยงของเจ้าของได้ด้วย ดังนั้นการรู้จักอาการและวิธีการรักษาโรคต้อกระจกในสุนัขจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของทุกคนควรรู้ และในคราวนี้เราจะมาเล่าถึงโรคต้อกระจกในสุนัขกัน
อาการของโรคต้อกระจกในสุนัข
1. ตาขุ่นหรือมีฝ้าสีขาวขึ้นที่เลนส์ตา: นี่คืออาการที่เห็นได้ชัดที่สุด เมื่อต้องมองตาของน้องหมา คุณอาจสังเกตเห็นว่าตาของเขาเริ่มขุ่นหรือมีสีขาวขึ้นแทนที่จะใสเป็นปกติ
2. การมองเห็นลดลง: น้องหมาอาจเริ่มมีปัญหาในการมองเห็น เช่น ชนสิ่งกีดขวาง หรือเดินไม่ตรงเส้นทางเดิมที่เคยเดินได้โดยไม่มีปัญหา
3. พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป: น้องหมาอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่ปกติ เช่น รู้สึกหงุดหงิด กลัว หรือวิตกกังวลเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ หรือเมื่อมีแสงจ้าส่องเข้าตา
4. การหลีกเลี่ยงการไปที่ต่างๆ ที่เคยไปบ่อยๆ: น้องหมาอาจหลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได หรือสถานที่ที่มีความซับซ้อนเนื่องจากการมองเห็นที่ลดลง
วิธีการรักษาโรคต้อกระจกในสุนัข

1. การผ่าตัดเลนส์ตา: วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการผ่าตัดเลนส์ตาที่ขุ่นออกแล้วแทนที่ด้วยเลนส์เทียม การผ่าตัดนี้จะช่วยฟื้นฟูการมองเห็นของน้องหมาได้เกือบทั้งหมด แต่ต้องทำโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคตา
2. การใช้ยาหยอดตา: ในกรณีที่ต้อกระจกยังไม่รุนแรง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดการอักเสบและชะลอการเจริญเติบโตของต้อกระจก แต่ยาหยอดตาไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้
3. การดูแลสุขภาพทั่วไปของน้องหมา: การดูแลสุขภาพทั่วไปของน้องหมา เช่น การควบคุมโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก รวมถึงการให้อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกและช่วยให้น้องหมามีสุขภาพตาที่ดี
การป้องกันโรคต้อกระจกในสุนัข
แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันโรคต้อกระจกได้ทั้งหมด แต่การดูแลสุขภาพทั่วไปและการตรวจสุขภาพตาของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติทางตาของน้องหมา อย่ารอช้าที่จะพาเขาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คและรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม โดยสามารถปรึกษาได้ที่คลินิกโรคตา โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขาได้เลย
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

เจอคนแปลกหน้าทีไร...ขอเห่าซักหน่อยก็แล้วกันสำหรับเจ้าของน้องหมาหลายท่าน เสียงเห่าที่ไม่หยุดหย่อนของน้องหมาโดยเฉพาะน้องหม...
19/08/2024

เจอคนแปลกหน้าทีไร...ขอเห่าซักหน่อยก็แล้วกัน
สำหรับเจ้าของน้องหมาหลายท่าน เสียงเห่าที่ไม่หยุดหย่อนของน้องหมาโดยเฉพาะน้องหมาไซส์จิ๋วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าเป็นปัญหาที่ทั้งน่ารำคาญและกังวลใจ บางครั้งก็อาจสร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนบ้านอีกด้วย การฝึกให้น้องหมาเลิกเห่าเมื่อต้องเจอคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นและสามารถทำได้ด้วยการฝึกที่ถูกวิธี
ทำไมเจ้าตูบถึงเห่าเมื่อต้องเจอคนแปลกหน้า
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการฝึก เราควรทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมน้องหมาถึงเห่าเมื่อเห็นคนแปลกหน้า เหตุผลหลัก ๆ ได้แก่:
อยากปกป้องเจ้านาย: น้องหมาเห็นบ้านและครอบครัวของเราเป็นพื้นที่ส่วนตัว เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามา พวกเขาอาจมองว่าเป็นภัยคุกคาม
กลัวหรือความวิตกกังวล: น้องหมาบางตัวเห่าเพราะรู้สึกกลัวหรือไม่มั่นคงเมื่อเจอคนที่ไม่คุ้นเคย
เรียกร้องความสนใจ: บางครั้งน้องหมาอาจเห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเรา หรือเพื่อขอสิ่งที่ต้องการ

วิธีฝึกให้น้องหมาเลิกเห่าเมื่อต้องเจอคนแปลกหน้า
1.สร้างความคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า: เริ่มต้นด้วยการค่อย ๆ ทำให้น้องหมาคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า โดยอาจจะให้เพื่อนหรือคนรู้จักมาที่บ้านและใช้เวลาร่วมกับน้องหมาในสถานการณ์ที่ไม่กดดัน เช่น ให้เขานั่งคุยกับคุณโดยไม่สนใจน้องหมา เมื่อเวลาผ่านไป น้องหมาจะรู้สึกคุ้นเคยและไม่มองว่าคนแปลกหน้าเป็นภัยคุกคาม

2. ฝึกคำสั่ง “เงียบ”: คำสั่ง “เงียบ” เป็นหนึ่งในคำสั่งที่สำคัญและมีประโยชน์ เริ่มต้นด้วยการสอนน้องหมาให้รู้จักคำสั่งนี้ในสถานการณ์ที่เงียบสงบ เช่น เมื่อพวกเขาเห่าเบา ๆ ให้คุณใช้คำสั่ง “เงียบ” พร้อมกับใช้มือแตะที่จมูกหรือหน้าอกของเขาเบา ๆ ถ้าน้องหมาหยุดเห่า ให้คุณให้รางวัลหรือคำชมเชย ทำซ้ำจนกว่าน้องหมาจะสามารถทำตามคำสั่งนี้ได้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
3. สร้างความมั่นใจให้กับน้อง: น้องหมาที่เห่าเพราะความกลัวหรือความวิตกกังวลจำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างความมั่นใจ ลองพาน้องหมาไปในสถานที่ใหม่ ๆ ที่มีคนมาก เช่น สวนสาธารณะ หรือที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อให้น้องหมาได้ปรับตัวและเรียนรู้ว่าคนแปลกหน้าไม่ได้เป็นภัย
4. ถ้าน้องทำดี ต้องให้รางวัล: เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านแล้วน้องหมาไม่เห่า หรือหยุดเห่าตามคำสั่งของคุณ ให้รางวัลเขาด้วยขนมหรือการลูบหัวเบา ๆ เพื่อเสริมแรงให้น้องหมาเรียนรู้ว่าการไม่เห่านั้นเป็นสิ่งที่ดี
5. ปรับสภาพแวดล้อม: ในบางกรณี การปรับสภาพแวดล้อมสามารถช่วยลดการเห่าของน้องหมาได้ เช่น ถ้าน้องหมาเห่าเมื่อเห็นคนเดินผ่านหน้าบ้าน คุณอาจต้องปิดม่านหรือทำให้พื้นที่นั้นไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ เพื่อให้เขาไม่เห็นสิ่งที่กระตุ้นให้เห่า
การฝึกให้น้องหมาเลิกเห่าเมื่อต้องเจอคนแปลกหน้าอาจต้องใช้เวลาและความอดทน แต่เมื่อคุณใช้วิธีการที่ถูกต้องและทำอย่างสม่ำเสมอ น้องหมาจะค่อย ๆ เรียนรู้และพฤติกรรมการเห่าจะลดลง จนในที่สุดพวกเขาจะกลายเป็นน้องหมาที่สงบและมีความมั่นใจเมื่อเผชิญกับคนแปลกหน้า
สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและไม่ใช้วิธีการที่รุนแรง เพราะน้องหมาจะเรียนรู้และตอบสนองต่อการฝึกที่เป็นบวกได้ดีที่สุด และในที่สุดทั้งคุณและน้องหมาจะมีความสุขมากขึ้นในทุก ๆ สถานการณ์ โดยหากมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมน้องหมาสามารถปรึกษากับทีมคุณหมอของโรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้งสองสาขาได้เลยนะ
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

แค่ดูเหงือกก็รู้สุขภาพน้องแมว !ใครจะไปคิดว่าสีเหงือกของน้องแมวจะสามารถบอกสุขภาพของเขาได้ แต่ในความเป็นจริง สีของเหงือกนั...
16/08/2024

แค่ดูเหงือกก็รู้สุขภาพน้องแมว !
ใครจะไปคิดว่าสีเหงือกของน้องแมวจะสามารถบอกสุขภาพของเขาได้ แต่ในความเป็นจริง สีของเหงือกนั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าแมวของคุณกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพอะไรอยู่หรือไม่ ลองมาเรียนรู้กันว่าการเช็กสุขภาพน้องแมวจากสีเหงือกนั้นมีวิธีการอย่างไรบ้าง
เหงือกของแมวที่สุขภาพดีควรมีสีชมพูสดใสและดูชุ่มชื้น แต่หากคุณพบว่าเหงือกของแมวมีสีที่ผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ มาดูกันว่าแต่ละสีเหงือกนั้นหมายความว่าอย่างไร
1. เหงือกสีชมพูซีด: เหงือกที่มีสีซีดหรือขาวเกินไปอาจบ่งบอกถึงภาวะโลหิตจาง ซึ่งอาจเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก หรือมีปัญหากับการผลิตเม็ดเลือดแดง หากพบว่ามีสีเหงือกซีด ควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเลือด
2. เหงือกสีแดงเข้ม: เหงือกที่มีสีแดงเข้มเกินไปอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือการอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากโรคเหงือกอักเสบ การติดเชื้อในช่องปาก หรือการอักเสบของฟัน นอกจากนี้ การมีเหงือกสีแดงเข้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย
3. เหงือกสีเหลือง: หากเหงือกของแมวมีสีเหลือง นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น โรคตับอักเสบหรือการทำงานของตับที่ผิดปกติ การพบเหงือกสีเหลืองจำเป็นต้องพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
4. เหงือกสีม่วงหรือน้ำเงิน: เหงือกที่มีสีม่วงหรือน้ำเงินเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการขาดออกซิเจนในเลือด ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาทางเดินหายใจหรือโรคหัวใจ นี่เป็นอาการที่ร้ายแรงและควรพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที
นอกจากการสังเกตสีเหงือกแล้ว การตรวจเหงือกของแมวอย่างสม่ำเสมอยังช่วยให้คุณสามารถจับตาดูปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เช่น การมีแผลเหงือก การอักเสบ หรือการมีคราบหินปูนสะสม ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมและสุขภาพที่รุนแรงขึ้นได้
การดูแลสุขภาพช่องปากของน้องแมวไม่เพียงแค่ช่วยให้เขามีเหงือกที่สุขภาพดี แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของเขาด้วย ควรพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปาก เช่น การแปรงฟันให้แมวและการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่เหมาะสม และหากน้องแมวมีสีเหงือกที่ผิดปกติอย่าลืมรีบพามาตรวจกับคลินิกช่องปากและฟัน โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขาได้เลยน
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

ถ้าน้องหมาหอบหายใจ...อย่าปล่อยไว้เด็ดขาดโรคหลอดลมอักเสบในสุนัขเป็นปัญหาที่เจ้าของน้องหมาหลายคนอาจไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้...
14/08/2024

ถ้าน้องหมาหอบหายใจ...อย่าปล่อยไว้เด็ดขาด
โรคหลอดลมอักเสบในสุนัขเป็นปัญหาที่เจ้าของน้องหมาหลายคนอาจไม่รู้จัก หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่โรคนี้สามารถสร้างความทรมานให้กับสุนัขของคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณเริ่มสังเกตเห็นว่าน้องหมาของคุณหายใจลำบาก ไอแห้ง ๆ หรือหอบบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเขากำลังป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบอยู่
โรคหลอดลมอักเสบในสุนัขเป็นโรคที่มีการอักเสบของหลอดลม ซึ่งทำให้สุนัขมีอาการไอเรื้อรัง หายใจลำบาก และบางครั้งอาจมีอาการหอบหืดร่วมด้วย สาเหตุของโรคนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ฝุ่นละอองหรือสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการสูบบุหรี่ของเจ้าของที่ทำให้สุนัขได้รับควันบุหรี่ทางอ้อม
ก่อนจะลงรายละเอียดเรื่องการรักษา เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของโรคหลอดลมอักเสบในสุนัขกันก่อนดีกว่า
อาการของโรคหลอดลมอักเสบในสุนัขที่พบได้บ่อย ๆ ได้แก่
- ไอเรื้อรัง ซึ่งอาจจะไอแห้ง ๆ หรือมีเสมหะร่วมด้วย
- หายใจลำบาก หอบเหนื่อย โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกาย
- หายใจเสียงดัง หรือหายใจมีเสียงหวีด
- อาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย เนื่องจากการไอที่รุนแรง
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Veterinary Internal Medicine ปี 2021 นักวิจัยได้ทำการศึกษาสุนัขที่มีอาการไอเรื้อรังจำนวน 200 ตัว พบว่าสุนัขถึง 30% มีภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส สุนัขที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองหรือสารก่อภูมิแพ้สูงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงขึ้น
การรักษาโรคหลอดลมอักเสบในสุนัขมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปการรักษาจะประกอบด้วย
- การใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัส เพื่อรักษาการติดเชื้อ
- การใช้ยาขยายหลอดลม เพื่อช่วยให้สุนัขหายใจสะดวกขึ้น
- การใช้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบของหลอดลม
- การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งที่ทำให้สุนัขแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่
นอกจากการรักษาด้วยยา เจ้าของสุนัขควรให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมของสุนัข เช่น การทำความสะอาดบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่น การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ใกล้สุนัข และการพาสุนัขไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
โรคหลอดลมอักเสบในสุนัขอาจเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด หากคุณสงสัยว่าสุนัขของคุณอาจมีอาการดังกล่าว ควรพามาตรวจกับพวกเราที่โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท ซึ่งเรามีคลินิกเฉพาะทางโรคระบบทางเดินหายใจ มีสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมตรวจเพื่อให้น้องหมาของคุณได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

น้องแมวเป็นโรคหัวใจ...แต่ทำไมเจ้าของถึงไม่รู้เลยเจ้าของแมวส่วนใหญ่อาจคิดว่าน้องแมวของตนแข็งแรงและร่าเริงตามปกติ แต่รู้หร...
13/08/2024

น้องแมวเป็นโรคหัวใจ...แต่ทำไมเจ้าของถึงไม่รู้เลย
เจ้าของแมวส่วนใหญ่อาจคิดว่าน้องแมวของตนแข็งแรงและร่าเริงตามปกติ แต่รู้หรือไม่ว่าแมวที่ดูปกติสุขจริง ๆ อาจกำลังเผชิญกับโรคหัวใจที่ไม่แสดงอาการชัดเจน งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าเจ้าของแมวจำนวนมากไม่ทราบว่าแมวของตนกำลังป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่ แต่ก่อนจะไปดูรายละเอียดของงานวิจัย เรามาทำความรู้จักโรคหัวใจในแมวกันก่อนดีกว่า
โรคหัวใจในแมวแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ที่พบมากที่สุดคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic Cardiomyopathy หรือ HCM) ซึ่งเป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจหนากว่าปกติ ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมา เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
แม้ว่าโรคหัวใจในแมวมักไม่แสดงอาการในช่วงแรก แต่เมื่อโรคพัฒนาไปถึงขั้นรุนแรง แมวอาจมีอาการหอบเหนื่อย ซึม เบื่ออาหาร หรือหายใจลำบาก ซึ่งเป็นอาการที่เจ้าของมักไม่ทันสังเกตเห็นหรือเข้าใจว่าเป็นอาการของโรคหัวใจ
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Veterinary Cardiology เมื่อปี 2022 นักวิจัยได้ทำการสำรวจแมวบ้านจำนวน 1,000 ตัว พบว่า 15% ของแมวเหล่านี้มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา แต่มีเพียง 5% ของเจ้าของที่ทราบว่าแมวของตนมีภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าแมวที่มีอายุมากกว่า 7 ปี หรือแมวพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แมวพันธุ์ Maine C**n และ Ragdoll มีโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจสูงกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เจ้าของแมวไม่ทราบว่าแมวของตนป่วยเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากอาการเริ่มแรกของโรคมักไม่ชัดเจนและอาจเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นตามวัยของแมว นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพแมวอย่างละเอียดเพื่อหาภาวะโรคหัวใจมักไม่เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพประจำปี ทำให้เจ้าของไม่ได้นำแมวไปตรวจคัดกรองโรคหัวใจ
เพื่อป้องกันและดูแลแมวที่อาจมีภาวะโรคหัวใจ เจ้าของควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพแมวอย่างละเอียดและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแมวที่มีอายุมากกว่า 7 ปี หรือแมวพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองโรคหัวใจอย่างน้อยปีละครั้ง
แม้ว่าโรคหัวใจในแมวจะเป็นภาวะที่น่ากังวล แต่หากตรวจพบได้เร็วและได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม แมวของเรายังสามารถมีชีวิตที่สุขภาพดีและยืนยาวได้ อย่าลืมพาน้องแมวมาตรวจกับศูนย์โรคหัวใจสัตว์เลี้ยงครบวงจร โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท ทั้ง 2 สาขา เพื่อตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจอย่างเหมาะสมด้วยนะ
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

เชื้อรา...โรคผิวหนังที่คู่กับหน้าฝนหน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่ความชื้นสูงและสภาพอากาศเปียกชื้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำ...
09/08/2024

เชื้อรา...โรคผิวหนังที่คู่กับหน้าฝน
หน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่ความชื้นสูงและสภาพอากาศเปียกชื้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา โรคผิวหนังจากเชื้อราในสุนัขและแมวจึงเป็นปัญหาที่พบบ่อยในช่วงเวลานี้ หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้น้องหมาและน้องแมวเกิดความเจ็บป่วยและแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย
สาเหตุของโรคผิวหนังจากเชื้อรา
โรคผิวหนังจากเชื้อราเกิดจากเชื้อรา เช่น Dermatophytes ซึ่งสามารถติดเชื้อได้ทั้งในสุนัขและแมว สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคนี้มีดังนี้
- ความชื้นสูง: ความชื้นในอากาศที่สูงในช่วงหน้าฝนช่วยให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่าย
- การสัมผัสเชื้อรา: สัตว์เลี้ยงอาจติดเชื้อจากการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อรา หรือการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ
- สุขอนามัยไม่ดี: การไม่รักษาความสะอาดของพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
อาการของโรคผิวหนังจากเชื้อรา
- อาการคัน: สัตว์เลี้ยงอาจคันและเลียขนบ่อยๆ
- ผื่นแดง: อาจมีผื่นแดงหรือจุดด่างบนผิวหนัง
- ขนร่วงเป็นวง: ขนของสัตว์เลี้ยงอาจร่วงเป็นวงหรือเป็นแผลเปียก
- ผิวหนังลอก: ผิวหนังอาจลอกหรือเกิดแผลที่มีหนอง
การรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา
การใช้ยา: การใช้ยาต้านเชื้อราที่มีทั้งแบบทาและแบบกิน เพื่อกำจัดเชื้อรา
การรักษาสุขอนามัย: การรักษาความสะอาดของพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ และการอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของสารต้านเชื้อรา
การกำจัดแหล่งเชื้อรา: กำจัดเชื้อราในพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ โดยการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
การป้องกันโรคผิวหนังจากเชื้อรา
- รักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดของพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่และอุปกรณ์ที่ใช้
- การอาบน้ำเป็นประจำ: อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของสารต้านเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ: หากพบว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการของโรคผิวหนังจากเชื้อรา ควรแยกสัตว์เลี้ยงออกจากสัตว์อื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
โรคผิวหนังจากเชื้อราเป็นปัญหาที่พบบ่อยในช่วงหน้าฝน ความชื้นสูงและการสัมผัสเชื้อราสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเกิดโรคได้ การรักษาความสะอาดและการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงอย่างถูกวิธีสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้ และหากน้องๆ มีอาการคัน หรือผิวหนังผิดปกติ อย่าลืมพามาตรวจกับคลินิกโรคผิวหนังโรงพยาบาสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขานะ
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) เป็นหนึ่งในโรคกระดูกที่พบบ่อยในน้องหมาจิ๋ว โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ป...
08/08/2024

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation) เป็นหนึ่งในโรคกระดูกที่พบบ่อยในน้องหมาจิ๋ว โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน ยอร์กเชียร์ เทอร์เรีย และพุดเดิ้ล โรคนี้เกิดจากการที่กระดูกสะบ้าหรือกระดูกที่เข่าหลุดออกจากตำแหน่งปกติ ทำให้น้องหมาเกิดอาการเจ็บปวดและเดินไม่ปกติ โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อย ดังนั้นคราวนี้เราจะมาเล่าถึงโรคนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกัน
สาเหตุของโรคสะบ้าเคลื่อน
1. พันธุกรรม: น้องหมาจิ๋วบางพันธุ์มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้สูงเนื่องจากพันธุกรรม
2. การเจริญเติบโตผิดปกติ: กระดูกขาหรือข้อเข่าเจริญเติบโตผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้สะบ้าเคลื่อนง่ายขึ้น
3. การบาดเจ็บต่างๆ : ถ้าน้องหมาได้รับบาดเจ็บที่เข่าหรือขาอาจทำให้สะบ้าเคลื่อนได้
อาการของโรคสะบ้าเคลื่อน
- เดินผิดปกติ: น้องหมาอาจเดินกระเผลกหรือขาโค้ง ๆ
- สะบ้าเคลื่อน: สามารถสังเกตเห็นสะบ้าที่เคลื่อนไปจากตำแหน่งปกติ
- แสดงอาการเจ็บปวด: น้องหมาอาจแสดงอาการเจ็บปวด ไม่ยอมใช้ขาข้างที่เจ็บ หรือไม่อยากเคลื่อนไหว

การรักษาโรคสะบ้าเคลื่อน
- การใช้ยา: สำหรับอาการเบา ๆ การใช้ยาลดการอักเสบและยาแก้ปวดสามารถช่วยบรรเทาอาการได้
- การกายภาพบำบัด: การกายภาพบำบัดสามารถช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและลดความเจ็บปวด
- การผ่าตัด: ในกรณีที่รุนแรง อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อปรับตำแหน่งของสะบ้าให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติ
การป้องกันโรคสะบ้าเคลื่อน
- ควบคุมน้ำหนัก: รักษาน้ำหนักของน้องหมาให้เหมาะสมเพื่อลดแรงกดที่กระดูกเข่า
- การออกกำลังกาย: ให้โอกาสน้องหมาได้ออกกำลังกายเบา ๆ และสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวม
- การหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ: หลีกเลี่ยงการให้เกิดการบาดเจ็บที่เข่าหรือขา
โรคสะบ้าเคลื่อนเป็นโรคที่พบบ่อยในน้องหมาจิ๋ว และอาจทำให้น้องหมาเกิดอาการเจ็บปวดและเดินไม่ปกติ การดูแลน้องหมาอย่างเหมาะสม การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และการป้องกันการบาดเจ็บสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้ หากพบว่าน้องหมามีอาการขาเจ็บหรือเดินแปลกๆ อย่าปล่อยไว้ รีบพามาตรวจกับคลินิกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ททั้ง 2 สาขาได้เลย
#เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม / จองคิวล่วงหน้า
บางกอกฮาร์ท พระราม 5
Tel : 02-034-1881
Mobile : 086-384-0846
Line :
https://line.me/R/ti/p/%40bangkokheartpet
Location : https://goo.gl/maps/JrLeBTHSpBQ2
บางกอกฮาร์ท ทองหล่อ25
Line :
https://lin.ee/BifCuRW
Location :
https://goo.gl/maps/WpX2Hj7A3MQoFb89A
Tel : 0915165353

ที่อยู่

48 ซอยพร้อมพรรค แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
Bangkok
10110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 21:00
อังคาร 09:00 - 21:00
พุธ 09:00 - 21:00
พฤหัสบดี 09:00 - 21:00
ศุกร์ 09:00 - 21:00
เสาร์ 09:00 - 21:00
อาทิตย์ 09:00 - 21:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท สาขาทองหล่อ 25 Bangkokheart Animal Hospitalผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง โรงพยาบาลสัตว์บางกอกฮาร์ท สาขาทองหล่อ 25 Bangkokheart Animal Hospital:

แชร์

ประเภท


สัตวแพทย์ อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด