PawPro Thailand ทางเลือกใหม่เพื่อการรักษาโรค FIPในแมว

PawPro Thailand ทางเลือกใหม่เพื่อการรักษาโรค FIPในแมว ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก PawPro Thailand ทางเลือกใหม่เพื่อการรักษาโรค FIPในแมว, บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง, Bangkok.

วิธีการใช้ GS-441524 GS-441524 ของ Pawpro Thailand ถูกวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากนานาประเทศ แลปที่ได้รับรองมาตรฐาน ...
27/09/2021

วิธีการใช้ GS-441524
GS-441524 ของ Pawpro Thailand ถูกวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากนานาประเทศ แลปที่ได้รับรองมาตรฐาน ซึ่งผลิตขึ้นมาใช้กับแมวโดยเฉพาะ ดังนั้นเจ้าของแมวสามารถไว้วางใจในผลิตภันฑ์ของ Pawpro Thailand นั้นปลอดภัยสำหรับน้องแมวแน่นอน โดยมีอัตราประสบความสำเร็จสูงสุดถึง 90 % ด้วยวิธีการดังนี้
1.ทำความสะอาดเข็มฉีดยาด้วยแอลกอฮอล์ทางการแพทย์
2.วางแมวไว้บนโต๊ะอาหารหรือที่ๆได้ระดับตามความถนัด
3.จับแมวไว้ให้มั่นบริเวณท้ายทอยและขาคู่หลัง โดยให้แมวควั่มหน้าตามภาพ
4.ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยแอลกอฮอล์ทางการแพทย์
5.ดึงหนังแมวขึ้นด้วยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางคล้ายการหยิบจับ
6.แทงเข็มไปใต้ผิวหนังตามแนวนอนของผิวหนัง โดยแทงเข้าไปครึ่งหนึ่งของความยาวเข็ม ระวังอย่าให้ทะลุในกรณีที่น้องแมวผอม
7.จบการฉีดยาด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดด้วยแอลกอฮอล์เช่นเดิม
PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

ตัวอย่างน้ำในช่องท้องของแมวที่เป็นโรค FIPอย่างที่ทราบกันว่าเชื้อโคโรน่าไวรัสในแมวส่วนมากมักทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะ...
22/09/2021

ตัวอย่างน้ำในช่องท้องของแมวที่เป็นโรค FIP
อย่างที่ทราบกันว่าเชื้อโคโรน่าไวรัสในแมวส่วนมากมักทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะในช่องท้อง ช่องอก ตา และระบบประสาท มักพบในแมวที่เลี้ยงอย่างหนาแน่นในพื้นที่จำกัด โดยอาการเบื้องต้นคือ มีไข้ ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องกาง หายใจลำบาก อาเจียน และอาการอื่นจำพวก ดีซ่าน ท้องมาน ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องโต สามารถวินิจฉัยวิเคราะห์อาการได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะการตรวจน้ำในช่องท้อง โดยลักษณะน้ำช่องท้องของแมวที่อาการเป็นโรค FIP คือน้ำมีสีเหลืองใสถึงเหลืองเข้ม เป็นเมือก ค่าโปรตีนอยู่ที่9-9.8 กรัมเลยทีเดียว
​​.
PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

Pawpro Thailand ถูกก่อตั้งขึ้นโดยของคนรักแมวกลุ่มหนึ่งที่ตกเป็นเยื่อฝันร้ายของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากโคโรน่าไวรัส พร...
27/08/2021

Pawpro Thailand
ถูกก่อตั้งขึ้นโดยของคนรักแมวกลุ่มหนึ่งที่ตกเป็นเยื่อฝันร้ายของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากโคโรน่าไวรัส พรากชีวิตสัตว์เลี้ยงที่รักไปโดยไม่ได้เข้าถึงการรักษาที่ถูกต้อง นำไปสู่การศึกษาเพื่อส่งต่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมวและแนวทางการรักษาที่ตรงจุดแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงท่านอื่นๆ

เพราะเราเชื่อว่าโคโรน่าไวรัสในแมวรักษาได้หากคุณได้ที่ปรึกษาที่ดี
เรายินดีเป็นคนนั้นให้คุณ

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

GS-441524 ฉีดอย่างไรให้ตรงจุดนอกจากการใช้สูตรคำนวนปริมาณการใช้งานคือ น้ำหนักของแมวหน่วยกิโลกรัม x (ปริมาณความเข้มข้นที่เ...
20/08/2021

GS-441524 ฉีดอย่างไรให้ตรงจุด
นอกจากการใช้สูตรคำนวนปริมาณการใช้งานคือ น้ำหนักของแมวหน่วยกิโลกรัม x (ปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสมตามอาการ FIP ของแมว / ปริมาณความเข้มข้นของยา
ตำแหน่งการฉีดก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยการวิจัยพบว่าร้อยละ 80 % การฉีดวัคซีนตัวนี้บริเวณเอวเหนือโคนหางของแมว มีอัตราการดูดซึมและออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าส่วนอื่น

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

แมวแต่ละช่วงวัยดูแลอย่างไรให้ห่างไกลโรค FIPโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Feline infectious peritonitis หรือ FIP) เป็นโรคติดเ...
16/08/2021

แมวแต่ละช่วงวัย
ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลโรค FIP

โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Feline infectious peritonitis หรือ FIP) เป็นโรคติดเชื้อในแมวที่จัดว่าอันตรายมาก หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ แมวที่แสดงอาการทางคลินิกของโรคนี้อาจจะเสียชีวิตในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้เลยทีเดียว

แมวที่ติดเชื้อ FCoV นี้ ไม่ได้น่ากลัวสำหรับคน เพราะ FCoV ติดต่อไปสู่ผู้เลี้ยงไม่ได้ แต่ FCoV สามารถติดต่อในกลุ่มแมวอย่างง่ายดายผ่านการกินหรือเลีย เชื้อไวรัสที่อยู่ในอุจจาระที่ปนเปื้อนในอาหาร บนตัวแมว หรือสิ่งของรอบตัวแมว โดยเฉพาะตอนที่แมวเข้าไปใช้กระบะทราย จึงไม่น่าแปลกใจหากพบว่าลูกแมวที่ซื้อมาจากฟาร์ม หรือแมวที่เลี้ยงรวมกันหลายตัวในบ้านได้ติดเชื้อไวรัสไปแล้ว บทความนี้จึงเป็นวิธีดูแลแมวที่บ้านให้ห่างไกลจากโรค FIP แต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ

1.ลูกแมว (อายุแรกเกิด – 1 ปี)
ลูกแมวตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึง 1 ปี มักเสี่ยงต่อการติดโรคจากแม่ ผ่านทางรก น้ำนมแม่ หรือจากการสัมผัสโดยตรง เช่น โรคติดเชื้อปรสิต หรือโรคติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่แมวมีภูมิต้านทานต่ำ จึงทำให้แมวมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ แต่แมวจะเป็นโรคได้มากในช่วงอายุระหว่าง 3เดือนเป็นต้นไป เนื่องจากลูกแมวจะได้รับภูมิคุ้มกัน Feline infectious peritonitis ( FIP ) เป็นโรคที่ FECV จากแม่แต่ภูมิคุ้มกันนี้จะค่อยๆลดลงที่ 5 ถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด ดังนั้นการทำวัคซีนจึงเป็นการป้องกันโรคที่สำคัญในช่วงวัยนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสและด้วยความที่แมวช่วงวัยนี้ชอบทำกิจกรรมมาก จึงทำให้เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ ที่อาจติดเชื้อผ่านทางบาดแผลตามมาได้

2.แมวโตเต็มวัย (อายุ 1 - 6 ปี)
ในช่วงโตเต็มวัย จะเป็นช่วงที่ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้แมวช่วงวัยนี้มีสุขภาพที่แข็งแรงมาก อย่างไรก็ตามยังอาจพบความผิดปกติได้ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพช่องปากและฟัน ภาวะน้ำหนักเกิน หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งหากติดเชื้อ FIP ขึ้นมาอาจส่งผลให้กลายพันธุ์ได้เช่นกัน

3.แมวสูงวัย (อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป)
ถือว่าเป็นกลุ่มที่สามารถพบการป่วยโรค FIP ได้มากเนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย มักแปรผกผันกับอายุของแมวที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้แมวสูงวัยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือความผิดปกติได้ง่ายกว่าแมวช่วงวัยอื่น ๆ ตัวอย่างโรคที่พบได้บ่อยในแมวสูงวัย เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคผิวหนัง โรคข้อเสื่อม ส่งผลต่อภาวะภูมิคุ้มกันต่ำในแมวสูงวัยโดยตรง

ขณะที่แมวที่กำลังเป็น FIP มักจะมีอาการป่วยไม่จำเพาะ เช่น ซึม กินอาหารน้อยลง เบื่ออาหาร บางตัวอาจมีไข้กลับซ้ำขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งกว่าจะสงสัย FIP อาจต้องรอจนแมวมีอาการผิดสังเกตชัดเจนคือท้องป่องหรือหายใจหอบถี่ เพราะมีของเหลวปริมาณมากสะสมในช่องท้องหรือช่องอก ซึ่งเป็นอาการของ Effusive form หรือมักเรียกกันว่า “แบบเปียก” ส่วนอาการ ม่านตาอักเสบเดินเซและขาอ่อนแรง หรืออาการทางระบบประสาทอื่นๆ ก็เป็นอาการของNon-effusive form หรือ “แบบแห้ง” ซึ่งสามารถพบในแมวที่เป็นFIP ได้เช่นกัน โดยอาการรุนแรงลักษณะนี้มักพบในแมวช่วงโตเต็มวัยไปจนถึงแมวสูงอายุ

เมื่อแมวมีอาการเข้าข่ายน่าสงสัย ไม่ว่าจะเป็นแมวในช่วงวัยไหน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยสัตวแพทย์จะประเมินความเสี่ยงของโรคจากอายุ การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม ประวัติเจ็บป่วย ประวัติการรักษา ร่วมกับอาการทางคลินิก เพื่อจะได้ให้การรักษาแต่เนิ่นๆ

แม้ว่าในปัจจุบันจะได้มีการศึกษาและพัฒนาวิธีการวินิจฉัยโรคให้มีความแม่นยำก็ตาม
แต่พบว่าไม่มีการตรวจสอบอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงลำพังที่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าสัตว์ป่วยเป็นโรค FIP
จำเป็นต้องอาศัยประวัติสัตว์ป่วยและการตรวจวินิจฉัยหลายๆอย่างร่วมกันตั้งแต่การตรวจเลือด การเอ็กซเรย์รวมทั้งการตรวจวิเคราะห์ของเหลวที่เก็บได้จากช่องอกและหรือช่องท้องของแมวที่สงสัยว่าจะป่วยเป็นโรค FIP ก็เป็นอีกการทดสอบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรค

อ้างอิงจากงานวิจัยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องการตรวจคัดกรองโมเลกุลขนาดเล็กที่ยับยั้งโปรติเอสหลักของไวรัสโคโรนาในแมวโดยใช้แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อศึกษายาหรือสารที่มีโมเลกุลเล็กที่สามารถต้านไวรัสโคโรนาในแมวชนิดที่ก่อโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อในแมวที่มีความรุนแรงมากในแมวอายุน้อยหรือแมวที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำและมีอัตราการตายสูง

โดยผลงานวิจัย พบสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ที่ต้านการติดเชื้อของไวรัส และต้านการทำงานโปรตีนของไวรัสโคโรนาได้โดยตรง จำนวน 3 สาร ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาต่อเป็นยารักษาโรคในกลุ่มไวรัสโคโรนาในแมว และโรคไวรัสโคโรนาอื่นๆ ต่อไป แต่เมื่อเรากล่าวถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ใช้แล้วเห็นผลและเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น “GS-441524”

ตัวยาชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองจากต่างประเทศเพื่อการรักษาโรค FIP ในแมว ด้วยความบริสุทธิ์มากถึง 99 % จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นพิษต่อความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดรวมถึงค่าเคมีในเลือดของแมว สามารถยับยั้งไวรัสได้อย่างกว้างขวางรวมไปถึงไวรัสในกลุ่ม RNA เช่น โรคซาร์ส และ อีโบล่า อีกด้วย

“น้ำลาย” อีกนึ่งปัจจัยสำคัญทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้รวดเร็วอย่างที่รู้กันว่า โรค FIP เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการก...
09/08/2021

“น้ำลาย” อีกนึ่งปัจจัยสำคัญทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้รวดเร็ว
อย่างที่รู้กันว่า โรค FIP เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีการกลายพันธุ์หรือเกิดกลไกของภูมิค้มกันของร่างกายเป็นตัวกระตุ้น เพราะโดยปกติเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นเพียงเชื้อที่ทำให้เกิดโรคท้องเสียในแมว (enteric coronavirus) ซึ่งโดยส่วนใหญ่ไม่รุนแรง แต่จะมีเพียง 5-10% ของแมวที่ติดเชื้อนี้แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นโรคไวรัสเยื่อบุช่องท้องอักเสบซึ่งเมื่อแสดงอาการของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบแล้วจะมีโอกาสเสียชีวิตถึง100% หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
นอกจากอุจจาระแล้วเชื้อไวรัสนี้จะสามารถปะปนออกมามากในน้ำลายของแมวที่มีเชื้อ ดังนั้นแมวที่มีความเสี่ยงในการติดโรคจึงมักเป็นแมวที่เลี้ยงรวมกัน ใช้ชามน้ำ และกระบะทรายร่วมกัน นอกจากนี้แม่แมวยังสามารถแพร่เชื้อไปสู่ลูกแมวโดยเฉพาะในช่วงอายุ 5-8 สัปดาห์

​​.
PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

โรค FIP ในแมว รู้เร็ว...รักษาได้เพราะการรอคอยแค่หนึ่งวันเท่ากับอีกหนึ่งก้าวที่หายไปจากการรักษาชีวิตโรค FIP ถือเป็นโรคร้า...
07/08/2021

โรค FIP ในแมว รู้เร็ว...รักษาได้
เพราะการรอคอยแค่หนึ่งวันเท่ากับอีกหนึ่งก้าวที่หายไปจากการรักษาชีวิต
โรค FIP ถือเป็นโรคร้ายแรง อันตรายถึงชีวิต แมวเริ่มแสดงอาการป่วยมักทรุดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาอันสั้นเพียง 1-3 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงการเลี้ยงแมวรวมกันหลายตัวในพื้นที่จำกัดซึ่งลดการแพร่เชื้อ และทำให้เกิดความเครียด ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเพิ่มความเสี่ยงในการป่วยจากโรคนี้มากขึ้น รักษาความสะอาดของกระบะทราย และแยกบริเวณที่ตั้งของกระบะทราย และชามน้ำและอาหาร นอกจากนี้ยังมีวัคซีนที่ช่วยรักษาและลดการกลายพันธุ์ของโรคได้อย่าง “GS-441524” ซึ่งถูกจัดว่าเป็นวัคซีนทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

หนึ่งงานวิจัย...ต่อลมหายใจของแมวทั้งโลกก่อนจะมาเป็นที่ยอมรับว่าเป็นยาต้านโคโรน่าไวรัสในแมวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้...
05/08/2021

หนึ่งงานวิจัย...ต่อลมหายใจของแมวทั้งโลก

ก่อนจะมาเป็นที่ยอมรับว่าเป็นยาต้านโคโรน่าไวรัสในแมวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย “GS-441524”ผ่านการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกลายมาเป็นทางรอดทางเลือกเดียวของแมวที่เป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากเชื้อโคโรน่าไวรัส ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นด้วยงานวิจัยชิ้นเล็กๆเมื่อไม่กี่ปีก่อน
งานวิจัยชิ้นแรกโดย Dr. Murphy จากแผนกพยาธิวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้คัดเลือกแมวที่โตเต็มวัยมาทั้งหมด 12 ตัว แล้วทำการฉีดเชื้อ serotype I FIPV-m3c-2 strain เข้าทางช่องท้อง จากนั้นประชากรแมวประมาณ 80% จะเริ่มมีอาการติดเชื้อ FIP คือ มีไข้ เม็ดเลือดขาวต่ำ ไม่อยากอาหาร ดีซ่าน และท้องมานภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ ณ จุดนี้ที่แมวแสดงอาการป่วยอย่างชัดเจน (ไม่เกิน 3 วัน) ทางคณะจะเริ่มการทดลองรักษาด้วย GS-441524 ปริมาณ 5 mg./kg. SC SID (กลุ่ม A, n = 5) และ 2 mg./kg. SC SID (กลุ่ม B, n = 5) เป็นเวลานาน 2 สัปดาห์ แมวอีก 2 ตัวที่เหลือไม่แสดงอาการป่วยใด ๆ จึงถูกใช้เป็นตัวแปรควบคุม แมวบางตัวได้รับการรักษาด้วยการให้สารน้ำเสริมฉีดใต้หนัง 50 cc. SID และ meloxicam 0.2 mg./kg. PO SID เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ แต่การรักษานี้จะถูกหยุดทันทีเมื่อเริ่มให้ GS-441524
หลังการทดลองรักษา 2 สัปดาห์จบลง หากพบว่ามีการกลับมาเป็นซ้ำของ FIP (ซึ่งมักเกิดในช่วง 4 สัปดาห์หลังเริ่มทดลองรักษา) คณะวิจัยก็จะทำการรักษาซ้ำด้วยวิธีเดิมต่ออีกเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นแมวทุกตัวจะถูกติดตามอาการต่อเนื่องเป็นเวลา 8 เดือน เพื่อดูการกลับมาเป็นซ้ำของ FIP ผลลัพธ์ที่ได้คือแมวที่ได้รับการรักษาด้วย GS-441524 ทั้ง 2 กลุ่ม มีอาการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตจาก FIP ได้ มีแมว 2 ตัวที่เกิดการเป็นซ้ำ แต่ก็มีอาการที่ดีขึ้นหลังได้รับการรักษาในแบบเดิม โดยแมวทั้ง 10 ตัวยังคงมีอาการปกติแม้เวลาผ่านไปมากกว่า 8 เดือนหลังได้รับเชื้อ
ในปี ค.ศ. 2019 Dr. Pedersen และคณะได้ทำการศึกษาที่คล้ายคลึงกับทาง Dr. Murphy แต่ต่างกันตรงที่ Dr. Pedersen เลือกกลุ่มประชากรแมวที่จะรักษามาจาก FIP ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทั้งหมด 31 ตัว โดยยืนยันคำวินิจฉัย FIP จากประวัติ การตรวจร่างกาย ผลเลือดประกอบด้วยความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด โปรตีนในซีรั่ม และการตรวจ RT-PCR ของ FIPV 7b RNA จากน้ำในช่องท้องหรือช่องอก ในกรณีที่เป็น dry form นั้นจะถูกส่งตรวจเพิ่มเติมโดยการตรวจอัลตราซาวด์ ทั้งช่องท้องและช่องอกเพื่อหารอยโรคปฐมภูมิ รวมถึงการส่งตรวจตาและระบบประสาท
ทางคณะได้เริ่มทดลองรักษาโดยใช้ GS-441524 ซึ่งได้มาจากบริษัท Gilead Sciences ในรูปแบบผงนำไปละลายให้ได้ความเข้มข้น 10 - 15 mg./ml. ใน 5% ethanol, 30% propylene glycol, 45% PEG 400, 20% น้ำ (pH1.5 และมี HCl) นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในขวดแก้วปลอดเชื้อสำหรับยาฉีดปริมาณ 50 cc. เขย่าขวดจนได้สารละลายแขวนตะกอน จากนั้นนำไปใส่ลงในอ่างน้ำคลื่นความถี่สูงนาน 5 - 20 นาที จนได้สารละลายใสเก็บในตู้เย็นได้ 3 - 4 สัปดาห์ ปริมาณยาที่ใช้ คือ 2 mg./kg. SID SC นาน 12 สัปดาห์ ในแมวบางตัวที่ยังมีค่าซีรั่มโปรตีนผิดปกติจะให้การรักษายืดต่อไปอีก 1 สัปดาห์หรือมากกว่า ในกรณีที่เกิดเกิดอุบัติเป็นซ้ำหรือต้องยืดระยะเวลาการรักษาจะมีการเพิ่มขนาดการให้เป็น 4 mg./kg
ก่อนเริ่มรักษาด้วย GS-441524 แมวจะถูกถอนยาอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด เช่น ยาปฏิชีวนะ, corticosteroid, interferons, pentoxifylline, NSAIDs, และยาแก้ปวด แมวจะถูกเฝ้าดูอาการอยู่ที่ UC Davis ซึ่งเป็นสถานที่ทำการวิจัย และจะได้รับการตรวจอุณหภูมิ ความอยากอาหาร กิจกรรมต่าง ๆ ปัสสาวะ และอุจจาระทุก ๆ 12 ชั่วโมง ได้รับการตรวจเลือดโดยตรวจ Hct, ซีรั่มโปรตีน, บิลิรูบิน, เม็ดเลือดขาว ทุก ๆ 1 - 3 วัน ในส่วนน้ำในช่องท้องจะทำการตรวจหาปริมาณ FIPV 7b RNA transcripts ด้วยวิธี (q)RT-PCR ณ วันแรกรับ และตรวจทุกวัน (หรือมากกว่า) นานเท่าที่จะทำได้ เมื่อแมวมีอาการดีขึ้น (โดยมากจะดีขึ้นใน 3 - 5 วัน) แมวจะถูกส่งกลับบ้านให้เจ้าของดูแลฉีดยา GS-441524 ต่อเนื่อง และบันทึกข้อมูลอุณหภูมิ กิจกรรมต่าง ๆ ความอยากอาหาร ปัสสาวะ อุจจาระ และน้ำหนักตัวเป็นประจำสม่ำเสมอ ทำการตรวจเลือดซ้ำเดือนละครั้ง
ผลลัพธ์ที่ได้พบว่าแมว 26 ตัวที่ได้รับการรักษาอย่างน้อย 12 สัปดาห์มีอาการดีขึ้นอย่างมาก ไข้หายไปภายใน 12 - 36 ชั่วโมงหลังการรักษา ความอยากอาหาร กิจกรรมต่าง ๆ และน้ำหนักตัวดีขึ้นในทุก ๆ วัน ภาวะท้องมานจะหายไปใน 1 - 2 สัปดาห์ น้ำช่องอกจะถูกระบายออกตั้งแต่วันแรกของการรักษา แต่ไม่พบว่ากลับมาเป็นซ้ำอีกหลัง 7 วัน ภาวะดีซ่านค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 - 4 สัปดาห์ ความผิดปกติภายในลูกตาเริ่มดีขึ้นภายใน 24 - 48 ชั่วโมง และดูเป็นปกติภายใน 7 - 14 วัน
แมวทั้ง 26 ตัวดูมีอาการปกติจากการประเมินของเจ้าของหลังเริ่มการรักษาได้ 2 สัปดาห์ จากแมวทั้งหมด 26 ตัว มีอยู่ 8 ตัวที่กลับมามีอุบัติการณ์ซ้ำของโรคภายใน 3 - 4 วัน ในกลุ่มนี้มีอยู่ 3 ตัวที่เจ้าของไม่ได้ให้ยาอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการ คณะศึกษาจึงได้ทำการเพิ่มปริมาณยา GS-441524 จาก 2 mg./kg. เป็น 4 mg./kg. ผลที่ได้พบว่าแมว 25 ตัว ที่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ขึ้นไปนั้นไม่มีอาการของโรค FIP นานสุดคือ 1 ปี 6 เดือน (นับตั้งแต่จบการศึกษาวิจัยจนถึงวันที่ได้ตีพิมพ์) สั้นที่สุดคือ 9 เดือน ผลข้างเคียงของยาฉีด (ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสื่อผสมหรือตัวยาเอง) ที่พบคืออาการเจ็บปวดหลังฉีดยาและปฏิกิริยาการอักเสบ ณ บริเวณที่ฉีด (focal injection site reaction) โดยไม่พบว่ายาทำให้เกิดปัญหาต่อค่าเคมีในเลือดใด
“GS-441524” เป็นยาต้านไวรัสที่ได้รับความสนใจในการนำมาใช้รักษาโรค FIP ช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันดูจะเป็นความหวังในการรักษา FIP ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ปริมาณยาที่ใช้จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาคือ 2 - 5 mg./kg. SID SC นาน 14 วัน แต่จากการศึกษาล่าสุดของ Dr.Pedersen ได้ให้ความเห็นว่า 4 mg./kg. SID SC อาจเป็นปริมาณที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและควรใช้เป็นปริมาณยาพื้นฐานสำหรับการศึกษาในอนาคตต่อไป ซึ่งมีงานวิจัยออกมารองรับประสิทธิภาพการรักษามากมาย จนวัคซีนตัวนี้กลายมาเป็นความหวังใหม่ในการรักษา FIP อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

ระยะเวลาการรักษาโรค FIP ในแมวด้วย GS-441524ปกติแล้วการรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 84 วัน หรือ 12 สัปดาห์ 12 สัปดาห์หรือ 84 วัน ...
03/08/2021

ระยะเวลาการรักษาโรค FIP ในแมวด้วย GS-441524
ปกติแล้วการรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 84 วัน หรือ 12 สัปดาห์ 12 สัปดาห์หรือ 84 วัน ซึ่งในแมวแต่ละตัวก็จะแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับปัจจัยการตอบสนองของยาและระยะลุกลามของเชื้อไวรัส
โดยความถี่ในการให้ยาควรจะฉีดยาให้แมวที่เป็นโรค FIP ทุกวันวันละ 1 เข็ม และเพิ่มปริมาณยาทุกอาทิตย์ตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของแมวและตรวจเลือดอย่างเป็นประจำกับสัตวแพทย์

GS-441524 ของ Pawpro Thailand
ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีงานวิจัยรองรับ ด้วยความบริสุทธิ์มากที่สุดในตลาดถึง 99% จึงสามารถมั่นใจได้ว่าแมวของคุณจะได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
​​.
PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเวลาที่แมวแต่งขนให้กัน เวลาที่...
01/08/2021

เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเวลาที่แมวแต่งขนให้กัน เวลาที่แมวใช้กระบะทราย ชามอาหาร หรืออุปกรณ์แปรงขนร่วมกัน

คำแนะนำเบื้องต้นเมื่อตรวจพบว่าแมวติดเชื้อโคโรน่าไวรัสจึงเป็นในเชิงการลดความเสี่ยงต่อการแพร่พันธุ์สู่แมวตัวอื่น สามารถทำได้ดังนี้

1.วางกระบะทรายให้ห่างจากชามอาหารและชามน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2.ตักปัสสาวะและอุจจาระในกระบะทรายไปทิ้งอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง (มากกว่า 2 ครั้งขึ้นไปต่อวันจะดีมาก)
3.จัดวางกระบะทรายไว้ในมุมที่จะสะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาด เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้บ่อยๆ
4.เลือกใช้ทรายแมวที่จับตัวเป็นก้อนได้ดี ไม่แตกตัวหรือกลายเป็นโคลนได้ง่าย
สิ่งปฏิกูลในกระบะทรายแมวจะได้ไม่เลอะทอะเปรอะเปื้อนติดใต้อุ้งเท้าแมวออกมานอกกระบะ
วางพรมดักทรายไว้ข้างกระบะ
5.ฆ่าเชื้อในกระบะทรายแมวเป็นประจำทุก 1 สัปดาห์ ด้วยการนำไปอบไอน้ำหรือราดด้วยน้ำร้อน

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

3 สัญญาณแรก เมื่อโรค FIP มาเยือนแมวของคุณ 🚨โรค FIP ที่เกิดขึ้นในแมวแต่ละตัวนั้นจะแสดงอาการแตกต่างกัน เนื่องจากแมวแต่ละตั...
31/07/2021

3 สัญญาณแรก เมื่อโรค FIP มาเยือนแมวของคุณ 🚨
โรค FIP ที่เกิดขึ้นในแมวแต่ละตัวนั้นจะแสดงอาการแตกต่างกัน เนื่องจากแมวแต่ละตัวมีระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่เหมือนกัน แต่สัญญาณเบื้องต้นสำหรับแมวที่เป็นโรค FIP ในระยะแรกมีอาการคล้ายกัน โดยเจ้าของแมวสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
สัญญาณที่ 1 ⚠️ อาการเบื่ออาหาร ไม่ทานอาหารหรือน้ำประมาณ 48 ชั่วโมง หรืออาจถึงขั้นต้องบังคับให้ทาน
สัญญาณที่ 2 ⚠️ ท้องโตจนผิดสังเกตุ แต่ตัวยังลีบเล็กลักษณะคล้ายแมวตั้งท้อง
สัญญาณที่ 3 ⚠️ ถ่ายเหลว อุจจาระมีสีและกลิ่นเหม็นผิดปกติ

โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบแมว หรือโรค FIP เป็นอีกหนึ่งโรคอันตรายในแมวที่ไม่ควรประมาท ดังนั้นผู้เลี้ยงแมวควรป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น แยกของใช้ของแมวออกจากกัน หมั่นสังเกตความผิดปกติ
หากแมวของคุณมีอาการครบทั้ง 3 สัญญาณดังนี้ควรจะรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการหรือสอบถามเราได้ เรา
ยินดีดูแลและให้คำแนะนำตลอดการรักษา

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

ทำไมต้องเลือก Pawpro Thailandโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP) ซึ่งเกิดจากโคโรน่าไวรัสเป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถทำอันตร...
28/07/2021

ทำไมต้องเลือก Pawpro Thailand

โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP) ซึ่งเกิดจากโคโรน่าไวรัสเป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถทำอันตรายได้ถึงชีวิต ด้วยเทคโนโลยีทางการสัตวแพทย์ในปัจจุบันได้คิดค้นวัคซีนสำหรับรักษาโรคนี้ได้แล้ว และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรให้ GS-441524 ของ Pawpro Thailand ดูแลแมวของคุณ

1. ดูแลและให้คำปรึกษาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ตรง
เรามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และตอบทุกข้อสงสัยของคุณ

2. วัคซีนของเราปลอดภัยและมีคุณภาพ
ตัวยาทุกขวดได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก Lab และมีงานวิจัยรองรับ ด้วยความบริสุทธิ์มากที่สุดในตลาดถึง 99% จึงสามารถมั่นใจได้ว่าแมวของคุณจะได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

PawPro Thailand 🐾
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line 📍: Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

ลูกแมวสามารถติดเชื้อจากแม่แมวที่เป็นโคโรน่าไวรัสผ่านการเลียขนทำความสะอาดได้หรือไม่ ?คำตอบคือ เป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากกา...
26/07/2021

ลูกแมวสามารถติดเชื้อจากแม่แมวที่เป็นโคโรน่าไวรัสผ่านการเลียขนทำความสะอาดได้หรือไม่ ?
คำตอบคือ เป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากการวิจัยพบว่าลูกแมวที่อายุน้อยกว่า 6 - 7 สัปดาห์ จะได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อผ่านทางน้ำนมของแม่แมวที่มีสารภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้
แต่หลังจากลูกแมวอายุ 7 สัปดาห์ไปแล้ว ถ้าลูกแมวยังอยู่ใกล้ชิดกับแม่แมวที่กำลังแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาออกมาทางอุจจาระ ลูกแมวก็จะสัมผัสและติดเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งมีอนุภาคเป็นจำนวนพันล้านอนุภาคในกระบะทรายที่ใช้ร่วมกับแม่แมวได้

PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

ทำไม GS-441524 ถึงเป็นทางรอดเดียวของแมวที่เป็นโรค FIPการรักษาแบบประคับประคองอาการ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ หรื...
25/07/2021

ทำไม GS-441524 ถึงเป็นทางรอดเดียวของแมวที่เป็นโรค FIP
การรักษาแบบประคับประคองอาการ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ หรือการเจาะน้ำในช่องท้องออก ไม่ได้ทำให้แมวรอดชีวิต

ยาตัวนี้จึงเป็นทางรอดและทางเลือกเดียว
ด้วยความบริสุทธิ์มากถึง 99 % หากใช้เป็นประจำต่อเนื่องกันอย่างน้อย 84 วัน ตามช่วงเวลาของงานวิจัยยาตัวนี้ จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และค่าเลือดกลับมาเป็นปกติมากที่สุด

​​.
PawPro Thailand
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line : Pawpro
#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

แมวติดเชื้อโคโรน่าไวรัส สามารถเลี้ยงรวมกับแมวตัวอื่นได้หรือไม่ ?เพียงแค่แมวที่เป็นโรคเลียขนหรือกินน้ำในขันเดียวกันกับแมว...
23/07/2021

แมวติดเชื้อโคโรน่าไวรัส สามารถเลี้ยงรวมกับแมวตัวอื่นได้หรือไม่ ?

เพียงแค่แมวที่เป็นโรคเลียขนหรือกินน้ำในขันเดียวกันกับแมวตัวอื่นก็สามารถแพร่เชื้อได้แล้ว
คำตอบของคำถามนี้คือ ไม่ได้ เด็ดขาด ‼️

เมื่อผลวินิจฉัยพบว่าแมวของคุณป่วยเป็นโรค FIP และที่บ้านของคุณยังมีแมวอีกหลายตัวที่ยังไม่แสดงอาการว่าป่วยด้วยโรคเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการแยกแมวที่ป่วยออกจากแมวตัวอื่น ๆที่เนื่องจากไวรัสโคโรน่ายังพบได้ในอุจจาระของแมวที่ป่วยเป็นโรค จึงจำเป็นที่จะต้องแยกกระบะทรายออกจากกันและต้องมีการทำความสะอาดกรง ขันน้ำ และกระบะทรายของแมวที่ป่วยเป็นโรคอย่างพิถีพิถัน โดยห้ามนำสิ่งของดังกล่าวมาใช้ร่วมกับแมวที่สุขภาพปกติเป็นอันขาด
อ้างอิงจากงานวิจัยของต่างประเทศ สามารถสรุปได้ว่าการเลี้ยงแมวกันอย่างหนาแน่น และความเครียดในแมวจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาของโรคไปเป็นโรค FIP ได้ แมวที่เลี้ยงอยู่ภายในบ้านตัวเดียวเลี้ยงแบบอิสระการจึงทำให้อัตราการเกิดโรคนี้มีน้อยที่สุด
PawPro Thailand 🐾
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line 📍: Pawpro

#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

การตรวจวินิจฉัยโรค FIP ในแมวอย่างที่รู้กันว่า โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว หรือ (FIP) เป็นโรคที่ติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากร...
21/07/2021

การตรวจวินิจฉัยโรค FIP ในแมว
อย่างที่รู้กันว่า โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว หรือ (FIP) เป็นโรคที่ติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับอวัยวะใดๆนั้นก็จะเป็นผลเสียทำลายระบบต่างๆซึ่งสามารถพบได้บ่อยว่ามีผลกับอวัยวะในช่องท้องอวัยวะในช่องอก ตา และรวมถึงระบบประสาท โดยช่วงอายุที่มีความเสี่ยงสูงที่จะพบได้บ่อย ได้แก่แมวอายุน้อยกว่า 2 ปี และแมวแก่อายุมากกว่า 17 ปีคือช่วงที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง โรคนี้มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโคโรน่าในแมวแต่เป็นคนละสายพันธุ์กับเชื้อไวรัสโคโรน่าในคนที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

การวินิจฉัยยืนยันโรคนี้สามารถตรวจโดยการผ่าพิสูจน์และยืนยันทางพยาธิวิทยาได้ นอกจากนั้น ยังสามารถใช้การตรวจวินิจฉัยหลายอย่าง ประกอบเพื่อช่วยในการวินิจฉัย

1. การตรวจทางประวัติ
เช่น มีประวัติการเลี้ยงแมวหลายตัวในพื้นที่เดียวกัน มีประวัติที่ทำให้แมวเครียด เช่น เปลี่ยนที่อยู่ การทำหมัน หรือ ผ่าตัดต่างๆ

2. การตรวจทางคลินิค
ซึ่งสามารถแบ่งเป็นสองชนิดอย่างที่เคยอธิบายในบทความก่อนหน้านี้
แบบแรกคือ FIP แบบเปียก แมวอาจจะดูเป็นปกติหรือซึมได้ มักจะมีไข้อยู่ที่ 39-39.5องศา และอาจจะพบร่วมกับอาการ ท้องกาง มีน้ำในช่องท้อง และช่องอก
แบบที่สองคือ FIP แบบแห้ง แมวที่ป่วยมักจะมีไข้นานกว่า 4 วัน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร นอกจากนี้อาจพบภาวะ ตัวเหลือง คล้ายดีซ่าน

3. การวิเคราะห์อาการ
ผลการตรวจที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการเกิดโรค FIP ได้แก่
- น้ำในช่องอกหรือส่วนต่างๆมักพบว่ามีสีฟางข้าว หรือใส เหนียว และมักจับตัวเป็นก้อนเมื่อนำไปแช่เย็น ถ้าได้ของเหลวเป็นเลือด มีหนองปน หรือมีกลิ่น ลักษณะดังกล่าวไม่บ่งบอกการเป็นโรค FIP
- Rivalta Test เป็นการตรวจที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลได้ง่าย โดยจะวิเคราะห์จากโปรตีนในน้ำที่เจาะได้จากช่องอกหรือช่องท้อง

4. การ Ultrasound ร่วมกับการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR
สามารถตรวจหาได้จากการเจาะดูดน้ำในอุจจาระหรือสารคัดหลั่งจากแมวโดยใช้ตรวจในกรณีที่แมวมีเริ่มอาการในระบบทางเดินอาหาร ไม่สามารถย่อยหรือขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ตามปกติ
หากผลวินิจฉัยพบว่าแมวของคุณป่วยเป็นโรค FIP และที่บ้านของคุณยังมีแมวอีกหลายตัวที่ยังไม่แสดงอาการว่าป่วยด้วยโรคเดียวกัน สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการแยกแมวที่ป่วยออกจากแมวตัวอื่น ๆ เนื่องจากไวรัสโคโรน่าสามารถติดต่อกับแมวได้ผ่านน้ำลาย เพียงแค่แมวที่เป็นโรคเลียขนหรือกินน้ำในขันเดียวกันกับแมวตัวอื่นก็สามารถแพร่เชื้อได้แล้ว เพราะฉะนั้น จึงต้องระวังเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ไวรัสโคโรน่ายังพบได้ในอุจจาระของแมวที่ป่วยเป็นโรค จึงจำเป็นที่จะต้องแยกกระบะทรายออกจากกัน และต้องมีการทำความสะอาดกรง ขันน้ำ และกระบะทรายของแมวที่ป่วยเป็นโรคอย่างพิถีพิถัน โดยต้องใส่ใจห้ามนำสิ่งของดังกล่าวมาใช้ร่วมกับแมวที่สุขภาพปกติเป็นอันขาด

FIP แบบเปียกความทรมาน...เกินคาดคิดอาการติดเชื้อในระบบภูมิคุ้มกันภายในหากเกิดขึ้นกับอวัยวะใดก็จะเป็นผลเสียทำลายระบบนั้นๆ ...
12/07/2021

FIP แบบเปียก
ความทรมาน...เกินคาดคิด

อาการติดเชื้อในระบบภูมิคุ้มกันภายใน
หากเกิดขึ้นกับอวัยวะใดก็จะเป็นผลเสียทำลายระบบนั้นๆ สามารถพบได้บ่อยว่ามีผลกับอวัยวะในช่องท้อง, อวัยวะในช่องอก, ตา รวมถึงระบบประสาท ซึ่งอาการดัง กล่าวเป็นลักษณะของ “FIP แบบเปียก”

FIP แบบเปียกอาการเป็นยังไง ?
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ มีของเหลวในช่องท้อง
เกิดจากภาวะการติดเชื้อในระบบภายในจนเกิดภาวะอักเสบ ส่งผลให้เกิดการสะสมของเหลวจนท่วมอุดตันในช่องท้อง ทำให้ท้องการขยาย ส่งผลให้แมวหายใจลำบาก และมีอาการอื่นๆตามมา เช่น อ่อนแรง, น้ำหนักลด, ซึม, เบื่ออาหาร, มีไข้สูง ที่ไม่ตอบสนองต่อยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ หรือยาฆ่าเชื้อ, ต่อมน้ำเหลืองโต, และเลือดจาง

อย่างไรก็ตามอาการดังที่กล่าวในข้างต้นนั้นมีอาการคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆที่ไม่อันตรายถึงชีวิต ซึ่งเจ้าของแมวควรนำแมวไปพบสัตว์แพทย์เพื่อตรวจสอบอาการอย่างถูกต้องโดยการเจาะเลือดหาสาเหตุที่แน่นอนเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

การตรวจวินิจฉัยและจำแนก FIP แบบเปียกในแมว
ด้วยเทคโนโลยีทางการสัตวแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้การวินิจฉัยสามารถทำได้หลากหลายวิธี
เช่นการเจาะดูดของเหลวจากช่องท้องเพื่อตรวจวิเคราะห์ความเข้มเข้นของโปรตีนและเซลล์ต่างๆจากของเหลวที่เจาะดูดออกมา เพื่อบอกความน่าจะเป็นของการเป็น FIP ซึ่งบางกรณีอาจมีการตรวจเลือดตรวจค่าเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว รวมไปถึงเก็บตัวอย่างน้ำจากไขสันหลังเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าได้
สำหรับแมวที่ไม่ได้แสดงอาการอย่างหนึ่งอย่างใดออกมาปรากฏให้เห็นเด่นชัดนั้น สัตวแพทย์อาจใช้วิธีตรวจวินิจฉัยหลายวิธีประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคอัตราซาวด์ เทคนิค PCR เพื่อตรวจหาเชื้อ และภาวะความผิดปกติในการทำงานของตับ ไต สมอง และระบบทางเดินอาหาร นับว่าเป็นขั้นตอนที่มีความท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อแมวป่วยด้วยโรคFIPแบบเปียก
สิ่งแรกที่ต้องทำคือการแยกแมวที่ป่วยออกจากแมวตัวอื่น ๆ เนื่องจากไวรัสโคโรน่าสามารถติดต่อกับแมวได้ผ่านน้ำลาย เพียงแค่แมวที่เป็นโรคเลียขนหรือกินน้ำในขันเดียวกันกับแมวตัวอื่นก็สามารถแพร่เชื้อได้แล้ว เพราะฉะนั้น จึงต้องระวังเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ไวรัสโคโรน่ายังพบได้ในอุจจาระของแมวที่ป่วยเป็นโรค จึงจำเป็นที่จะต้องแยกกระบะทรายออกจากกัน และต้องมีการทำความสะอาดกรง ขันน้ำ และกระบะทรายของแมวที่ป่วยเป็นโรคอย่างพิถีพิถัน ไม่ให้ปะปนกับแมวที่สุขภาพปกติเป็นอันขาด
โรค FIP จากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าไวรัสในแมวนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมาก การสัมผัสเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้ติดเชื้อไวรัสได้ในทันที ซึ่งการติดต่อของไวรัสนั้นติดต่อผ่านทางอุจจาระของแมวตัวที่มีเชื้อนี้อยู่ ซึ่งแมวที่ติดเชื้อตัวนี้นั้นจะมีผลเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น ติดเชื้อไวรัสตัวนี้ถาวรตลอดชีวิต หรือภูมิคุ้มกันสามารถกำจัดไวรัสทิ้งได้หมด แต่สามารถติดซ้ำได้อีกในอนาคต หรือมีภูมิต้านทานไวรัสตัวนี้ตลอดชีวิต หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุด

วัคซีนที่ได้ผลในการรักษาและได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันคือ “GS-441524" ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวยานี้ทำหน้าที่เป็น Anti-Virus ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับน้องแมวตามอาการที่เค้าเป็นอยู่เนื่องจากไวรัสโคโรน่าจะส่งผลให้การทำงานของระบบและกลไกต่าง ๆ ภายในร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงานลง กระทั่งเข้าสู่ภาวะล้มเหลวในท้ายที่สุด การใช้วัคซีนร่วมกับกลุ่มยาสเตียรอยด์เพื่อลดปริมาณน้ำในหลอดเลือดหรือช่องอกของแมวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษา FIP แบบเปียก

การลดความเสี่ยงโรค FIP คือ ลดจำนวนแมวที่เลี้ยงไว้ให้มากที่สุด จำนวนยิ่งน้อยโอกาสเกิดยิ่งลดต่ำ พร้อมทั้งเลี่ยงการทำให้ร่างแมวแมวอ่อนแอ ลดการสัมผัสกับแมวตัวอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ไม่เล่นกับแมวตัวอื่น ไม่พาแมวออกไปเล่นกับตัวอื่น ถอดรองเท้าไว้ในที่ๆแมวเข้าไม่ถึง เนื่องจากเราอาจจะไปเหยียบอุจจาระแมวตัวอื่นที่มีไวรัส FIP
เข้า หมั่นดูแลความสะอาดของน้ำ อาหาร และของเล่น เพราะสุดท้ายแล้วการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีคือการลดความเสี่ยงต่อการติดไวรัสได้ดีที่สุด

FIP แทรกซึมไปที่ดวงตา สัญญาณโคม่าของโคโรน่าไวรัสอาการ Ocular สังเกตุที่ดวงตาของน้องแมวหากมีต้อขึ้นที่ดวงตานั้นหมายความว่...
10/07/2021

FIP แทรกซึมไปที่ดวงตา สัญญาณโคม่าของโคโรน่าไวรัส
อาการ Ocular สังเกตุที่ดวงตาของน้องแมวหากมีต้อขึ้นที่ดวงตานั้นหมายความว่า FIP แทรกซึมไปที่ดวงตาเป็นที่เรียบร้อยซึ่ง ถ้ามีอาการในลักษณะนี้แสดงว่าอยู่ในอันตรายขั้นวิกฤต
หากปล่อยไว้นานๆมีโอกาสลุกลามไปยังระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ระบบสั่งการบกพร่อง ส่งผลให้มีอาการเดินไม่ตรง ทรงตัวไม่ได้ตามมา

PawPro Thailand 🐾
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line 📍: Pawpro

#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

FIP ในแมวรักษาได้ ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่สุด...ไม่ใช่วัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด“GS-441524” ค้นพบโดยบริษัท Gilead Sc...
09/07/2021

FIP ในแมวรักษาได้
ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่สุด...ไม่ใช่วัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด

“GS-441524”
ค้นพบโดยบริษัท Gilead Sciences ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2558 ผ่านการวิจัยทดลองจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นยาต้านโคโรน่าไวรัสในแมวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ถึง 99 % จึงมีโมเลกุลที่มีความสามารถยับยั้งไวรัสได้อย่างกว้างขวางรวมไปถึงไวรัสในกลุ่ม RNA เช่น SARS , Ebola และ Syncytial virus ได้อีกด้วย

PawPro Thailand 🐾
ให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับ
วัคซีนทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
สอบถามและปรึกษาฟรี inbox หรือ Add line 📍: Pawpro

#รักษาfip #ยารักษาfip #โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว #วัคซีนแมว #แมวป่วย #โคโรน่าแมว #ยารักษาแมว ักษาได้ #ยารักษาfipในไทย

ค.ศ.1966อุบัติการณ์เชื้ออันตรายที่สุดในโลกของแมวโคโรน่าไวรัสอาจเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับมนุษย์แต่สำหรับโลกของแมว ผ่านร้อน...
09/07/2021

ค.ศ.1966
อุบัติการณ์เชื้ออันตรายที่สุดในโลกของแมว

โคโรน่าไวรัสอาจเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับมนุษย์
แต่สำหรับโลกของแมว ผ่านร้อนผ่าหนาวต่อสู้กับไวรัสนี้มาเกือบ 6 ทศวรรษ

โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสในแมว (FIP) ตรวจพบอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาปี ค.ศ.1966 (พ.ศ. 2509) จากทดลองการฉีดเชื้อของสัตว์ป่วยในแมวสุขภาพดี นำไปเพาะเลี้ยง และมีการยืนยันว่าสามารถเป็นโรคติดต่อร้ายแรงถึงแก่ชีวิตโดยมีสาเหตุจากเชื้อไวรัส

ต่อมาในปี 1968 ดร.ปีเตอร์สัน นักไวรัสวิทยาชื่อดังในยุคนั้น ได้สันนิษฐานอ้างอิงจากประสบการณ์ภาคสนามกว่า 40 ปี วิจัยเชื้อไวรัส FIP ในแมวควบคู่ไปกับวิจัยเชื่อ COV ในสุกรและสุนัข สามารถคาดเดาได้ว่าวิวัฒนาการของเชื้อเหล่านี้อาจจะรุนแรงขึ้นในศตวรรษที่ 20 จากเนื่องจากการนิยมนำแมวมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้นกว่าในยุคก่อนๆ ทำให้เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์กันมากขึ้น ทำให้เกิดเชื้อสามารถกลายพันธุ์ง่ายและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จนเป็นที่มาของชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โคโรน่าไวรัส”

“เชื้อโคโรน่าไวรัสในแมว”
เป็นชนิดเดียวกันกับโรคซาร์ส หรือเมอร์สที่เกิดขึ้นในคน ระบาดอย่างหนักเมื่อหลายปีก่อน ที่สำคัญ สามารถแพร่พันธุ์ได้ง่ายในทุกสภาพอากาศ และสามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากแมวตัวหนึ่งไปสู่อีกตัว ยิ่งหากอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่แล้ว ก็นับว่าเสี่ยงอย่างมากที่แมวทั้งหมดจะติดไวรัสโคโรน่าได้เหมือนกันทุกตัวโดยในยุคนั้นระหว่าง ค.ศ. 1966 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นช่วงที่พึ่งผ่านพ้นยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมมาไม่นาน บ้านเรือนถูกแทนที่ด้วย ทั้งโรงงานเหล็ก โรงงานรถยนต์และรถจักรต่างๆ แมวสมัยนั้นจึงถูกเลี้ยงรวมกันในสภาพแออัด กินนอนขับถ่ายที่เดียวกัน ต้องทนมลพิษทางอากาศจากควันและของเสียที่โรงงานปล่อยออกมา ทำให้มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องกาง หายใจลำบาก อาเจียน และอาการอื่นจำพวก ดีซ่าน หายใจลำบาก ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องโต ทำให้ Feline infectious peritonitis หรือ FIP ในแมวยุคนั้นถือเป็นโรคที่ท้าทายและอันตรายมาก โอกาสรอดแทบจะเป็นศูนย์ การรักษาการรักษาจึงเป็นไปเพื่อประคับประคองอาการของแมวให้สามารถอยู่ได้นานที่สุด และรักษาไปตามอาการที่กำเริบขึ้นในขณะนั้น อาทิ การให้ยากันชัก ยาลดไข้ ยาบำรุงตับ ยาปฏิชีวนะ ตลอดจนยาในกลุ่มสเตียรอยด์เพื่อลดปริมาณน้ำในหลอดเลือดหรือช่องอกของแมว ตามปกติแล้ว เมื่อแมวได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรค FIP นั้นจะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากไวรัสโคโรน่าจะส่งผลให้การทำงานของระบบและกลไกต่าง ๆ ภายในร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงานลง กระทั่งเข้าสู่ภาวะล้มเหลวในท้ายที่สุด ดังจะเห็นได้จากได้ช่วงแรกไวรัสดังกล่าวจะทำอันตรายต่อสมองและระบบประสาททำให้การสั่งการอวัยวะต่าง ๆ มีปัญหา รวมทั้งทำให้ระบบทางเดินอาหารล้มเหลว ไม่สามารถย่อยหรือขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ตามปกติ ด้วยยุคนั้นกำลังก้าวเข้าสู่สงครามเย็นที่ชาติมหาอำนาจแข่งขันการเพื่อความก้าวหน้าทางทหาร วิทยาศาสตร์การแพทย์จึงไม่ได้รับการพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป...เชื้อไวรัสก็เปลี่ยนตาม
เชื้อโคโรน่าไวรัส สาเหตุของโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบของแมว (FIP) ในปัจจุบันมีการวิวัฒนาการตัวเองกลายเป็นเชื้อไวรัสที่พบได้ในระบบทางเดินอาหาร อาการที่พบได้มีอาการที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มกันของแมวแต่ละตัว การติดเชื้อส่วนใหญ่อาจจะเกิดได้สองลักษณะคือไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจก่อให้เกิดการติดเชื้อท้องเสีย โดยอาการที่เกิดขึ้นมักพบได้มากในลูกแมวที่มีอายุระหว่าง 5-7 สัปดาห์ เนื่องจากแอนติบอดี้ที่ได้จากแม่แมวจะเริ่มลดน้อยลงจึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

ซึ่งสามารถจำแนกได้สองแบบ แบบแรกคือแบบเปียก แบบเปียกจะก่อให้เกิดการสะสมของน้ำในช่องท้องของแมว สามารถสังเกตได้ง่าย ส่วนแบบที่สองคือแบบแห้ง ซึ่งจะไม่มีการสะสมของน้ำในช่องท้อง

ศตวรรษที่ 20
FIP ถูกให้ความสำคัญและกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่เฉพาะในวงการสัตวแพทย์เท่านั้น โรค FIP ในแมวเคยเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เรื่อง Aeris (2018) กำกับโดย Paul Castro Jr. และ Aly Miller และนำแสดงโดย Frank Deal, Arabella Oz และ Betsy Aidem เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกแมวที่เกิดมาพร้อมกับ FIP ที่ซื้อมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ Garden State ปี 2018 ในหมวด Narrative Short และได้รับรางวัล Gold Kahuna จากงาน Honolulu Film Awards ประจำปี 2018 อีกด้วย

ครั้งหนึ่งโรค FIP ถูกขนานนามว่าเป็นโรคร้ายที่มีความรุนแรงต่อแมวเทียบเท่ากับโรคมะเร็งของมนุษย์เลยทีเดียว ทางการแพทย์จึงวิจัยและคิดค้นวัคซีนชนิดหนึ่งชื่อว่า “GS-441524” มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อโคโรน่าไวรัสในแมว จากการทดสอบโตเต็มวัยมาทั้งหมด 12 ตัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แล้วทำการฉีดเชื้อ serotype I FIPV-m3c-2 strain เข้าทางช่องท้อง จากนั้นประชากรแมวประมาณ 80% จะเริ่มมีอาการติดเชื้อ FIP คือ มีไข้ เม็ดเลือดขาวต่ำ ไม่อยากอาหาร ดีซ่าน ในเวลา 2-3 สัปดาห์ หลังการทดลองรักษา 2 สัปดาห์จบลง พบว่าแมวทั้งง 2 กลุ่ม มีอาการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตจาก FIP ได้ มีแมว 2 ตัวที่เกิดการเป็นซ้ำ แต่ก็มีอาการที่ดีขึ้นหลังได้รับการรักษาในแบบเดิม โดยแมวทั้ง 10 ตัวยังคงมีอาการปกติแม้เวลาผ่านไปมากกว่า 8 เดือนหลังได้รับเชื้อ จนวัคซีนตัวนี้กลายมาเป็นความหวังใหม่ในการรักษา FIP อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากวัคซีนสำหรับโรค FIP ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่วัคซีนหลัก จึงไม่มีการฉีดวัคซีนสำหรับโรคนี้ให้ลูกแมวหรือแมวทุกตัว
เพื่อให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันมากขึ้นสำหรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ หากคุณมีข้อสงสัยเรายินดีให้คำปรึกษาฟรี

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ PawPro Thailand ทางเลือกใหม่เพื่อการรักษาโรค FIPในแมวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง PawPro Thailand ทางเลือกใหม่เพื่อการรักษาโรค FIPในแมว:

แชร์


บริการสำหรับสัตว์เลี้ยง อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด