09/04/2024
แมวมีของเหลวในช่องอก หรือ ช่องท้องก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบเสมอไปนะคะ  ต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน (เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน มันก็ไม่หายคัน)
ถ้าหากมีข้อสงสัยว่าแมวที่เลี้ยงไว้เป็นโรคอะไร สามารถทักเข้ามาสอบถามหรือพาเข้ามาตรวจวินิจฉัยเพิ่มได้เลยค่ะ
ไม่ใช่แพะรับบาป
เจ้าเหมียวป่วย ซึม ไม่ทานอาหาร บางทีตัวเหลือง บางตัวเจอของเหลวในช่องอก บางตัวเจอของเหลวในช่องท้อง บางตัวชัก บางตัวมีอาการทางประสาท อย่าพึ่งคิดว่าเจ้าเหมียวของเราจะเป็น FIP (Feline Infectious Peritonitis) ไปเสียทั้งหมดนะครับถ้ายังหาสาเหตุ-วินิจฉัยไม่ได้จนสุดทาง
อาการที่เรามักเจอบ่อยๆแล้วทำให้หลายๆคนคิดว่าแมวเป็น FIP นั้น คือมีของเหลวในช่องอกหรือช่องท้อง (wet form FIP) โดยโรคที่จะมีอาการคล้ายๆกันก็คือโรคมะเร็งในช่องท้องและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma), ภาวะโปรตีนในเลือดต่ำ, ตับวาย,ไตวาย,โรคหัวใจ, โรคต่างๆ (นอกจาก FIP) ที่ทำให้เกิดเยื่อบุช่องอกและช่องท้องอักเสบ ทำให้มีของเหลวและโปรตีนรั่วออกมา, การอุดตันของระบบน้ำเหลือง, โรคการติดเชื้อในช่องอก, หรือแม้กระทั้งการติดเชื้อในกระแสเลือด ก็อาจทำให้มีอาการคล้ายโรค FIP ได้เช่นเดียวกัน
นอกจาก wet form แล้ว โรค FIP ก็ยังอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกว่า dry form FIP ที่จะไม่พบของเหลวสะสมอยู่ในช่องอกหรือช่องท้อง แต่จะพบว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นเป็นก้อนหนอง (pyogranuloma inflammation) ตามอวัยวะต่างๆ ทำให้การวินิจฉัยยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้เจ้าเหมียวมีอาการคล้าย dry form FIP เช่น การติดเชื้อโปรตัวซัว ชนิด Toxoplasma, การติดเชื้อกลุ่มไวรัสเอดส์/ ลิวคีเมีย, โรคสมองหรือไขสันหลังอักเสบ, โรคความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับไขสันหลัง, บางตัวอาจจะเห็นลักษณะของม่านตาอักเสบ (uveitis) ซึ่งก็ควรต้องนึกถึงโรคทางระบบต่างๆที่ส่งผลถึงลูกตาร่วมด้วยครับ เหมือนดังคำกล่าวที่ว่าดวงตาเป็นหน้าตาของหัวใจ (แล้วต้องมองดวงตาคู่ไหนถึงจะมีคนเปิดประตูหัวใจให้สักที)
หากเราคิดว่าแมวที่เราเลี้ยงหรือให้การดูแลอยู่เป็น FIP โดยที่ละเลยโรคและความผิดปกติอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่มีอาการคล้ายกันกับการติดเชื้อ FIP ก็ย่อมทำให้การรักษาดำเนินไปได้ไม่ถูกทาง ในทางกลับกันแมวที่เป็น FIP ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็วมีโอกาสหายได้ถึง 70% เลยทีเดียวครับ ซึ่งทั้งสองกลุ่มโรคถ้าหากปล่อยไว้นานจนเกินไป พอรู้ถึงสาเหตุแล้วกลับมารักษาอย่างจริงจังก็อาจจะไม่ทันการเสียแล้ว