ชีวิตผูกพันกับการเลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ที่สนใจเลี้ยงตามสายพันธ์แท้ ที่ถูกต้อง ประมาณปี 2530 โดยเริ่มจาก สุนัขพันธ์ไทยหลังอาน ตามความนิยมและกลุ่มพี่ ๆ เพื่อนๆที่สนใจเลี้ยงกันในยุคนั้น ต่อมาเปลี่ยนเป็นพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ฉลาด แสนรู้ น่ารัก น่าเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องเลิกราไป เพราะภาระหน้าที่การงานที่เพิ่มขึ้น และต้องไปตระเวณอยู่ตามต่างจังหวัด ไม่ได้พัฒนาผสมพัน
ธุ์เพิ่ม ที่มีอยู่ค่อย ๆ ตายไป จนหมดสายพันธุ์ กลับมาเลี้ยงอีกครั้งหันมาเลี้ยงพันธุ์ลาบราดอร์ น่ารักไม่แพ้โกลเด้นท์ แต่ขนสั้น ดูแลง่ายกว่า แต่ต้องเสียใจอย่างแรงเพราะมันต้องตายไป เมื่ออายุเพียง 10 เดือน
เลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่มาตลอด ไม่เคยสนใจสุนัขพันธุ์เล็ก เพราะไม่ต้องการ และเกลียดการเลี้ยงในบ้านที่ปะปน กับชีวิตผู้คน และครอบครัวคงไม่มีใครยอมให้เอาเข้ามาเลี้ยงในบ้าน ตอนไปทำงานที่นครปฐมมีโอกาสได้เห็น บ้านที่เลี้ยงพันธุ์ชิวาวา เกือบ 50 ตัว มองดูวิ่งกันน่ารักดี หลากสี หลายสไตล์ แต่ดูเหมือนไม่เป็นภาระในเรื่อง การกิน การถ่าย การดูแล ขนย้าย จึงเกิดความสนใจเสาะแสวงหา ชิวาวา ตัวแรก เพศเมีย ขนยาว สีแฟนซี สายพันธุ์ไต้หวัน มาเลี้ยงเป็นตัวแรก ปัญหาต่อมาคือจะนำเข้าเลี้ยงในบ้านได้อย่างไร แต่ปัญหานี้กลับหมดไป
เพราะได้รับการต้อนรับจากสมาชิกในบ้านเป็นอย่างดี เพราะการเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กในบ้าน จะสร้างบรรยากาศ
ใหม่ มีความใกล้ชิด เหมือนมีเด็กเล็ก ลูกหลาน อยู่ภายในบ้าน กลายเป็นความผูกพัน เสมือนคนในครอบครัว
เริ่มจากตัวแรก ปัจจุบันออกลูกหลาน รวมทั้งหามาเพิ่มรวมเป็น 12 ตัว ต่อเติมบ้าน ขยายห้องให้นอนเป็นสัดส่วน ถึง 2 ห้อง ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน นอกจากจะให้ความสุข ความเพลิดเพลิน กับสมาชิกในบ้านแล้ว ยังน่าจะทำ
ประโยชน์ตองแทนเจ้าของบ้านได้ในเรื่องสำคัญ 2 เรื่องคือ
1. เสี่ยงเห่าของบรรดาหมาหมู่ คงจะสร้างความหวาดระแวงให้คนร้าย หัวขโมยที่จะเข้ามา
ในบริเวณบ้าน ให้คิดหน้าคิดหลัง ได้เป็นอย่างดี
2. ปล่อยให้วิ่งเล่นรอบบ้านเมื่อไหร่ คงจะช่วยขับไล่ บรรดางูเงี้ยว เขี้ยวขอ ใส่เลื้อยคลานที่ไม่พึงประสงค์
ให้ลดน้อย ถอยไปหรือ่ส่งเสียงให้เจ้าของบ้านได้รู้ตัว ระมัดระมัดระวัง ได้เป็นอย่างดี
เท่านี้ก็คงเป็นเหตุผลในการ เสาะแสวง เลือกหาเลี้ยง ชิวาวา กันนะครับ